ซีเอ็นเอ็นรายงานแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงของสหรัฐฯว่า รัฐบาลสหรัฐฯได้ออกกฏระเบียบให้สายการบินที่ทำการบินจากบางประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาเข้าสู่สหรัฐฯจะต้องตรวจสอบสัมภาระและห้ามผู้โดยสารนำอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทั้งหมดขึ้นเครื่องบิน ยกเว้นโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์การแพทย์ ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกคนหนึ่งจากหน่วยงานการบินพลเรือนของสหรัฐฯเพิ่มเติมว่า กฎระเบียบใหม่นี้จะครอบคลุมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือ รวมถึงแล็ปท็อป,แท็บเล็ต,เครื่องเล่นดีวีดีและเครื่องเล่นเกมส์แบบอิเลคทรอนิก
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัยในกรณีของผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเที่ยวบินในลักษณะบินตรงเข้าสู่สหรัฐฯโดยไม่มีการแวะจอดที่อื่น เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเชื่อว่าภัยคุกคามนี้อาจจะลดลงในระดับหนึ่ง ถ้าหากผู้โดยสารแวะเปลี่ยนเครื่องบินผ่านเมืองที่ 2 ก่อนบินเข้าสู่สหรัฐฯ โดยมีระบบตรวจสอบสัมภาระที่เชื่อถือได้ก่อนอนุญาตให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่องบิน
ด้านเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯระบุว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯได้แจ้งให้ประเทศและสายการบินต่างๆที่เกี่ยวข้องทราบเรื่องกฎระเบียบนี้แล้ว
คำสั่งห้ามนำอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินนี้อาจจะเชื่อมโยงกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มอัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาระเบีย(เอคิวเอพี)ที่ผ่านมาหน่วยข่าวกองสหรัฐฯได้ติดตามเรื่องภัยคุกคามจากกลุ่มนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว แต่เจ้าหน้าที่เพิ่มเติมว่า ข้อมูลบางอย่างที่หน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯได้รับมาระหว่างการบุกจู่โจมกลุ่มเอคิวเอพีในเยเมนเมื่อไม่นานมานี้ ยิ่งทำให้รัฐบาลสหรัฐฯมีความกังวลใจเรื่องภัยคุกคามในลักษณะนี้มากขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มเอคิวเอพีพยายามจะสร้างระเบิดที่ใช้ชิ้นส่วนโลหะไม่มากนักหรือไม่มีส่วนผสมของโลหะเลยเพื่อใช้โจมตีเครื่องบินโดยสาร ที่สำคัญคือนายอิบราฮิม อัลอาซิรี หัวหน้าผู้ผลิตระเบิดของกลุ่มเอคิวเอพี ได้ฝึกสอนสมาชิกคนอื่นๆให้ทำระเบิดชนิดนี้ด้วย นอกจากนี้ มาถึงทุกวันนี้กลุ่มเอคิวเอพีเป็นองค์กรก่อการร้ายกลุ่มเดียวที่แสดงให้เห็นว่ามีความพยายามจะโจมตีเครื่องบินโดยสาร