การทดลองเดินรถเสมือนจริง ในโครงการรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ โดยพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ (กทม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ทดลองเดินรถจากสถานีอ่อนนุชไปยังสถานีสำโรง พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า แผนการเดินรถโครงการรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ จะกำหนดเปิดให้บริการสถานีแรก ที่สถานีสำโรง ซึ่งในวันที่ 3 เม.ย. จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานเปิดการเดินรถ ในเวลา 09.00 น. หลังจากนั้นจะเปิดทดลองเดินรถเสมือนจริง ให้ประชาชนได้ใช้บริการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จากสถานีแบริ่ง ไปสถานีสำโรง และจากสถานีสำโรงกลับมาสถานีแบริ่ง เป็นระยะเวลา 1 เดือน หลังจากนั้น จะมีการหารือเรื่องค่าโดยสารที่จะเก็บเมื่อใช้งานจริงอีกครั้ง ในจุดที่ไม่แพงเกินไป และโครงการสามารถเดินหน้าต่อได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน
การทดลองในวันนี้ ไม่พบปัญหา ผู้ว่าฯกทม.ค่อนข้างพอใจ และเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ปัญหาการจราจรได้ คาดการณ์ว่าหลังเปิดให้บริการในสถานีสำโรงแล้ว จะมีประชาชนใช้บริการประมาณ วันละ 40,000-50,000 คนต่อวัน และเมื่อเปิดครบทั้ง 9 สถานี จะมีประชาชนใช้บริการกว่า 100,000 คน ส่วนการเปิดให้บริการเดินรถทั้งระบบ ทั้ง 9 สถานี จะเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 2561 ทั้งนี้หลังโครงการนี้เสร็จสิ้นแล้ว จะช่วยให้ประชาชนชาวสมุทรปราการ ที่ต้องการเดินทางไปสถานีแบริ่ง สะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมช่วยแก้ปัญหาการจราจรในเขตบางนาและจังหวัดสมุทรปราการ ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็นเส้นทางข้ามจังหวัดแห่งแรก ระหว่างกรุงเทพฯ และจังหวัดสมุทรปราการ โดยรัฐบาลได้มอบหมาย ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รับผิดชอบด้านงานก่อสร้าง งานโยธาและโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนกรุงเทพฯ รับผิดชอบบริหารจัดการเดินรถ เพื่อให้เกิดการเดินรถที่ต่อเนื่อง ประชาชนไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายขบวนรถระหว่างสถานีแบริ่งและสถานีสำโรง จึงมีความสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ มีทั้งสิ้น 9 สถานี ประกอบด้วย สถานีสำโรง (E15) สถานีปู่เจ้าสมิงพราย (E16) สถานีเอราวัณ (E17) สถานีโรงเรียนนายเรือ (E18) สถานีสมุทรปราการ (E19) สถานีศรีนครินทร์ (E20) สถานีแพรกษา (E21) สถานีสายลวด (E22) และสถานีเคหะสมุทรปราการ(E23) รวมระยะทาง 13 กิโลเมตร มีอาคารจอดรถที่สถานีเคหะสมุทรปราการ เนื้อที่ 18 ไร่ รองรับรถยนต์ได้ 1,200 คัน
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม