ในช่วงเย็นนี้เรามาต่อกันที่ดอยตุง จังหวัดเชียงราย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)พามาเริ่มกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พระธาตุดอยตุง เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต จากนั้นททท.พาเดินทางต่อกันที่พระตำหนักดอยตุงหรือพระตำหนักสมเด็จย่า เคยเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในการพัฒนาชีวิตคนบนดอยและธรรมชาติให้ดีขึ้นซึ่ง2ข้างทางระหว่างเดินขึ้นไปพระตำหนักดอยตุง จะเห็นได้ว่ามีต้นไม้ดอกไม้ปลูกเรียงกันอย่างสง่างาม และแม้ช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว แต่บรรยากาศที่ดิฉันได้สัมผัส คือ อากาศเย็นสบาย ร่มรื่น เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวเป็นมาก
เมื่อตามทางมาเรื่อยๆก็จะเจอกับพระตำหนักดอยตุง ด้านหน้าจะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำอุปกรณ์อิเล็กเทคนิคที่ให้กับนักท่องเที่ยวไว้ใช้สำหรับฟังบรรยากาศข้อมูลต่างๆเช่น ที่ประทับและระเบียงจุดชมวิวของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อเสด็จมาเยี่ยมประชาชน ล่าสุดพึ่งเสด็จมาเมื่อวันที่13กุมภาพันธ์จากนั้นเมื่อเดินตรงเข้ามาจะเป็นส่วนสมัยที่สมเด็จย่าเสด็จมาประทับ นักท่องเที่ยวก็จะได้เห็นห้องต่างๆ เช่น ห้องเครื่องหรือห้องควรส่วนพระองค์ ห้องรับรองแขก ห้องบรรทม ห้องทรงงาน ซึ่งแต่ละห้องจะเห็นได้ถึงความเรียบง่ายไม่หวือหวา รวมถึงมีการจัดแสดงผลงานฝีพระหัตถ์และอุปกรณ์ที่สมเด็จย่าทรงใช้และมีลูกเปตองที่พระองค์ใช้บริหารร่างกาย ซึ่งเป็นกีฬาเบตองที่สมเด็จย่าเป็นผู้นำมาเผยแพร่ในประเทศ และมีการแสดงผลงานการ์ดที่พระองค์ทำจากดอกไม้แห้งผ่านกระดาษหนังสือพิมพ์ หากท่านใดสนใจสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมได้ทุกวัน เวลา 07.00-17.30 น.
ขณะที่นักท่องเที่ยว นางสาวทิพย์ทาอร ทองเลี่ยมนาค ชางจังหวัดนครศรีธรรมราชที่เดินทางมากับครอบครัว เปิดเผยถึงความรู้สึกที่ได้มาเยี่ยมชมพระตำหนักดอยตุงว่า การมาครั้งนี้ ได้เยี่ยมชมพระราชกรณียกิจของสมเด็จย่า และจะนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตเช่น มุมมองความคิดของสมเด็จย่าที่ว่า การปลูกต้นไม้ต้องใส่ปุ๋ยเหมือนกับคนที่ต้องได้รับการดูแล ซึ่งประทับใจมากที่ได้มา เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีความล้ำค่ามาก สมเด็จย่าพยายามปรับพื้นที่บริเวณนี้ให้กลับมาสวยงาม ถือว่าพระองค์ใช้พระปรีชาและความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้นางสาวทิพย์ทาอรกล่าวต่อว่า ที่บ้านนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมาใช้ในการทำไร่นาสวนผสมและปลูกไม้เชิงครัวเรือน จนกระทั่งพ่อของตนได้รับรางวัลเกษตรพอเพียงแนวคิดทฤษฎีใหม่จาก เกษตรป่าไม้จังหวัดนครศรีธรรมราชรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่พสินิกรชาวไทยมีพระองค์คอยเมตตาอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้เมื่อเยี่ยมชมพระตำหนักดอยตุงเสร็จ ด้านหน้ายังมีสวนแม่ฟ้าหลวงเนื้อที่่ประมาณ10กว่าไร่ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปและสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งสวนแม่ฟ้าหลวงนี้มีการปลูกดอกไม้หลากพันธุ์ หมุนเวียนสลับกัน ให้ออกดอกไม่ซ้ำกันตลอดแต่ละฤดู สีสรรสวยงามอร่ามตามมาก โดยจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.30-18.00 น.
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมพระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง จะมีค่าบริการสถานที่ละ 90 บาท/คน ส่วนผู้สูงอายุและนักเรียนนักศึกษาหากนำบัตรมาแสดงจะมีค่าบริการสถานที่ละ 45 บาท/คน ที่สำคัญมีบริการซื้อบัตรค่าเข้าชมแบบเหมารวมด้วย โดยบุคคลทั่วไป 200 บาท ผู้สูงอายุและนักเรียนนักศึกษา 100 บาท
ตร.บางใหญ่ตามTAXI นำตะกร้ามาคืนให้แม่ชีทองสุขแล้ว
ราคาทองเริ่มปรับฐาน ปรับตัวลดลง – จีนเตรียมยกเว้นภาษีสหรัฐบางส่วน
ญี่ปุ่นปฎิเสธ สหรัฐแทรกแซงค่าเงินเยน-หุ้นปิดภาคเช้าเพิ่มขึ้น
ข่าวทั้งหมด
