ทิศทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศ ได้สนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้มีนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น โดยแผนการดำเนินงานอย่างหนึ่ง คือดูแลนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่ดี รวมถึงหาช่องทางการเผยแพร่การท่องเที่ยวของประเทศไทย ส่วนทิศทางการดำเนินงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในปีนี้ นอกจากจะเน้นการเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวในเมืองใหญ่สำคัญๆ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่แล้ว ก็จะเน้นเผยแพร่ สนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองรอง อย่าง 12 เมืองห้ามพลาด เช่น ลำปาง ลำพูน เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ทั้งนี้ตลอด 2-3 ปีที่ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง พบว่ามีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี นอกจากนี้ยังมีแผนเชื่อมโยงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในต่างประเทศ ทั้งแถบยุโรปและอเมริกา โดยแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับต่างประเทศ โดยจำเป็นต้องสังเกตพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ ที่ส่วนใหญ่จะเดินทางมาชมอัตตลักษณ์ ความเป็นอยู่ของคนไทย จึงต้องรักษาอัตตลักษณ์ความเป็นอยู่ส่วนนี้ไว้ รวมทั้งส่งเสริมอาหาร วัฒนธรรมไทยควบคู่กันไปด้วย เพื่อทำให้มาตรฐานด้านการท่องเที่ยวของประเทศดีมากยิ่งขึ้น
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 57 ปี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะมุ่งมั่นช่วยกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้ยั่งยืน พร้อมเป็นส่วนนึ่งที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ตามนโนบายของรัฐบาล ซึ่งจะต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งจากภายใน ประเทศ และส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงกับต่างประเทศ ให้เกิดความสมดุลกัน
สำหรับงานหลักที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการมาตลอด 57 ปี คือการขับเคลื่อนให้เกิดการท่องเที่ยว ทั้งระยะไกลและระยะใกล้ รวมทั้งจัดหากิจกรรมต่างๆ ให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังสนับสนุนเรื่องอาหาร รวมทั้งจัดให้มีโครงการดีๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อไป
ในโอกาสครบรอบ 57 ปี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยวันนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารได้บวงสรวงเจ้าแม่จามเทวี และสักการะรูปเหมือนจอมพลสฤษด์ ธนะรัชต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะร่วมกันทำบุญถวายภัตตาหารเพล พระสงฆ์จำนวน 9 รูป และในช่วงบ่าย จะมีพิธีมอบประกาศนียบัตรกำกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของที่ระลึกแก่พนักงานอาวุโส และประกาศเกียรติคุณแก่พนักงานที่ทำงานครบ 25,30,35 ปี