สำนักช่างสิบหมู่เปิดให้อาสาสมัครช่วยงานเย็บผ้าลายทองแผ่ลวด/หารือปรองดอง20เม.ย./รวบพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ที่จ.ลพบุรี

24 มีนาคม 2560, 09:04น.


+++การบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  นางยุนีย์  ธีระนันท์  หัวหน้ากลุ่มงานช่างปิดทองประดับกระจก สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวว่า ขณะนี้คืบหน้าไปกว่าร้อยละ 30 แล้ว โดยประดับกระจกลวดลายกระหนกชั้นเกรินด้านหน้าและท้ายเกรินพร้อมประดับกระจกลายหน้ากระดานชั้นเบญจาด้านท้ายและส่วนต่าง ๆ  ส่วนพระที่นั่งราเชนทรยานอยู่ระหว่างการถอดชิ้นส่วนและลอกผิวทองเดิมออก เพื่อตกแต่งลวดลาย คาดว่าปลายเดือน พ.ค.นี้ จะเห็นความก้าวหน้าที่ชัดเจน



+++ส่วนงานช่างเย็บผ้าลายทองแผ่ลวดธงสามชายที่ประกอบเป็นธงงอนราชรถ  สำนักช่างสิบหมู่ต้องจัดทำขึ้นใหม่ทั้งหมด 30 ชิ้น สำหรับประกอบเป็นธงงอนราชรถ 15 ผืน เพื่อใช้เป็นเครื่องประกอบพระมหาพิชัยราชรถ พระที่นั่งราเชนทรยาน และราชรถน้อยหมายเลข 9782, 9783 และ 9784 คาดว่า การจัดทำธงสามชายประกอบเป็นธงงอนราชรถทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ส.ค. ซึ่งในการเย็บผ้าลายทองแผ่ลวดธงสามชายทั้งหมดได้จัดทำที่สำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม สำนักช่างสิบหมู่ เปิดให้อาสาสมัคร 100 คน เข้ามาร่วมปฏิบัติงานในลักษณะสลับหมุนเวียนกันไปซึ่งอาสาสมัครแต่ละคนต้องผ่านการทดสอบทักษะความสามารถด้านงานปักก่อน หากมีฝีมือคัดลายได้คมชัดก็จะได้ปักงานจริงทันที ส่วนผู้ที่ฝีมือยังไม่ถึงขั้นจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยฝึกและแนะนำเทคนิคให้จนสามารถปฏิบัติงานได้ดีเพราะงานเย็บผ้าลายทองแผ่ลวดถือเป็นงานช่างโบราณแขนงหนึ่ง



+++เรื่องการปรองดอง นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) เปิดเผยว่า การประชุม ป.ย.ป.นัดต่อไปในวันที่ 20 เม.ย. เป็นการรายงานความคืบหน้าการทำงาน 4 คณะย่อยใน ป.ย.ป. และนายกรัฐมนตรีคงจะให้แนวทางต่อไป



+++ส่วนคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ คาดว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการทำ เวิร์กช็อปร่วมกันระหว่างผู้ทรงคุณวุฒิในคณะดังกล่าว กรรมาธิการของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อผลักดันเรื่องการปฏิรูปร่วมกับรัฐบาล



+++จากกรณีหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ใช้อำนาจมาตรา 44 ออกคำสั่ง ที่ 14/2560 มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กำหมายว่าด้วยการจราจรทางบก โดยเฉพาะการจัดการกับผู้ที่ไม่ไปเสียค่าปรับตามใบสั่งในกำหนดเวลา โดยจะไม่ต่อทะเบียนรถประจำปีให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก ร่วมหารือวางแนวทางการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเชื่อมต่อระบบชำระค่าปรับจราจร และบังคับใช้ตามคำสั่งของหัวหน้า คสช.ที่ให้ผู้ที่ถูกออกใบสั่งมาชำระภายใน 15 วัน หากไม่ชำระจะต้องถูกระงับการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี  พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หากเชื่อมต่อข้อมูลได้แล้วก็จะเริ่มบังคับใช้ตามมาตรการที่ระบุว่าต้องจ่ายค่าปรับภายใน 15 วันได้ทันที คาดว่าการเชื่อมต่อระบบต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน และเริ่มบังคับใช้กฎหมายนี้อย่างเข้มงวดมากขึ้น



+++ส่วนการออกใบสั่งรูปแบบใหม่ อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยน โดยจะมีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับฐานความผิด จำนวนค่าปรับ รวมทั้งการตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งหากถูกตัดเกิน 60 คะแนน จะต้องเข้ารับการอบรม นอกจากนั้นได้เสนอขอเพิ่มโทษปรับกรณีที่ผู้ที่ไม่มาชำระค่าปรับตามเวลาที่กำหนดจะต้องถูกปรับเพิ่มอีก 1,000 บาท รวมทั้งเพิ่มโทษกับผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถด้วย



+++การบังคับให้รถทุกที่นั่งต้องคาดเข็มขัดนิรภัย นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ชี้แจงว่า กรมขนส่งทางบกมีการบังคับใช้กฎหมาย 2 ส่วน คือ กฎหมายรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก สำหรับรถยนต์ที่นั่งบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่จดทะเบียนระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2531 - 31 ม.ค. 2555 และรถแท็กซี่ ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ต้องมี และคาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนรถแท็กซี่ ที่จดทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2554 กำหนดให้มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนรถตู้ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2555 ต้องมีและคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนของรถกระบะ (ปิกอัพ) ในส่วนของผู้ขับขี่และคนนั่งด้านหน้า ต้องมีและคาดเข็มขัดนิรภัย ยกเว้นรถสองแถว รถกระบะมีแคป และรถสามล้อเครื่อง ที่บังคับเฉพาะคนขับและผู้โดยสาร เนื่องจากไม่เหมาะแก่การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเพิ่มเติม



+++นายกมล กล่าวถึง การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก กรณีรถบรรทุก บังคับให้มีและต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ส่วนรถโดยสารหมวด 2 และ หมวด 3 ไม่เกิน 20 ที่นั่ง ที่วิ่งระหว่างกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด และวิ่งระหว่างจังหวัด รวมถึงรถบัสขนาดใหญ่ที่วิ่งในมหาวิทยาลัย จะบังคับให้มีและใช้เข็มขัดนิรภัย ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า รวมทั้งมีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง โดยจะให้มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันเช่นกัน



+++สำหรับกรณีรถแท็กซี่ อนุญาตให้บรรทุกผู้โดยสารทั้งคันไม่เกิน 5 คน รวมคนขับ โดยทุกที่นั่งต้องมีและใช้เข็มขัดนิรภัย หากฝ่าฝืน คนขับจะมีความผิดฐานยินยอม ส่วนผู้โดยสารจะมีความผิด ฐานไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับคนละไม่เกิน 500 บาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ให้มีการติดตั้งให้ครบทุกที่นั่ง ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะดำเนินการก่อนช่วงเทศสงกรานต์ เพื่อลดอุบัติเหตุ



+++คดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน ที่มีผู้ต้องหาออกหมายจับ 164 ราย ประกอบด้วยนิติบุคคล 4 ราย บุคคลธรรมดา 160 ราย เป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้ว 98 ราย มีผู้ต้องหาที่หลบหนี 66 ราย มีผู้เสียหาย 2,451 ราย มูลค่าความเสียหาย 351,556,314 บาท พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ 10. กล่าวว่า ศาลได้พิพากษาให้จำเลยทั้ง 22 ราย คืนหรือใช้ราคาทรัพย์สิน หรือค่าสินไหมทดแทนกับผู้เสียหายกรณีนี้ผู้เสียหายทั้ง 2,451 ราย เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยทั้ง 22 ราย ซึ่งขั้นตอนในการดำเนินการต่อไปหลังจากนี้อีก 30 วัน (22 เม.ย.) จำเลยจะ ต้องชดใช้ให้กับผู้เสียหายตามคำพิพากษาหากจำเลยไม่ชดใช้ตามคำพิพากษา ผู้เสียหายในคดีจะต้องดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ออกคำบังคับคดี ก็จะมีการตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเมื่อตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วก็จะนำสืบทรัพย์สินของจำเลยทั้ง 22 ราย ว่าอยู่ที่ไหนบ้าง เมื่อทราบก็จะให้เจ้าพนักงานบังคับคดีไปทำการยึดทรัพย์มาขายทอดตลาด และนำทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหายทั้ง 2,451 ราย ซึ่งคดีนี้ไม่ต้องรอผลอุทธรณ์ฎีกาว่าเป็นอย่างไรสามารถบังคับนำทรัพย์สินคืนผู้เสียหายได้เลย



+++เรื่องการปราบปรามยาเสพติด รวบพ่อค้ายาบ้าเจ้าใหญ่ในลพบุรี ค้นพบยากว่า 9 แสนเม็ด เฮโรอีนอีก 6 กก.คาดหากออกจำหน่ายจะมีราคาสูงถึง 200 ล้านบาท พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ เพร็ชกำเนิด ผบก.ปส.3 พล.ต.อิทธิพล สุวรรณรัฐ ผบ.มทบ.13 นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พล.ต.ต.ฎิษพจณ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี แถลงว่า จากการข่าวทราบมาว่า ในเขต ต.โพตลาดแก้ว อ.ท่าวุ้ง มีการจำหน่ายยาเสพติด และเป็นแหล่งพักยาบ้ารายใหญ่ที่มีเครือข่ายโยงใยในเชียงราย จึงได้ส่งสายลับมาทำการล่อซื้อ  ทั้งนี้หลังจากได้รับยาเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและจับกุมนายนิรุจน์ ขำปู่ อายุ 25 ปี พบยาบ้าในกระเป๋าอีก 80 เม็ด จึงขยายผลมาค้นบ้าน นายดุจเทพ เหล็กดี จากการตรวจค้นสวนกล้วยและพงหญ้า พบยาบ้าในถุงปุ๋ย และถุงขยะสีดำที่ใส่อยู่ในถังน้ำแข็ง มียาบ้าทั้งสิ้น 9 แสนเม็ด และเฮโรอีนอีก 6 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังพบปืนพกสั้นขนาด 9 มม. พร้อมกระสุน 14 นัด แม็กกาซีน 1 อัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และสมุดบัญชีเงินฝากที่มีเงินหมุนเวียนจำนวนหนึ่ง สอบถามนายดุจเทพ กล่าวว่า มีคนนำยาบ้ามาฝากไว้ จากนั้นนำออกไปส่งให้ตามที่สั่งมา



+++ทั้งนี้ สถานที่ดังกล่าวถือเป็นแหล่งพักยาขนาดใหญ่ ที่เตรียมส่งขายในเขตภาคกลาง และปริมณฑล มีเครือข่ายกับกลุ่มพ่อค้ายาในเชียงราย ที่ถูกจับได้เมื่อต้นเดือนมี.ค. จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านที่พบยาบ้า ไม่มีใครรู้มาก่อนเลย และบ้านที่พบก็มีอาชีพในการร้อยมาลัยขาย และอยู่ห่างจากเทศบาลตำบลโพตลาดแก้วประมาณ 500 เมตรเท่านั้น



+++การทำงานของการก่อสร้างรถไฟฟ้า นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ด้านวิศวกรรมและก่อสร้าง) พร้อมด้วยผู้แทนกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา PCGRN และผู้แทนผู้รับจ้างงานก่อสร้างทุกสัญญา ร่วมชี้แจงถึงกรณีอุบัติเหตุ พร้อมเน้นย้ำมาตรการด้านความปลอดภัยของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต  นายภคพงศ์ กล่าวว่า จากอุบัติเหตุ อุปกรณ์ช่วยยกคานรองรับทางวิ่งรถไฟฟ้า (Lifting Frame) ได้ร่วงหล่นลงมาบนถนนพหลโยธิน เมื่อวันที่ 17 มี.ค. และอุบัติเหตุอุปกรณ์เทคอนกรีตโครงสร้างเสารองรับทางวิ่งรถไฟฟ้า (Concrete Bucket) ทำให้น้ำปูนไหลใส่รถยนต์ที่จอดติดไฟแดงบริเวณหน้าโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ถนนพหลโยธิน เมื่อวันที่ 21 มี.ค. รฟม. ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



+++รฟม. มีมาตรการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดย ผู้ว่าการรฟม. ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างสัญญา 1 และสัญญา 2 หยุดการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการยกของขึ้นที่สูง การทำงานในที่สูงและการป้องกันวัสดุตกหล่นจากทางวิ่งรถไฟฟ้าที่ติดตั้งไปแล้ว และให้ที่ปรึกษาควบคุมโครงการตรวจสอบอุปกรณ์ ขั้นตอนการก่อสร้าง ว่ามีมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดแล้วหรือไม่ และต้องปรับปรุงขั้นตอนต่างๆ ให้เสร็จสิ้นก่อนจึงให้ปฏิบัติงานต่อไปได้



+++เหตุการณ์อุปกรณ์ช่วยยกคานรองรับทางวิ่งรถไฟฟ้า ได้ร่วงหล่นลงมาบนถนนพหลโยธิน ได้ให้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนอุปกรณ์ยก/ยึด Lifting Frame ใหม่ทั้งหมด และในการยก/ยึด Lifting Frame จะต้องมีมาตรการความปลอดภัยสำรอง (Secondary measure) สำหรับกรณีอุปกรณ์ชำรุดทุกครั้งผู้รับจ้างได้เจรจาตกลงค่าเสียหายต่างๆกับผู้เสียหายจนได้ข้อยุติแล้ว



+++ช่วงบ่าย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล



+++นางสาวเรณู  ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดงาน วิถีไทยชายแดนใต้ กินดี อยู่ได้ เข้าใจกัน  ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ทำเนียบรัฐบาล



+++วันนี้ เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัว นายสำราญ หรือเอก ม่วงเขียว อายุ 31 ปี ฉายา เอก ล็อก 1 หัวหน้าแก๊งเช็ดกระจกรถ บริเวณแยกอังรีดูนังต์และถนนวิทยุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาดคีเผาสะพานไทย-เบลเยี่ยม ข้อหากระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทและเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย โดยจับกุมที่สถานสงเคราะห์คนเร่ร่อนชาย อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังเกิดเหตุ ตำรวจประสานงานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จับกุมผู้มีพฤติกรรมเร่รอน ที่อาศัยนอนอยู่บริเวณใต้สะพานข้ามแยก เพื่อไม่ให้มีเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้น นอกจากนั้นยังจับกุมพวกกลุ่มแก๊งเช็ดกระจกที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน นำตัวไปทำประวัติและเปรียบเทียบปรับในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ



+++พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ รอง ผบก.น.5 ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สั่งให้การตำรวจในสังกัด ลงพื้นที่กวดขันจับกุมบุคคลเร่ร่อนไร้ที่พักพิงและขอทานสร้างความเดือดร้อนรวม 39 ราย ตามนโยบายรัฐบาล พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มคนเร่ร่อนตั้งก๊วนกันทำอาชีพเช็ดกระจกรถตามสี่แยกไฟแดง สร้างความรำคาญต่อผู้ใช้รถใช้ถนน หากไม่จ่ายเงินก็ถึงขั้นข่มขู่ สร้างความหวาดกลัวไปทั่ว จึงต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่ให้มีคนเร่ร่อนมาพักอาศัยตามใต้สะพานทุกเส้นทางของ บก.น.5 เช่น ถนนพระราม 4 ถนนสุขุมวิท ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบุคคลที่เคยก่อเหตุข่มขู่ผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณแยกคลองเตย จนตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ก่อนจะส่งมอบบุคคลทั้งหมดนี้ให้ พม.ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X