ทส.จะขึ้นแบล็กลิสต์เอกชนหลอกทำอีไอเอ/รมว.ยธ.สั่งดีเอสไอเดินหน้าจับพระธัมมชโย

17 มีนาคม 2560, 19:01น.


+++ความคืบหน้าการดำเนินคดีวัดพระธรรมกาย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รายงานความคืบหน้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเด็นสำคัญที่ได้เน้นย้ำคือ ให้ดีเอสไอ เดินหน้าค้นหาพระธัมมชโย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ต้องไม่หยุด และต้องทำให้เต็มที่ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายในคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย ก็ต้องดำเนินต่อไป โดยให้ทำตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่ ทั้งการจัดการภายในตัววัด และพระที่อยู่ในวัด ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)ก็ได้รับรายงานจาก พศ.ว่า เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และมหาเถรสมาคม (มส.) ได้เดินหน้าดำเนินการเรื่องนี้ร่วมกันอย่างเต็มที่



+++ส่วนคดีที่เกี่ยวกับการสมคบฟอกเงิน นายสุวพันธุ์ ระบุว่า เป็นคดีเก่าที่มีหมายจับ และความผิดที่ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนคดีการบุกรุกที่ดินเป็นคดีที่อยู่ในครามรับผิดชอบของตำรวจ ขณะนี้ ตำรวจก็ทำงานอย่างเต็มที่ และได้ประสานพูดคุยกับดีเอสไอต่อเนื่อง เพื่อจะได้หาแนวทาง รวมถึงพยานหลักฐาน ที่จะสามารถมาทำงานร่วมกันได้



+++สำหรับมาตรา 44 จะคงบังคับใช้ต่อไป เพราะกฎหมายนี้ได้ให้อำนาจดีเอสไอ ในฐานะเป็นผู้รับอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ ที่สำคัญดีเอสไอก็ยังไม่ได้เสนอให้รัฐบาลยกเลิกมาตรา 44 ดังนั้น ก็จะยังคงไว้ต่อไป จนกว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จ หรือเห็นว่าสมควรเลิก ในส่วนตัว ไม่ได้มองว่าการทำงานยืดเยื้อ เพราะทุกอย่างมีขั้นตอน อยากให้การทำงานเรื่องนี้ออกมาดี ให้ออกมาถูกต้อง หากดีเอสไอ อยากให้กระทรวงยุติธรรม หรือรัฐบาล สนับสนุนอะไร หากสิ่งนั้นนำมาสู่ความดี สิ่งถูกต้อง ก็พร้อมสนับสนุน



+++พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีข้อกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งในโครงการต่างๆของรัฐที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยรัฐว่าจ้างบริษัทเอกชนเพื่อทำรายงานดังกล่าว ซึ่งบริษัทที่ถูกว่าจ้างเหล่านี้ชาวบ้านไม่ได้ให้ความเชื่อถือ เพราะชาวบ้านอ้างว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษารายงานอีเอชไอเอและอีไอเอ  พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี จึงได้ให้กระทรวงทรัพยากรฯ จัดทำโครงการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) เพื่อมองภาพรวมของพื้นที่และโครงการทั้งหมดทุกมิติ หากเกิดปัญหาหรือกระทบสิ่งแวดล้อมก็ไม่ต้องดำเนินการต่อ และหาทางเลือกอื่นต่อไป พร้อมอนุมัติจัดตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาสภาวะแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อลงพื้นที่ทำความเข้าใจและรับฟังแนวทางออกของปัญหา เช่น ในโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล และศึกษาเพิ่มเติมโดยเฉพาะกระบวนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่จัดจ้างบริษัทเอกชนทำ ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับกับประชาชนในพื้นที่



+++ในวันที่ 27 มี.ค. นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นเจ้าภาพเปิดเวทีรับฟังความเห็นในเรื่องความต้องการไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยจัดที่ จ.สงขลา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี มีกองทัพบกและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) เป็นฝ่ายดำเนินการ  ปัจจุบันมีบริษัทที่ปรึกษาที่รับจ้างเข้ามาทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยขึ้นบัญชีกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) มีประมาณ 70 บริษัท ซึ่งบางโครงการมีความละเอียดอ่อนสูงและไม่ได้รับความเชื่อถือจากชาวบ้าน เช่น โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ โครงการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำประปาลอดใต้ทะเลไปยังสมุย และบางบริษัทมีการทำอีเอชไอเอ ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง มีการจ้างคนมาร่วมเวทีรับฟังความเห็นซึ่งจะต้องถูกตรวจสอบและขึ้นแบล็กลิสต์ไว้ หากบริษัทใดไม่ปฏิบัติตามหน้าที่และบกพร่องในการทำการศึกษารายงาน จะมีการลงโทษด้วยการพักใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตในทันที  



+++กรณีที่นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ระบุถึงทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยไม่ยื่นแจ้งต่อกรมสรรพากรเพื่อประเมินการเสียภาษี นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ตามหน้าที่ของ ป.ป.ช.ต่อการยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน จะมีเพียงการตรวจสอบความถูกต้อง และความผิดปกติเท่านั้นไม่มีอำนาจตรวจสอบการเลี่ยงภาษีของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้นในชั้นการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ยังไม่พบความผิดปกติของกลุ่มบุคคลตามที่นายพิศิษฐ์ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน  



+++ความคืบหน้าการไต่สวนคดีบริษัทโรลส์ – รอยซ์ จ่ายสินบนแก่อดีตผู้บริหารและพนักงานของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ช่วงปี 2534-2548 วงเงิน 1,253ล้านบาท ในการจัดซื้อเครื่องยนต์  ในสัปดาห์หน้า ป.ป.ช. จะประชุมเริ่มกระบวนการไต่สวนพยานและผู้ถูกกล่าวหา ทั้งพยานบุคคลและเอกสาร พร้อมทั้งดำเนินการให้อัยการขอข้อมูลไปสำนักงานปราบปรามการทุจริต ประเทศอังกฤษ เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการไต่สวนด้วย



+++ตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 1,560.98 จุด เพิ่มขึ้น 3.93 จุด มูลค่าซื้อขาย 46,970.27 ล้านบาท นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบสลับกัน เนื่องจากตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันก่อนไปหมดแล้ว อีกทั้ง ผลการเลือกตั้งเนเธอร์แลนด์ พรรค PVV ที่เป็นพรรคขวาจัดหรืออนุรักษ์นิยม มีนโยบายที่จะให้เนเธอร์แลนด์ออกจากสหภาพยุโรป แพ้การเลือกตั้ง จึงทำให้ตลาดคลายความกังวลต่อประเด็นนี้



+++สำหรับสัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนอิงทางบวก แต่ต้องติดตามถ้อยแถลงของบรรดาคณะกรรมการเฟด โดยเฉพาะถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยเลน ในวันที่ 23 มี.ค. และคณะกรรมการอีกหลายคน โดยเน้น 4 คน ที่มีสิทธิโหวต ว่าจะออกมาส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไรในช่วงที่เหลือของปีนี้



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดลบในวันนี้ เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยน และความวิตกกังวลที่ว่าข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการขายที่ดินของรัฐบาลอาจจะส่งผลกระทบด้านการเมืองต่อนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ปิดลบ 68.55 จุด  ปิดที่ 19,521.59 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 21.65 จุด ปิดที่ 24,309.93 จุด



แฟ้มภาพ 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X