เร่งรื้อสิ่งกีดขวางประตู4 วัดพระธรรมกาย/แจ้งข้อหา ลีลาวดี ยุยง/ยุติสอบผบช.น.รับเงินที่ปรึกษาไทยเบฟฯ/เอาผิดรพ.เอกชนจ่ายคูปองน้ำมันจูงใจกู้ภัย

14 มีนาคม 2560, 18:55น.


สรุปข่าว19.35น.



+++พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริการร่วม ดีเอสไอ ในฐานะรองโฆษก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้นำโดรน บินสำรวจพื้นที่รอบวัดพระธรรมกาย พบว่า บริเวณประตู 4 ยังไม่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากพื้นที่ และมีประชาชนอยู่บริเวณดังกล่าว 50 คน โดยขณะนี้ได้ประสานไปยังวัดให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง สแลน ออกโดยเร็ว รวมทั้ง เร่งถมคูน้ำที่อยู่บริเวณใกล้กับอาคารบุญรักษาด้วย เพราะ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน  ขณะนี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล อดีตนักการเมือง ปี 2528 ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่กองบังคับการปราบปรามเพิ่มอีก 1 คดี ตามมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินคดีมีทั้งหมด 46 คดี เป็นคดีในความรับผิดชอบของกองปราบฯ 4 คดี สภ.คลองหลวง 28 คดี และ สภ.คลองห้า 14 คดี 



+++พ.ต.ท.อุทัย แววไทสงค์ พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า ได้นำพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย ส่งฟ้องต่อสำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี หลังจากทางเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย ทั้งหมด 14 รูปที่ขัดคำสั่งไม่มารายตัวต่อเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ซึ่งในวันนี้ มีพระสงฆ์ 10 รูปได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเอาไว้ประกอบไปด้วย 1.พระปลัดสุธรรม สุธัมโม หรือพระวิเทศ ภาวนาจารย์, 2.พระครูถวัลศักดิ์ ยติสโก, 3.พระครูสังฆรักษ์ อนุรักษ์ โสตถิโก หรือ พระครูแอ, 4.พระสนิทวงศ์ วุฆฒิวังโส , 5.พระมหานพพร ปุญญชโย, 6.พระภาสุระ ทนตมโน(ใจวงศ์), 7.พระนพดล สิริวโส, 8.พระมหาบุญชัย จารุทัตโต, 9.พระครูสุวิทย์ สุวิชชาโก, 10.พระแสนพล เทพเทพา หรือ สิบเอกแสนพล เทพเทพา โดยมี นายปัญญา ถาวรอัครนิล ทนายความผู้ดูแลพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย ได้เดินทางด้วย ส่วนพระที่ยังไม่ได้เดินทางมามี 4 รูป คือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา , พระทัตตชีโว ที่อ้างว่าอาพาธไม่สามารถมารับทราบข้อกล่าวหาได้ , พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ และ พระครูใบฎีกา อำนวยศักดิ์ มุนิสโก ซึ่ง พระมหาสมชาย กับ พระครูใบฎีกา จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับ พระทัตตชีโว อีกครั้งในภายหลัง สำหรับหลวงพ่อธัมมชโย นั้นท่านก็ต้องการมอบตัวแต่ก็ด้วยติดเหตุอะไรบ้างอย่างจึงไม่สามารถมอบตัวได้ในเวลานี้ ซึ่งจะมอบตัวเมื่อไหร่ก็ได้มันเป็นสิทธิของท่านเนื่องจากคดีมีอายุความตั้ง 15 ปี 



++++พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ถึงมีการออกคำสั่งมาตรา44 แก้ไขปัญหาจราจรทางบก และมาตรการคุมเข้มความปลอดภัยการแก้ไขจราจรทางบกช่วงเทศการสงกรานต์ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเป็นการปรับปรุงกฎหมายจราจร เพื่อลดการสูญเสีย และเพื่อทำให้เป็นกฎหมายบังคับใช้อย่างถาวรในอนาคต รวมถึงการนำรถมินิบัส24ที่นั่งมาใช้แทนรถตู้โดยสาร ก็จะค่อยๆดำเนินการไป หากผู้ประกอบการรถตู้แต่ละรายใบอนุญาตหมดอายุแล้ว สำหรับปัญหารถแท็กซี่UBERที่ให้บริการผ่านทางแอพพลิเคชั่นนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้แก้ปัญหาแล้ว โดยให้กระทรวงคมนาคมเรียกผู้ประกอบการUBERเข้ามาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป



+++++ตำรวจได้คุมตัววัยรุ่นชายหญิงทั้ง 16 คนร่วมกันก่อเหตุทำร้ายนายธีระพงษ์ หรือปอนด์ ฐิตะฐาน เสียชีวิต หลังนำตัวมาสอบสวนที่กองปราบปรามผ่านไปนาน 4 ชม. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าผู้ต้องหามือแทงยอมเซ็นรับสารภาพ แต่ไม่ยินยอมไปทำแผนในที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงอันตราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือยอมรับสารภาพในข้อเท็จจริง แต่ปฎิเสธข้อกล่าวหา และยังให้การซัดทอดถึงบุคคลอื่นอีกหลายคน ซึ่งทางตำรวจคอมมานโดได้คุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาเป็นเวลา 12 วัน พร้อมคัดค้านประกันตัวเนื่องจากมีการข่มขู่พยาน โดย 1 ในผู้ต้องหามีเยาวชนร่วมด้วย จึงนำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง



+++ นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติให้ยุติเรื่องกรณีที่สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยขอให้ตรวจสอบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ารับเงินจาการเป็นที่ปรึกษา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เดือนละ 50,000 บาท เข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่นั้น เนื่องจากผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่ายังไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ รับเงินดังกล่าวจริง เพราะแม้พล.ต.ท.ศานิตย์ จะแจ้งต่อ ป.ป.ช. ก็เป็นเพียงเอกสารประกอบ การยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานดังกล่าว



+++นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ใน พระบรมราชูปถัมภ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจโครงสร้างศาลาว่าการกทม.บริเวณที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวานนี้(13มี.ค.) โดยนายภัทรุตม์ เปิดเผยว่า อาคารศาลาว่าการกทม. เป็นอาคาร 5 ชั้น อายุกว่า 50ปี ซึ่งต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 4 ภายในห้องปัญญพัฒน์ ศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเอง สถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร โดยเพลิงได้ลุกไหม้เสียหายหมดทั้งห้อง และใช้เวลาในการดับเพลิงประมาณ 45นาที จึงสงบลง และผู้ว่าฯกทม.ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยคาดว่า ภายใน 10-15วัน  ดร.ธเนศกล่าวว่า จากการตรวจสอบโครงสร้างอาคารในจุดเกิดเหตุ พบกายภาพอาคารไม่ได้เสียรูปทรง ซึ่งวสท.ทำการตรวจโดยเครื่องอุลตร้าโซนิค เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของอาคารยังอยู่ในระดับปกติไม่เกิดความเสียหายใดใด โดยเมื่อกำจัดเขม่าที่เกิดจากเพลิงไหม้ออกไป ก็สามารถทำการซ่อมแซมฝ้าเพดาน ผนังที่เสียหาย โดยประมาณระยะเวลาในการซ่อมแซมไม่เกิน10-15วัน ก็สามารถเข้าใช้งานได้ตามปกติ



+++การตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนที่มีโปรโมชั่นแจกคูปองน้ำมัน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ภายหลังการตรวจสอบนั้นทางโรงพยาบาลดังกล่าวก็ได้ทำการยุติโปรโมชั่นแล้วตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม  หลังจากได้เริ่มจัดโฆษณาโปรโมชั่นตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ในชื่อโครงการสนับสนุนโครงการเพื่อช่วยเหลือมูลนิธิกู้ภัย นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลยังได้ทำหนังสือแจ้งทาง สบส. มีเนื้อความว่าไม่ได้มีเจตนารมณ์ที่ไม่ดีในการจัดโปรโมชั่นดังกล่าว ไม่ได้สนับสนุนการส่งผู้ป่วยข้ามเขตแต่อย่างใด อีกทั้งตั้งแต่จัดโปรโมชั่นดังกล่าวทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เมื่อทางโรงพยาบาลดังกล่าวได้รับการตรวจสอบ และยอมรับว่าได้กระทำการจัดโปรโมชั่นจริง สบส.ก็จะดำเนินการตามกฏหมาย ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ที่แก้ไขปรับปรุงฉบับที่ 4 พ.ศ.2559 ในมาตรา 38 ที่ว่าด้วยการห้ามโฆษณา โอ้อวด ลด แลก แจก แถม เพื่อชักชวนให้มีผู้มารับบริการจากสถานพยาบาลของตน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 1 หมื่นบาท ทั้งนี้จากการตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศยังไม่พบการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน ทาง สบส.จึงได้ออกหนังสือแจ้งเตือนไปยังโรงพยาบาลเอกชนเพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดเช่นนี้อีก



+++พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าพูดคุยกับคู่กรณีคือ นายอนุสร จิรพงศ์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ หรือ สปท.  และ นายชาติอลงกรณ์ นิลยาน บริกรในร้านอาหารชื่อดัง ในห้างลาวิลล่า สาขาอารีย์  หลังนายชาติอลงกรณ์ ลงบันทึกประจำวัน ว่าถูกนายอนุสร ใช้ตวัดมือไปถูกใบหน้าบาดเจ็บเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม โดยพนักงานสอบสวนก็ต้องดำเนินคดีตามขั้นตอนในข้อหา ใช้กำลังประทุษร้ายไม่ถึงกับเป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจต่อผู้อื่น โดยให้เปรียบเทียบปรับ 1 หมื่นบาท ตามอัตราโทษสูงสุด พร้อมสรุปสำนวนส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป โดย นายอนุสร ได้ขอโทษคู่กรณีและยอมรับว่าได้ใช้มือเขกศีรษะพนักงานเพื่อตักเตือนเท่านั้น พร้อมกับขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไปโดยไม่มีเจตนา



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากนิกเกอิพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มเปิดฉากขึ้นในวันนี้ปิดลดลง 24.25 จุด ที่ 19,609.50 จุด



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,543.15 จุด เพิ่มขึ้น 7.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,875.34 ล้านบาท  ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้เกือบทรงตัว ลดลง 1.72 จุด ที่ 23,827.95 จุด

ข่าวทั้งหมด

X