ศาลไต่สวน4ชม. ไม่ให้ประกันตัว9ผู้ต้องหาเครือข่ายโกตี๋

25 มีนาคม 2560, 14:52น.


การฝากขัง 9 ผู้ต้องหาเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี ผัดแรก นางปานฤดี บำเพ็ญบุญ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ  กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมกำลัง ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ทั้ง 9 คน ในคดี ร่วมกันก่อการร้าย มีอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียน ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครองได้ฯ โดยพนักงานสอบสวนระบุในคำร้องสรุปว่า



 


ในช่วงปลายปี 2542 - 20 พ.ค. 53 ต่อเนื่องกัน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินคดีกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการณ์แห่งชาติหรือ นปช. หรือคนเสื้อแดงโดยกล่าวหาว่า ร่วมกันก่อการร้ายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล  และพื้นที่บางส่วนเกี่ยวพันกันและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา คดีหมายเลขดำ อ.2542/53 ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า ยังมีกลุ่มบุคคลของนายวุฒิพงศ์ หรือโกตี๋ กชธรรมคุณ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 739/60 ลงวันที่ 22 มี.ค.2560 ซึ่งยังหลบหนี ได้ร่วมกันวางแผนสะสมอาวุธ อาวุธสงคราม และวัตถุระเบิด เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายและก่อเหตุความไม่สงบขึ้นอีก  กระทั่งวันที่ 18 มี.ค.60 เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมวัดพระธรรมกาย และพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อตรวจค้นใน 9 จุด 7 จังหวัด พบอาวุธสงคราม วัตถุระเบิดเครื่องกระสุนจำนวนมาก และอาวุธบางส่วนเกี่ยวพันกับการชุมนุมเมื่อปี 2553 เอกสารการจัดกองกำลัง แผ่นซีดีกิจกรรมคนเสื้อแดง แผ่นตราสัญญลักษณ์ นปช. ป้ายผ้าแดงระบุข้อความ" โกตี๋ แดงปทุมธานี "บ่งชี้ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน เป็นเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ มีพฤติการณ์ร่วมกันสะสมกำลังหรืออาวุธ และสนับสนุนการก่อการร้ายปี  2553


 


ต่อมาวันที่ 24 มี.ค.พนักงานสอบสวนดีเอสไอ.ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ฐานร่วมกันก่อการร้าย  ร่วมกันครอบครองอาวุธสงคราม และเครื่องกระสุน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ครอบครองได้ ฯ และอื่นๆ  ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ


       


ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำพยานบุคคล ที่เกี่ยวข้องในคดีอีก 25 ปาก  รอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือ รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง  และอื่น ๆ  จึงขอฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่  25 มี.ค.- 5 เม.ย. นี้ 


       


ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจาก  ผู้ต้องหาเป็นกลุ่มบุคคลที่นิยมความรุนแรง และมีพฤติการณ์ร่วมกันสะสมกำลังพล และอาวุธสงครามเพื่อก่อเหตุรุนแรงหรือเพื่อใช้ต่อสู้กับรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย หากปล่อยชั่วคราว เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปก่อเหตุรุนแรงอีก


        


ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้


        


ต่อมาญาติของนายธนโชติ  ผู้ต้องหาที่ 2 และนายบุญส่ง ผู้ต้องหาที่ 3  ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 6 แสนบาท และ 3 แสนบาทตามลำดับขอปล่อยชั่วคราว


         


อย่างไรก็ตามศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า  คดีตามข้อกล่าวหามีอัตราโทษสถานหนักสูงสุดถึงประหารชีวิต พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะการกระทำเป็นขบวนการก่อให้เกิดความรุนแรงและความไม่สงบสุขในบ้านเมือง ทั้งพนักงานสอบสวนค้านการประกัน เพราะเกรงจะหลบหนีหรือไปก่อเหตุร้ายประการอื่นอีก ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยช่วคราว ระหว่างสอบสวนยกคำร้อง


 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X