ททท.เปิดโลกทะเลชุมพร ดำนำ ดูปะการัง ปลาสวยงาม ความสมบูรณ์ทะเลไทย

วันที่สอง สำหรับการเปิดโลกทะเลชุมพร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พานั่งเรือมาดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ใต้ท้องทะเลอ่าวไทย มาดูความสวยงามในท้องทะเลกันบ้าง เกาะแรกที่เดินทางไป คือ เกาะมาตรา ใช้เวลาในการนั่งเรือประมาณ 40 นาที เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่เน้นย้ำในเรื่องการใช้อุปกรณ์ดำน้ำ ได้แก่ สน็อคเกอร์ และเสื้อชูชีพ

(ภาพประกอบ:เกาะมาตรา)

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเน้นย้ำเรื่องวิธีการดำน้ำดูปะการัง เนื่องจากปะการังที่นี่เป็นปะการังน้ำตื้น ผู้ที่ดำน้ำ ไม่ควรยืนใต้น้ำ เพราะจะทำให้ไปโดนปะการังเสียหาย และเสี่ยงต่อการถูกหอยเม่นตำด้วย เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่าหากใครโดนหอยเม่นตำ จะต้องไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากหอยเม่นมีหนามที่แหลมคมมาก 

(ภาพประกอบ หอยเม่น cr.zucchinoy)

สำหรับใครที่ว่ายน้ำไม่เป็น จะมีทุ่นห่วงยางให้เกาะ มีเจ้าหน้าที่ว่ายน้ำ พาไปดูปะการังในจุดต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวต้องฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่และต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง รวมทั้งรักษาระบบนิเวศในท้องทะเลด้วย โดยเกาะมาตรา เป็นเกาะที่มีปะการังสวยงาม อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ในช่วงที่มาวันนี้เป็นช่วงน้ำตื้น ทำให้เห็นปะการังอย่างชัดเจน แต่ต้องระมัดระวังไม่ยืนใต้น้ำเป็นอันขาด เนื่องจากมีหอยเม่นเป็นจำนวนมาก

เกาะที่สอง ที่มากัน คือ เกาะหลักแรด อยู่ใกล้กับเกาะแรด จะมีลักษณะเป็นหินปูนเรียงกัน 3 ก้อน 

(ภาพประกอบ:เกาะหลักแรด) 

ที่เกาะแห่งนี้ เราพบปะการังครกขนาดใหญ่สีสวยสด มีรูปร่างคล้ายกับครก มีลวดลายสวยงาม ซึ่งหาดูได้ยาก นอกจากนี้ยังมีปลามากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลาการ์ตูน ปลาเก๋า ปลานกแก้ว ปลาปักเป้า เป็นต้น 

(ภาพประกอบ:ปะการังครก cr.zucchinoy )

เกาะที่สาม ที่เราเดินทางมา จะอยู่ห่างจากเกาะที่สองประมาณ 20 นาที แต่ว่าเกิดฝนตกกลางทะเลค่อนข้างหนัก แต่เมื่อมาถึงเกาะลังกาจิว ฝนหยุดตก และเราก็พบกับปะการังใต้ท้องทะเล และดอกไม้ทะเลที่สวยงามมาก ในเกาะแห่งนี้น้ำทะเลจะใสมาก ไม่ขุ่น ประกอบกับมีแสงแดดสาดลงมาใต้น้ำ ทำให้เราเห็นปะการังได้ชัดเจนและสวยงาม บนเกาะลังกาจิว จะมีชาวบ้านอาศัยอยู่หลายครอบครัว มีอาชีพเก็บรังนกนางแอ่น โดยเกาะแห่งนี้ได้ชื่อว่ามีนกนางแอ่นทำรังอยู่เป็นจำนวนมาก  และในอดีตรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสฯ ถึง 3 ครั้ง และได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ของพระองค์ไว้บนผนังหินปากถ้ำ

(ภาพประกอบ:ดอกไม้ทะเล cr.zucchinoy)

ส่วนเกาะสุดท้าย คือ เกาะละวะ เป็นเกาะที่มีปะการังดอกกะหล่ำปลี และดอกไม้ทะเลอยู่เป็นจำนวนมาก และยังมีปลามากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ ที่เห็น คือ ปลานกแก้วสีสวย มีหลายชนิด ปลาปักเป้าตัวโต ปลาเก๋า ปลาการ์ตูน และปลาอื่นๆ อีกมากมายที่หลบซ่อนตัวในซอกหินและตามแนวปะการัง

(ภาพประกอบ:เกาะละวะ) 

สำหรับใครที่ว่ายน้ำไม่เป็น ไม่ต้องกังวล เนื่องจาก ก็เป็นคนหนึ่งที่ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน แต่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และมีห่วงยางให้เกาะ เจ้าหน้าที่จะพาไปชมปะการัง และช่วยดูแลให้ และพาเราไปดูปะการังใกล้ๆ พร้อมกับอธิบายให้ฟัง เนื่องจากการดำน้ำ ดูปะการังในบางจุดจะมีคลื่นแรง น้ำจะพัดออกกลางทะเล การดำน้ำ ดูปะการัง จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด นอกจากตัวเราจะได้รับความปลอดภัยแล้ว ยังจะเป็นการรักษาระบบนิเวศใต้ท้องทะเลด้วย

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข

CR:cr.zucchinoy