นายกฯไทย-ผู้นำฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์ร่วม กระชับความสัมพันธ์ทุกด้าน การเกษตร วิทยาศาสตร์ และท่องเที่ยว

21 มีนาคม 2560, 18:57น.


หลังการร่วมหารือระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายโรดริโก โรอา ดูเเตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทาง พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า จากการร่วมพูดคุยเป็นที่พอใจและประสบความสำเร็จอย่างมากในการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ซึ่งถือครั้งแรกหลังจากหลังจากได้รับตำแหน่ง จากที่เคยได้เดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยังกล่าวแสดงความยินดี โอกาสขึ้นครองราชย์ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10



นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่าไทยและฟิลิปปินส์ มีความสัมพันธ์กันยาวนานกว่า 68 ปี ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือของทั้งสองประเทศ วันนี้จึงได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง หรือ MOU ทั้ง 3 ฉบับ ได้แก่ ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ,ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และความร่วมมือด้านการเกษตร นอกจากนี้ยังมีการพูดคุย ในเรื่องเศรษฐกิจ ที่ทั้งสองประเทศ เห็นท้องจะขยายมูลค่าทางการค้าและการลงทุน โดยการเพิ่มบทบาทของคณะกรรมการร่วมด้านการค้า และสนับสนุนให้พระเอกชนของทั้งสองประเทศ รื้อฟื้นการประชุมสภาธุรกิจ เพื่อหารือทางธุรกิจ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันเช่นภาคบริการ ดิจิตอลคอนเทนต์และการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ



ส่วนทางด้านความมั่นคง และทหาร ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือ ที่จะส่งเสริม การเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาภัยคุกคาม ทางเศรษฐกิจ อาชญากรรมข้ามชาติการค้ามนุษย์และความมั่นคงทางไซเบอร์ รวมไปถึงได้มีการแจ้งสถานการดำเนินการกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ และกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพในมินดาเนาโดยทั้งสองประเทศเห็นพ้องว่าการพูดคุยเป็นปัจจัยสำคัญต่อการส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจ และความเข้าใจเพื่อนำไปสู่การแก้ไขสถานการณ์อย่างยั่งยืน  ขณะเดียวกัน ก็จะส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีด้านการเกษตรชลประทานปศุสัตว์ รวมไปถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำอีกด้วย



ส่วนด้านการท่องเที่ยว ทั้งไทยและฟิลิปปินส์มีจุดเด่น ทั้ง 2 ประเทศ ดังนั้น จึงต้องมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเน้นทางเรือ เรือสำราญ และทางอากาศ  ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะช่วยส่งเสริมแลกเปลี่ยนการทำการศึกษาและวิจัยร่วมกัน เพื่อพัฒนา ในภูมิภาค และสร้างความเข้มแข็งในประเทศ



ส่วนสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ทั้งสองประเทศเห็นว่าการรักษาสันติภาพเสถียรภาพและความมั่นคง รวมถึงการเคารพในเสรีภาพของเส้นทางเดินเรือ การบินผ่านทะเลจีนใต้เป็นผลประโยชน์ร่วมของทุกประเทศทั้งในและนอกภูมิภาค จึงเห็นว่าเป้าหมายสูงสุดของทะเลจีนใต้ คือการเป็นทะเลแห่งสันติภาพ เพื่อผลประโยชน์ของภูมิภาคและประชาชน ซึ่ง ในการนี้ฟิลิปปินส์ได้ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับฝ่ายไทย รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว



นอกจากนี้ ทั้งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย เร่งดำเนินการเพื่อหาข้อสรุปความตกลงบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษา / บันทึกความเข้าใจในด้านการบริการเดินอากาศ /บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ /บันทึกความเข้าใจระหว่างโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายสุขภาพและความตกลงว่าด้วยความช่วยเหลือกันทางศาลในคดีแพ่งและพาณิชย์ กับประเทศสมาชิกอาเซียน ให้เสร็จสิ้น ภายในปี 2560  อย่างไรก็ตามยืนยันว่าทั้งไทยและฟิลิปปินส์ สรุปมีการความมั่นคงให้แก่ทั้งสองประเทศประชาชนของทั้งสองประเทศ และประชาคมอาเซียน

ข่าวทั้งหมด

X