+++นักท่องเที่ยวบนชายหาดหลายร้อยคน ต่างจ้องมองด้วยใจระทึก เมื่อเครื่องบินโบอิ้ง 737 เที่ยวบิน 2652 ของสายการบินเวสต์เจ็ต พร้อมผู้โดยสารหลายร้อยคน ลดระดับลงมาต่ำจนเหมือนจะพุ่งตกทะเล ก่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานบนเกาะเซนต์มาร์ตินของเนเธอร์แลนด์ เครื่องบินลำนี้ มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สนามบินในเซนต์มาร์ติน เกาะในแคริบเบียนของเนเธอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม เกิดลมแรงจากพายุ ส่งผลให้การลดระดับการบินของเครื่องบินเป็นเรื่องอันตรายกว่าปกติ และดีที่นักบินของเที่ยวบินดังกล่าวที่มุ่งหน้ามาจากเมืองโทรอนโตของแคนาดา สามารถดึงคันบังคับเชิดหัวขึ้นได้ในนาทีสุดท้าย ก่อนลงจอดบนเกาะ ภาพวิดีโอ ที่น่าตกใจ พบเห็นเครื่องบินลดระดับลงต่ำเฉียดใกล้ผิวน้ำของมหาสมุทรแค่ไม่กี่ฟุต สร้างความตกตะลึงแก่นักท่องเที่ยวที่เฝ้ามองดูจากบนชายหาด ทั้งนี้มันเฉียดใกล้เสียจนสามารถเห็นผิวน้ำบริเวณใต้เครื่องยนต์กระเพื่อมเป็นวง จนในวินาทีสุดท้าย นักบินสามารถดึงคันบังคับพาเครื่องบินโฉบเหนือพวกนักท่องเที่ยวที่นอนดาบแดด และหลังจากต้องบินวนรอบเกาะอีกราว 45 นาที นักบินก็สามารถนำเครื่องลงจอดอย่างปลอดภัยในความพยายามครั้งที่ 2
+++เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวส์ของสหรัฐฯ รายงานพายุหิมะเริ่มพัดถล่มทำให้หิมะตกหนักใน 8 รัฐ กระทบการเดินทาง โรงเรียนต้องปิดเรียนและประชาชน 70 ล้านคนต้องเฝ้าติดตามประกาศเตือนภัยจากทางการอย่างใกล้ชิดในระยะนี้และเพิ่มการระวังภัยมากขึ้น คาดว่าจะมีพายุมากถึง 2 ฟุตในบางท้องที่ในวันนี้ และลมแรงระหว่าง 40-50 ไมล์ต่อชม.
นอกจากนี้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐนิวยอร์ค,นิวเจอร์ซีย์,เพนซิลเวเนีย,เวอร์จิเนียและคอนเนตทิคัต
+++บิล เดอบลา ซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก สั่งเจ้าหน้าที่ เตรียมพร้อมรับมือกับหิมะที่จะตกหนักมาก ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บ มีการเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในบ้าน ขณะที่การเก็บกวาดหิมะของเจ้าหน้าที่จะต้องทำตลอดเวลา ทั่วทั้งมหานครนิวยอร์ค
+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ว่า เริ่มมีการเก็บกวาดทำความสะอาด แม้ยังคงมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาในหลายหมู่บ้านใกล้กับเมืองย่างกุ้งเมืองใหญ่ของเมียนมา จากผลของแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 5.1 เมื่อคืนวันจันทร์ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ 70 กม.ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองย่างกุ้ง กำลังเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับหน่วยดับเพลิงทำการตรวจเช็คสภาพความเสียหายของอาคารบ้านเรือนและวัดวาอารามที่ได้รับความเสียหายในเมืองทาอิคจี ซึ่งอยู่เหนือสุดของเขตย่างกุ้ง เจ้าหน้าที่ระบุว่ามีผู้บาดเจ็บ 27 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่เป็นเพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจากผลของแผ่นดินไหว และยังมีบาดเจ็บอีก 10 คนจากผลของอาฟเตอร์ช็อก เมียนมาตั้งอยู่ในเขตรอยเลื่อนของแผ่นดินไหว แต่ส่วนใหญ่จะเกิดในพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง ความเสียหายจึงเล็กน้อย แต่อาคารและสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ก็มีโอกาสที่จะได้รับความเสียหายได้
+++ไปที่ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ตำรวจในชุดปราบจลาจลพร้อมกับรถแทรกเตอร์เกลี่ยดิน ทำการรื้อถอนเพิงพักชั่วคราวจำนวน 440 หลังซึ่งมีผู้อาศัยอยู่ราว 2,000 คนในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งผู้อาศัยนั้นเป็นเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อปี 2558 แต่การรื้อถอนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีทางเลือกในเรื่องที่อยู่อาศัยให้กับผู้คนเหล่านี้เลย นายฮิม นาธ ดาวาดี หัวหน้าฝ่ายบริหารของกรุงกาฐมาณฑุ กล่าวว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของบริษัทของรัฐและตั้งอยู่ใกล้กับวัดในกรุงกาฐมาณฑุ ทางการจำเป็นต้องเคลียร์พื้นที่ดังกล่าวและแจ้งให้ผู้อาศัยทราบล่วงหน้า 1 เดือนแล้ว นอกจากนั้น รัฐบาลจะไม่จ่ายเงินชดเชยให้กับผู้อยู่อาศัยเหล่านี้ด้วยระหว่างการรื้อถอน ไม่มีการปะทะกันระหว่างผู้อาศัยกับตำรวจ เพียงแต่ผู้อยู่อาศัยได้เข้าไปเก็บข้าวของที่เหลืออยู่ ส่วนเพิงพักนั้นทำจากไม้ไผ่ ผ้าใบและพลาสติก แผ่นดินไหวเมื่อเดือนเม.ย.2558 ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 9,000 ศพ บ้านเรือนเสียหายเกือบ 1 ล้านหลังคาเรือน
+++สำนักงานอัยการกรุงไทเป ไต้หวัน แจ้งข้อหาอดีตประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ในความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลลับส่วนบุคคลของคู่แข่งทางการเมืองคือนายเคอร์ เชียน-มิง รวมถึงข้อกล่าวหาอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับคดีการลอบดักฟังโทรศัพท์ในปี 2556 ก่อนหน้านั้น นายเคอร์ เชียน-มิง วิปจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรครัฐบาลในปัจจุบัน ได้แจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายหม่า นายเคอร์กล่าวหานายหม่าว่าเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีขณะนั้นคือนายเจียง ยี่ หวา และโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีขณะนั้นคือนายโล ชีห์เชียน นอกจากนั้นนายหม่ายังสั่งการให้นายฮวง ชีห์มิง อดีตอัยการสูงสุดให้เปิดเผยรายละเอียดการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับนายเคอร์ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เนื่องจากกล่าวหาว่า ใช้อิทธิพลก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ศาลจะตัดสินคดีในวันที่ 28 มีนาคมนี้ หากศาลตัดสินว่ามีความผิดนายหม่า จะถูกจำคุกในอัตราโทษขั้นสูงคือ 3 ปี
+++กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ในเกาหลีใต้ ยื่นฟ้องนางปัก กึนฮเย อดีตประธานาธิบดี ว่าทอดทิ้งสุนัข 9 ตัวที่เลี้ยงไว้ในทำเนียบประธานาธิบดี หลังถูกถอดถอนจากตำแหน่ง
กลุ่มการอยู่ร่วมกันของสิทธิสัตว์โลก เปิดเผยว่า ยินดีรับดูแลและหาบ้านให้สุนัขทั้งหมดเพราะไม่อยากให้พวกมันต้องไปอยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์หรือมีคนรับไปเลี้ยงอย่างไม่ดูแล ด้านโฆษกทำเนียบประธานาธิบดี แถลงชี้แจงว่า นางปักไม่ได้ทอดทิ้งสุนัขทั้ง 9 ตัวในวันที่เธอออกจากทำเนียบกลับไปอยู่ที่บ้านพักส่วนตัวในย่านกังนัมเมื่อค่ำวันอาทิตย์ เพราะได้ขอให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบช่วยดูแลและหาบ้านใหม่ให้ลูกสุนัขด้วยถ้าจำเป็น
+++สุนัขทั้งหมดเป็นพันธุ์จินโด ซึ่งเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองของเกาหลี มีถิ่นกำเนิดบนเกาะจินโด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรเกาหลี และขึ้นชื่อเรื่องความจงรักภักดีต่อเจ้าของ เพื่อนบ้านได้มอบสุนัขพันธุ์จินโดคู่หนึ่งให้เธอเมื่อครั้งย้ายไปอยู่ในทำเนียบเมื่อต้นปี 2556 และเพิ่งตกลูก 7 ตัวเมื่อเดือนมกราคมปีนี้
+++นายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย กล่าวว่ารัฐบาลมาเลเซียและออสเตรเลียจะแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มติดอาวุธในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากพันธมิตรทั้งสองคาดว่าอาจจะมีสมาชิกระดับท้องถิ่นหลายคนของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)เดินทางกลับจากอิรัก หลังจากกองทัพอิรัก ที่ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีสหรัฐฯเป็นแกนนำสามารถยึดพื้นที่ร้อยละ 30 ของเมืองโมซุลคืนมาจากจากกลุ่มไอเอสได้
+++ออสเตรเลีย ตกลงจะให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์เพื่อใช้ในการลดภัยคุกคามจากกลุ่มไอเอสในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอาบูไซยาฟที่ประกาศภักดีต่อกลุ่มไอเอส
+++หลังเรือสำราญชื่อคาเลโดเนียน สกาย ขนาดระวางขับ 4,200 ตันของบริษัทโนเบิล คาเลโดเนียของอังกฤษ พุ่งชนแนวปะการังรอบๆเกาะกรี หนึ่งในหมู่เกาะราชาอัมพัต ซึ่งประกอบด้วยเกาะเล็กๆหลายร้อยเกาะในพื้นที่ห่างไกลทางภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย สร้างความเสียหายให้กับปะการังเป็นระยะทางราว13,500 ตารางกิโลเมตร เอเอฟพีรายงานอ้างนายริคาร์โด ทาปิลาตู นักวิจัยสัตว์น้ำจากมหาวิทยาลัยแห่งจังหวัดปาปัว ประธานคณะทำงานประเมินความเสียหายของอินโดนีเซีย คาดว่ารัฐบาลอินโดนีเซียจะต้องเสียค่าใช้จ่ายราว 16.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อฟื้นฟูปะการังให้กลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เหมือนเดิม โดยรัฐบาลอินโดนีเซียเริ่มสำรวจความเสียหายครั้งนี้เพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเจ้าของเรือสำราญดังกล่าว
+++เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อต้นเดือนนี้ หลังเรือสำราญพานักท่องเที่ยว 102 คนและลูกเรือ 79 คนไปเที่ยวชมนกในท้องที่ดังกล่าวแล้วพุ่งชนแนวปะการังและเกยตื้นอยู่ในบริเวณนั้นหลายวัน จนกระทั่งต้องนำเรือลากขนาดเล็กๆหลายลำช่วยชักลากเรือออกจุดดังกล่าวก่อนจะเดินทะเลต่อไป หมู่เกาะราชาอัมพัต ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดีย เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นแหล่งปะการังที่มีสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนานาชาติประเมินว่ามีปลาราว 1,400 ชนิดและปะการัง 603 ชนิด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย และบรรดานักประดาน้ำที่ชื่นชอบการลงไปสำรวจโลกใต้ท้องทะเล
CR:CNN
ราคาทองเริ่มปรับฐาน ปรับตัวลดลง – จีนเตรียมยกเว้นภาษีสหรัฐบางส่วน
...
ญี่ปุ่นปฎิเสธ สหรัฐแทรกแซงค่าเงินเยน-หุ้นปิดภาคเช้าเพิ่มขึ้น
...
เกาหลีเหนือยอมรับ เป็นครั้งแรก ส่งทหารช่วยรัสเซีย รบกับยูเครน
...
ข่าวทั้งหมด
