การเรียกเก็บภาษีจากขายหุ้นชิน คอร์ป ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานที่ข้อง ซึ่งในวันนี้มีการรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบ และนายกรัฐมนตรีก็ได้ให้หลักเกณฑ์ว่าจะไม่ใช้กฎหมายตามอำนาจพิเศษ มาตรา 44 ในการเรียกคืนภาษีนายทักษิณ แต่จะให้ใช้กฎหมายตามขั้นตอนปกติ พร้อมยืนยันไม่มีการขยายอายุความของคดีแน่นอน ทุกอย่างต้องอยู่บนหลักนิติธรรม และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปถึงนายทักษิณด้วย เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหาต่อสังคม ว่าเป็นการไล่ล่าในประเด็นทางการเมือง ทั้งนี้จะต้องดูว่าการซื้อขายหุ้นมีเจตนาว่าสุจริตหรือไม่ หากไม่สุจริต ก็ให้ไปสู้คดีกันในศาล ยืนยันว่ารัฐบาลจำเป็นที่จะต้องดำเนินการฟ้องร้องเรียกคืนภาษี โดยจะทำการออกประเมินภาษีอีกรอบ อย่างไรก็ตาม การกำหนดให้มาชำระภาษีภายใน 31 มีนาคมนี้ หากนายทักษิณไม่มาคืนภาษี จะต้องฟ้องร้องต่อศาล และให้เป็นดุลยพินิจของศาลในการตัดสินต่อไป
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า คดียังไม่ขาดอายุความ และเมื่อปี 2555 ได้ส่งหมายเรียกไปยังนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา คุณากรวงศ์ แล้ว และศาลภาษีอากรกลางก็ได้ตัดสินว่า เป็นเพียงนอมินี ไม่ใช่ตัวการสำคัญ ซึ่งจะต้องไปดำเนินคดีกับนายทักษิณแทน แม้จะเหลือเวลาอีก 16 วัน ครบอายุความ 31 มีนาคมนี้