การเตรียมความพร้อม ในโครงการเดินทางอุ่นใจปลอดภัยไปกับกรมทางหลวงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี2560 ระหว่างวันที่11-18เมษายน นายสราวุธ ทรงศิวิไล รองอธิบดีกรมทางหลวงเปิดเผยว่า กรมทางหลวงตั้งเป้าหมายลดการเกิดอุบัติเหตุจากปีที่แล้วอย่างน้อยร้อยละ5 และพยายามไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนทางด่วนพิเศษและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โดยเตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในการบูรณาการร่วมกับกับทุกหน่วยงานไว้สำหรับบริการประชาชน จัดตั้งศูนย์ประสานงาน125แห่ง จุดให้บริการทั่วไทย 394 แห่ง โดยจะให้บริการประชาชน เช่น ชุดบริการเคลื่อนที่เร็ว สุขาเคลื่อนที่ ตรวจเช็คสภาพรถ แผนที่แนะนำเส้นทาง ให้บริการข้อมูลข่าวสารผ่านwww.doh.go.th และรายงานสภาพจราจรแบบReal-Timeจากกล้อง cctv บนทางหลวงสายหลัก305ตัว
นอกจากนั้น ประชาชนยังสามารถตรวจสอบสภาพจราจรบนทางหลวงผ่านแอพพลิเคชั่นThailand Highway Traffic หรือตรวจสภาพจราจรบนทางหลวงพิเศษสาย 7 และ 9บนแอพพลิเคชั่น M Trafficได้เช่นกัน โดยจะมีการยกเว้นจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7ที่วิ่งระหว่างกรุงเทพ-ชลบุรี-พัทยา และ หมายเลข 9 ที่วิ่งวงแหวนฝั่งตะวันออกบางปะอิน-บางนา ตั้งแต่เวลา00.01ของวันที่ 11เมษายน - เวลา24.00น. ของวันที่18เมษายน
ส่วนจุดที่คาดว่าจะมีปัญหาการจราจรติดขัดหนาแน่นจำนวน43จุด เช่น ทางต่างระดับสีคิ้ว ทางต่างระดับนครราชสีมา ทางต่างระดับบางปะอิน กรมทางหลวงจะเปิดช่องทางจราจรพิเศษให้หากเริ่มเข้าสู่สภาพจราจรวิกฤต โดยจะแจ้งให้ทราบก่อน30นาที
รองอธิบดีกรมทางหลวง แนะนำให้เผื่อเวลาในการเดินทางประมาณ3-4ชั่วโมง และควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่ เช่น จากกรุงเทพมหานครไปภาคเหนือ ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางผ่านอยุธยา-อ่างทอง-สิงห์บุรี ควรใช้เส้นทาง3เส้นทาง คือ นนทบุรี -สุพรรณบุรี-ชัยนาทเข้านครสวรรค์ หรือนครปฐม-สุพรรณบุรี-ชัยนาทเข้านครสวรรค์ หรือ รังสิต-วังน้อย-สระบุรี-ลพบุรีเข้าพิษณุโลก และหากจากกรุงเทพมหานครจะไปเมืองพัทยา ควรเลี่ยงเส้นทางมอเตอร์เวย์ และให้วิ่งเส้นบางนาตราดและใช้เส้นทางหมายเลข3เข้าเมืองพัทยา
นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะหยุดการก่อสร้างจำนวน199โครงการบนเส้นทางกรมทางหลวง เพื่อคืนพื้นผิวจราจรให้กับประชาชนด้วย ซึ่งแม้จะหยุดการก่อสร้างแต่ยังรู้สึกห่วงใยเส้นทางโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 304 ควบคู่การก่อสร้างทางเชื่อมผืนป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่มีแบ่งการก่อสร้างเป็น 3 ตอน รวมระยะทางกว่า 19กิโลเมตร ได้แก่ โครงการสาย อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี– อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา (ทางเชื่อมผืนป่า) ,โครงการสาย อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี– อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมาตอน3(ส่วนที่1)และโครงการสาย อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี– อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมาตอน3(ส่วนที่2) จึงขอให้ประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางนี้เดินทางด้วยความระมัดระวังเพราะเส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว หากท่านใดสงสัยในเส้นทางการเดินทางสามารถโทรมาที่สายด่วนกรมทางหลวง1586 ได้ตลอด24ชั่วโมง