ประชุมครม./ทำเนียบรัฐบาลพร้อมต้อนรับ ปธน.ฟิลิปปินส์

ในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีวาระที่น่าสนใจคือ กระทรวงการคลังเสนอมาตรการสินเชื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีวงเงิน 1 หมื่น 5 พันล้านบาท ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอเรื่องการตั้งนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว

และในช่วงบ่าย  พลอากาศเอก ประจิน  จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ทำเนียบรัฐบาล

จากนั้นในเวลา 16.30 น. จะมีพิธีต้อนรับนายโรดรีโก โรอา ดูแตร์เต ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นจะลงนามสมุดเยี่ยม และหารือเต็มคณะ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ จะเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และข้อปฏิบัติว่าด้วยความร่วมมือด้านปศุสัตว์ จากนั้นจะมีการแถลงข่าว และงานเลี้ยงอาหารค่ำ

ที่รัฐสภาในวันนี้ติดตามการประชุมของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. หลังจากที่งดประชุมมา 8 ครั้งติดต่อกันหรือ 1 เดือนเต็ม เพื่อให้ สปท. ปฏิบัติหน้าที่กรรมาธิการได้อย่างเต็มที่ โดยการประชุมในวันนี้ มีวาระการปฏิรูปที่สำคัญและเร่งด่วน 27 วาระ ในปี 2560 กลุ่มเครื่องมือพัฒนาฐานราก จำนวน 3 วาระ คือการเงินฐานรากวิสาหกิจเพื่อสังคม และ ธนาคารที่ดิน นอกจากนี้ น.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธาน สปท. คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรมจะเชิญนายอนุสรณ์ จิรพงศ์ สปท. มาชี้แจงกรณีทำร้ายพนักงานร้านอาหาร

ส่วน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกระบวนการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่า สนช. มีความกังวลว่า หากรัฐธรรมนูญโปรดเกล้าฯ  ลงมาในช่วงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ แล้วนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการ ร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) จะส่งกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมาให้สนช.ทันที จะทำให้สนช.เสียเวลาในการทำงานไปหลายวัน เนื่องจาก สนช.มีเวลาพิจารณากฎหมายภายใน 60 วันเท่านั้น

เมื่อวานนี้ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งมีข้อสรุปเรื่องการประกาศใช้กฎหมายธุรกิจ 5 ฉบับคำแนะนำของธนาคารโลกเพื่อให้มีอันดับการประกอบธุรกิจ (Ease of doing business) ดีขึ้นจากที่ล่าสุดอยู่ในอันดับ 46 ขึ้นไปอยู่ระหว่าง 30-39 ในการประเมินครั้งต่อไป ซึ่งได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ร่าง พ.ร.บ.บริษัทมหาชน และ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ 2) ทั้งนี้ ธนาคารโลกประเมินผลการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของ 190 ประเทศทั่วโลก โดยไทยอยู่ในอันดับ 9 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย

ส่วนกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำกองทัพเรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การทำงานทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้  ส่วนกรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นสอบเสียภาษีจากกรณีรับเช็ค 1 ล้านบาท เมื่อปี 2551 นั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง สรุปผลการเชิญพรรคการเมือง 70 พรรค กับกลุ่มการเมือง 2 กลุ่ม และอีก 60 องค์กรภาคประชาชนเข้ามาหารือ มีพรรคการเมืองให้ข้อคิดเห็นแล้ว 53 พรรค รวมถึงกลุ่มการเมืองทั้ง 2 กลุ่ม เหลือพรรคการเมือง 4 พรรคที่ยังไม่พร้อม กับมีอีก 13 พรรคที่ติดต่อไม่ได้ ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จึงช่วยประสานให้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 5 เมษายนนี้

สำหรับการรับฟังความคิดเห็นในระดับพื้นที่ คาดว่าจะครบทั้ง 76 จังหวัดในวันที่ 23 มีนาคมนี้ จากนั้นจะมีการจัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อสรุปความเห็นในวันที่ 19 เมษายน และวันที่ 20-23 เมษายน คาดว่าเดือนมิถุนายนจะดำเนินการให้เสร็จสิ้น และจะได้เห็นร่างสัญญาประชาคม จากนั้นจะนำมาออกเผยแพร่เวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนครั้งสุดท้ายเพื่อปรับปรุงเป็นร่างสัญญาประชาคมต่อไป

...