ภายหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. ... นายศุภชัย สมเจริญประธานกกต. กล่าวว่า หลังจากการร่วมประชุม กกต. ได้ให้ข้อมูลในเรื่องกกต.จังหวัด ผู้ตรวจการเลือกตั้งและบทเฉพาะกาล ซึ่งกกต.ยืนยัน ว่าควรจะมี กกต.จังหวัดต่อไป แต่ปรับปรุงรูปแบบสรรหา เงินเดือน คุณสมบัติต่างๆ
ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากรกรรมการกกต. เปิดเผยถึงการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย กกต.จังหวัด และผู้ตรวจการเลืองตั้ง ซึ่งยอมรับกกต.จังหวัด มีเสียงครหาว่ามีความเชื่อมโยงกับการเมืองทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต จึงเสนอให้มีการสรรหากกต.จังหวัดจากบุคคลที่มีความหลากหลาย 5 สายงาน และไม่ใช่ข้าราชการประจำ เช่น ผู้มีประสบการณ์ด้านจัดการเลือกตั้ง ด้านกฎหมายและสอบสวน ด้านการบริหาร ด้านภาคประชาสังคม และบุคคลคนมีประสบการณ์การศึกษาการเมือง ซึ่งจะทำงานเป็นบอร์ด ไม่ก้าวก่ายคดีเลือกตั้ง และรับเบี้ยประชุมรายเดือนไม่ใช่เงินเดือน ซึ่งจะประหยัดงบประมานไม่เกินปีละ 100 ล้านบาท
ส่วนผู้ตรวจการเลือกตั้ง ที่เบื้องต้นมีการระบุว่าจะต้อง ไม่ใช่ข้าราชการประจำและฝ่ายการเมือง มองว่าดังนั้นผู้เข้าระบตำแหน่งจะต้องเป็นฝ่ายเอกชน หรือข้าราชเษียณ ซึ่งการทำงานจะต้องลงพื้นที่ในต่างจังหวัด 4-6 เดือน จึงมองว่าผู้ที่จะมาทำหน้าที่จะไม่มีความคุ้นเคยกับท้องถิ่น อีกทั้งการลงพื้นที่มีค่าใช้จ่ายทั้งค่าที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยง ทำให้เกิดปัญหาที่ต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณปีละ 600 ล้านบาท
ภายหลังจากรับฟังกรรมการการเลือกตั้ง (กรธ.) ค่อนข้างมีแนวโน้มทำเป็น 2 รูปแบบ แต่ยังคงไม่มีข้อยุติอย่างเป็นทางการ เพราะกรธ.จะต้องไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อมั่นว่าแม้ไม่มีผู้ตรวจราชการการการเลือกตั้ง กกต.ก็จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ อย่างมีประสิทธิภาพและสุจริตเที่ยงธรรมได้อย่างแน่นอน