สภ.เกาะเต่า ส่งชิ้นเนื้อ ตรวจพิสูจน์ ปูพรมค้นหาต่อพบเสื้อกล้าม-หน้ากากดำน้ำ เปรียบเทียบDNA กับสาวรัสเซีย

10 มีนาคม 2560, 08:24น.


กรณี น.ส.วาเลนติน่า โนวาชเฮโนว่า อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซีย หายตัวไปอย่างลึกลับ ภายหลังเดินทางมาเที่ยวที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. เพียงลำพัง โดยเข้าพักที่โรงแรมเกาะเต่าโฮสเทล หมู่ 3 ถนนบ้านเก่า ต.เกาะเต่า จนกระทั่งวันที่ 15 ก.พ. นักท่องเที่ยวสาวรายนี้ไม่กลับเข้าที่พักอีกเลยและทิ้งทรัพย์สินส่วนตัวไว้ ล่าสุด มีรายงานว่าพบชิ้นเนื้อในทะเล  เกาะเต่า ใกล้เคียงกับจุดที่น.ส.วาเลนติน่า หายตัวไป



พ.ต.ท. โชคชัย สุทธิเมฆ สารวัตรใหญ่สภ.เกาะเต่า ให้ข้อมูลกับจส.100 ว่า เจ้าหน้าที่แบ่งชุดการค้นหาทั้งบนเขา ชายฝั่ง ในน้ำ ออกค้นหากันทุกวัน โดยแบ่งกันทำงานเป็น 3 ชุด  และเมื่อวานนี้ตอนเวลาประมาณ 15.00น. ชุดนักประดาน้ำ ของร.ต.อ.จักรพันธ์ แก้วขาว รองสว.สส.สภ.เกาะเต่า  พบชิ้นส่วนคล้ายๆชิ้นเนื้อ ขนาดประมาณเท่าฝ่ามือ จึงนำขึ้นมาพบว่าชิ้นเนื้อมีเศษกระดูกติดมาด้วย จุดที่เจอชิ้นเนื้อลึกลงไปประมาณ 4-5 เมตร ห่างจากอ่าวโฉลก ที่พักของสาวรัสเซีย และร้านเจพีรีสอร์ท ที่ผู้สูญหายไปนั่งบ่อยๆ ประมาณ 400 ม.จุดที่เจอชิ้นเนื้อเป็นแนวหิน เป็นชิ้นเนื้อที่เน่าเปื่อยแล้ว น่าจะเป็นของมนุษย์ เก็บได้มา3ชิ้น ไม่ใหญ่มาก ตอนนี้กำลังส่งไปตรวจที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ กำลังรอ ฮ.ของภาค 8 มารับชื้นเนื้อเพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์ และได้สั่งให้ปูพรมในการค้นหา และจากจุดที่เจอชิ้นเนื้อห่างไปอีก100 เมตรพบเสื้อกล้ามลักษณะเหมือนถูกโคลนถูกทรายฝังอยู่ใต้ทะเล และห่างจากเสื้อกล้ามไป 20 เมตร พบหน้ากากดำน้ำ ซึ่งทั้งเสื้อกล้ามและหน้ากากดำน้ำ ยังไม่ยืนว่าเป็นของสาวรัสเซียหรือไม่ เพราะจุดนี้มีคนดำน้ำกันเยอะ  และเพื่อความมั่นใจทางตำรวจจะส่งเสื้อกล้ามและหน้ากากดำน้ำไปพิสูจน์ด้วย เปรียบเทียบกับสิ่งของของผู้สูญหาย ไม่ว่าจะเป็นช้อน ที่ตัดเล็บ เสื้อผ้า ชุดชั้นใน เพื่อนำไปเปรียบเทียบ DNA เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาต่อไป รวมวันที่หายจนถึงวันนี้ก็ประมาณ 20 วัน ครั้งสุดท้ายที่ดูจากกล้องวงจรปิด เห็นว่าผู้สูญหายเหมือนสะพายอะไรไว้ที่หลังคล้ายๆตีนกบ และผ้าขนหนูพาดไว้ที่แขน เพราะดูในกล้องมองไม่ชัดเจน เนื่องจากเป็นช่วงเช้ามืด ในวันที่ 14 ก.พ.เห็นว่าเดินไปเดินกลับมายังที่พัก ส่วนวันที่ 15ก.พ.เห็นว่าเดินไปทางชายฝั่งบริเวณอ่าวโฉลก  และไม่ได้เดินกลับ ตอนประมาณ 06.00น.กว่า ซึ่งทราบว่าผู้สูญหายคนนี้ชอบดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิ่ง คือการดำน้ำลึกโดยไม่ใช่อุปกรณ์



จากการตรวจสอบห้องพักเจ้าหน้าที่พบไดอารี มีการบันทึกไว้ ได้ให้ล่ามชาวรัสเซียช่วยแปลให้ จึงทราบว่าเขาสามารถดำได้22.3เมตร ในเวลา 2 นาทีเศษ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแจ้งว่าอันตรายมาก ซึ่งการขึ้นน้ำมาเร็วๆจะทำให้น็อคน้ำได้ ในระยะทาง 10เมตร  การดำน้ำแบบฟรีไดร์ฟวิ่ง ต้องมีผู้ช่วย หรือมีบัดดี้ไปด้วย ถ้าการดำแบบสคูบ้า เมื่อขึ้นมาจากน้ำจะมีอากาศในปอด แต่ถ้าแบบฟรีไดร์ฟ จะไม่มีอากาศในปอดเลยถ้าหมดลมหายใจ จะทำให้จมลงไปเลย และจะอยู่ใต้น้ำ 2วัน หลังจากก็จะลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ 1-2วัน และศพอาจจะจมลงไป และช่วงวันที่ 14-16 ก.พ.มีหนังสือเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา จะมีคลื่นลมแรง  อาจเป็นไปได้ว่าอาจโดนพัดออกนอกทะเลไป  แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ล้มเลิกการค้นหา จนกว่าจะพิสูจน์ว่าชิ้นเนื้อที่พบเป็นของสาวรัสเซียหรือไม่



CR:แฟ้มภาพ  

ข่าวทั้งหมด

X