รอยเตอร์รายงานอ้างนายบอย ราฟลี อามาร์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียว่าองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศหรือตำรวจสากลได้ออกหมายแดงหรือหมายจับระหว่างประเทศสำหรับ 3 ผู้บริหารของบริษัทไชนา ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล คอร์ป(ซิโนเปค) บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อันดับสองของจีนคือ นายจ้างจุน ผอ.ด้านการเงินของโครงการคลังน้ำมันเวสต์ป้อยท์ในอินโดนีเซีย,นายเฟง จื้อกัง ซีอีโอ และนายเย ชื่อจุน ประธานโครงการ หลังต้องสงสัยว่าทุจริตในโครงการก่อสร้างคลังน้ำมันเวสต์ป้อยท์มูลค่ากว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในอินโดนีเซีย
ก่อนหน้านี้ ทางการอินโดนีเซียได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจสากลเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ให้ออกหมายจับผู้บริหารชาวจีนทั้ง 3 คนนั้นฐานต้องสงสัยยักยอกเงินจำนวนหนึ่ง ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขอย่างชัดเจนจากโครงการคลังน้ำมันดังกล่าว โฆษกตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียเพิ่มเติมว่าสาเหตุที่ขอให้ตำรวจสากลออกหมายจับเนื่องจากผู้บริหารทั้ง 3 คนเดินทางออกนอกประเทศอินโดนีเซียแล้วหรือไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนกับตำรวจในท้องถิ่น
ที่ผ่านมาธุรกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติของอินโดนีเซียมีปัญหาทุจริตอย่างแพร่หลาย องค์การความโปร่งใสสากลกล่าวถึงอินโดนีเซียว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตในภาครัฐมากที่สุดในโลก อีกทั้งมีความไม่แน่นอนในข้อกฎหมายและนิติกรรมสัญญา ด้านนายเดฟริซัล จามาริส ทนายความในฐานะตัวแทนของบริษัทพีที มัส แคปปิตอล ทรัสต์(เอ็มซีที)ผู้ถือหุ้นรายย่อย ร้อยละ 5 ของโครงการ ระบุว่าเอ็มซีทีได้แจ้งความกับตำรวจในท้องถิ่นของอินโดนีเซียเมื่อปี 2558 ว่าอาจจะมีการทุจริตในโครงการดังกล่าว สำหรับหมายจับแดงถือว่าเป็นแจ้งเตือนในขั้นสูงสุดของตำรวจสากล เป็นการแจ้งเพื่อให้ตำรวจติดตามตรวจค้นสถานที่พักอาศัยของบุคคลตามหมายจับและให้จับกุมตัวไปดำเนินคดียังประเทศที่ยื่นคำร้องต่อไป