สหรัฐฯส่งผู้พิพากษาอีก 50 คนไปช่วยชำระคดีผู้อพยพที่ค้างอยู่อีกมาก

บีบีซีรายงานว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯส่งผู้พิพากษา 50 คนไปยังศูนย์ควบคุมคนเข้าเมืองโดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้ชายแดนเม็กซิโกและรัฐอื่นๆทั่วประเทศเพื่อชำระคดีผู้อพยพที่ค้างอยู่อีกกว่า 5 แสนคดีให้เสร็จไปโดยเร็ว ในปัจจุบันมีผู้พิพากษาบางส่วนที่ปฏิบัติงานในศูนย์ควบคุมผู้อพยพอยู่ก่อนแล้วเพื่อชำระคดี นอกเหนือการทำงานตามปกติของศาลต่างๆทั่วประเทศ

ก่อนหน้านี้นายทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อเดือนมกราคม โดยมีวัตถุประสงค์คือการเร่งเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมายและกักขังผู้อพยพใว้ในศูนย์ควบคุมต่างๆไปจนกว่าการพิจารณาคดีของศาลจะแล้วเสร็จ ส่งผลให้มีคดีติดค้างอยู่ในศาลจำนวนมาก และศูนย์ควบคุมต่างๆมีพื้นที่ไม่พอรองรับผู้อพยพ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯยืนยันว่าได้ส่งจดหมายขอให้มีการส่งผู้พิพากษาไปทำงานยังศูนย์ควบคุมผู้อพยพต่างๆเพื่อช่วยเร่งการพิจารณาว่าควรจะให้ที่ลี้ภัยหรือควรจะเนรเทศผู้อยพที่ถูกกักขังคณะผู้พิพากษาชุดนี้จะสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองให้เข้มแข็งมากขึ้น ในปัจจุบันมีผู้อพยพที่ไม่มีหนังสือเดินทาง 11 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มาจากเม็กซิโก

ต่อมานายทรัมป์ลงนามในคำสั่งฉบับที่ 2 เมื่อวันจันทร์ ครอบคลุมการสั่งเนรเทศผู้อพยพชาวเม็กซิโกที่ไม่มีหนังสือเดินทางกลับประเทศ คำสั่งฉบับใหม่นี้จะเริ่มมีผลในวันที่ 16 มีนาคมนี้ ห้ามออกวีซาให้กับพลเมืองจาก 6 ประเทศมุสลิมชั่วคราวคือพลเมืองจากโซมาเลีย,อิหร่าน,ซีเรีย,ซูดาน,ลิเบียและเยเมนและระงับการรับผู้อพยพไว้ก่อน 90 วัน แต่ขณะนี้อัยการสูงสุดจากหลายมลรัฐ รวมถึงออริกอน,นิวยอร์ค,วอชิงตันและรัฐฮาวาย ยื่นคำร้องต่อศาลคัดค้านคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับ 2 ของนายทรัมป์ ระบุว่ากระทบต่อชาวบ้าว ลูกจ้าง มหาวิทยาลัย ระบบการดูแลสุขภาพ การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในท้องถิ่น