แพท ณปภา ย้ำยังไม่ถูกตั้งข้อหา ยืนยันเส้นทางการเงินไม่ถึง30ล้านบาทไม่เกี่ยวข้องกับเบนซ์ เรซซิ่ง

หลังการสอบปากคำนางสาวณปภา ตันตระกูล หรือ แพท ณปภา ภรรยาของ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและสมคบการฟอกเงินในเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะ แก้วพิมพา รวมถึงสอบปากคำนางสุพรเพ็ญ วรโรจน์เจริญเดช มารดาของนายอัครกิตติ์ และลูกน้องร้าน( AREA 51)แอเรีย 51อีก 2คน นานกว่า4ชั่วโมง

แพท ณปภา กล่าวว่า  วันนี้เดินทางมาชี้แจงในฐานะพยานตามหมายเรียกของเจ้าหน้าที่เท่านั้น ซึ่งยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาใดๆหรือออกหมายจับตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าเงินในบัญชีของตนช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เป็นเงินที่ได้มาจากการทำงาน และไม่มีจำนวนถึง 30 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าว รวมถึงคบหากับนายอัครกิตติ์เพียงแค่1ปี จึงไม่สามารถทราบทุกเรื่องของนายอัครกิตติ์ ซึ่งขั้นตอนของการตรวจสอบทางการเงินนั้น ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการหาความจริง   โดยขอร้องให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริง หรือ ตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ก่อนจะนำเสนอข่าว เพราะข้อมูลที่ออกไปก่อนหน้านี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวและครอบครัว

ด้าน นายศรัญ ฤกษ์อัตการ ทนายความคนเดียวกับนายอัครกิตติ์ กล่าวว่า วันนี้นำเอกสารหลักฐานทางการเงินทุกอย่างที่สามารถตรวจสอบได้ตามกฎหมาย เช่น การยื่นเสียภาษีกรมสรรพากร มาให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบ มั่นใจว่า ในส่วนของแพท ณปภา จบสิ้นแล้ว พร้อมเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว

ด้าน พันตำรวจเอก สมเกียรติ วรรณสิริวิไล รองโฆษกกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า ในวันนี้การสอบพยานทั้ง 4 ให้ข้อมูลชัดเจน และเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเฉพาะ แพท ณปภา ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจน ถึงที่มาของจำนวนเงินในบัญชีและการโอนเงินระหว่าง แพท ณปภาและนายอัครกิตติ์ ซึ่งไม่ได้ติดใจในประเด็นใดแล้ว   ในการสอบสวนของพนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบต่อว่า มีความเชื่อมโยงในคดีการฟอกเงินของนายอัครกิตติ์หรือไม่  ส่วนลูกน้อง 2 คน ที่มาเป็นพยานด้วยนั้น 1ในนั้นเป็นผู้จัดการร้านแอเรีย 51 ได้ให้การว่าทำงานตามคำสั่งของ นายอัครกิตติ์ในการสั่งซื้ออะไหล่และการทำธุรกรรมต่างๆโดยไม่ทราบที่มาของเงินจำนวนดังกล่าว   ส่วนจะมีการเรียกพยานทั้ง 4 คนมาสอบเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนเป็นผู้พิจารณา

ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ