ตุลาการศาลปกครอง แถลงความเห็นส่วนตัว ย้ำ ยกเลิกหนังสือเดินทางจาตุรนต์ ฉายแสง ถูกต้องแล้ว

ศาลปกครองกลางนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ฟ้องกระทรวงการต่างประเทศ, กรมการกงสุล, รมว.ต่างประเทศ, ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, อธิบดีกรมการกงสุล, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีกระทรวงการต่างประเทศมีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง โดยอ้างว่านายจาตุรนต์เป็นบุคคลที่มีหมายจับและห้ามเดินทางไปต่างประเทศ โดยนายจาตุรนต์เดินทางมาศาล ขณะที่ฝ่ายผู้ฟ้องคดีมีตัวแทนมาร่วมการพิจารณา

โดยนายจาตุรนต์แถลงปิดคดีด้วยวาจา ว่า คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางดังกล่าวออกโดยไม่ชอบ เพราะตนไม่ได้เป็นผู้ที่ถูกออกหมายจับหรืออยู่ระหว่างการเดินทางไป แต่ข้อเท็จจริงเหตุของการถูกยกเลิกมาจากการที่ตนได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งปรากฏหลักฐานที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยื่นต่อศาลเป็นรายงานของฝ่ายความมั่นคนที่มีหนังสือถึง สตช. ขอให้ดำเนินการถอนหนังสือเดินทางของตน การยกเลิกหนังสือเดินทางดังกล่าวได้เป็นการลงโทษเกินกว่าคดีในศาลทหาร เพราะถึงตอนนั้นยังไม่รู้ว่าศาลทหารจะตัดสินว่าผมผิดหรือไม่ผิด แต่ 1 ปี 7 เดือน ผมถูกเพิกถอนหนังสือเดินทางไปแล้ว การดำเนินการเช่นนี้ถือเป็นการปั่นทอนความน่าเชื่อถือของประเทศในสายตาต่างประเทศ เพราะกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ต้องทำตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศและชี้แจงการปฏิบัติทุถูกต้องต่ออารยะประเทศ แต่กลับทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องเสียเอง

จากนั้นตุลาการผู้แถลงคดีได้แถลงความเห็นส่วนตนที่ไม่ผูกพันกับการพิจาณาคดีขององค์คณะไต่สวน โดยเห็นว่าควรจะยกฟ้อง เพราะเห็นว่าการเพิกถอนหนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นไปโดยถูกต้องแล้ว เนื่องจากศาลทหารได้มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามนายจาตุรนต์เดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล ซึ่งเข้าเงื่อนไขตามหลักเกณฑ์ของระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง อีกทั้งนายจาตุรนต์ถูกดำเนินคดีในศาลทหาร ตามความผิดในคดีอาญามาตรา 116 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่นคง ดังนั้นการที่เจ้าพนักงานใช้ดุลพินิจยกเลิกหนังสือเดินทางจึงไม่เป็นการไปกระทบสิทธิเกินความจำเป็น เกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนด จึงเป็นควรให้องค์คณะพิพากษายกฟ้อง ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณา ศาลได้นัดคู่กรณีมาฟังคำพิพากษา ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น.