รองนายกฯประวิตรปัดหารือกัมพูชาคดีเขาพระวิหาร/อัยการนัดสั่งคดีลูกเครื่องดื่มชูกำลังพรุ่งนี้ /กรธ.ไม่หวั่นม๊อบกดดันร่างพรบ.ปิโตเลียม

29 มีนาคม 2560, 19:08น.


สรุปข่าว 19.35 น.



+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 12 ณ จังหวัดเสียมราฐ กัมพูชา ระหว่าง 29 – 30 มี.ค.60 ร่วมกับ พล.อ.เตียบันห์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กัมพูชา  พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การเดินทางไปในครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องเขาพระวิหาร ทั้งในและนอกรอบ ยืนยันความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาดีอยู่แล้ว ส่วนการดำเนินการตามมติของศาลโลกนั้นในการจัดวางกำลังในพื้นที่นั้น ยังไม่มีการพูดคุยกัน ซึ่งขณะนี้เราก็พูดคุยกับกัมพูชารู้เรื่องทุกอย่าง อย่างไรก็ตามการเดินทางไปดังกล่าวเป็นการประชุมตามวาระ  ส่วนกรณี นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายต้านคอรับชั่น ถูกประชาชนในพื้นที่ขอความร่วมมือให้ออกจากพื้นที่หลังเดินทางลงพื้นที่พิสูจน์ การตั้งบ่อนกาสิโน บริเวณจุดผ่ายแดนด่านช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ว่าเป็นเรื่องของนายวีระ ซึ่งความจริงแล้วก็ไม่มีอะไร ประชาชนในพื้นที่เขารู้อยู่แล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนกรณีที่มีรถสามล้อ พ่อค้าแม่ค้า ไปขอร้องนายวีระไม่ให้เข้าพื้นที่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เขาไม่อยากให้มีผลกระทบต่อการค้าขายกันในพื้นที่



+++ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แถลงกรณีการพาดพิงของนายกรัฐมนตรีต่อภาคประชาชน และเรื่องนายกรัฐมนตรีติดหลุมพรางกับดักของกลุ่มทุนพลังงาน โดยนายปานเทพ กล่าวว่า ตามที่นายกฯให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนพาดพิงกลุ่ม คปพ. กดดันตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ และเตรียมนำม็อบมาล้อมทำเนียบหรือรัฐสภานั้น พวกเราเห็นว่านายกฯกำลังไม่เข้าใจและเข้าใจผิดอยู่หลายเรื่อง ทั้งนี้ การตั้งบรรษัทน้ำมันไม่ใช่เพราะ คปพ. กดดัน แต่เกิดขึ้นจากรายผลการศึกษาของคณะกรรมมาธิการวิสามัญศึกษาการบังคับใช้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 ซึ่งเป็นรายงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า จำเป็นต้องตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ คปพ.ขอชี้แจงเหตุผลต่อนายกฯที่ประเทศไทยต้องมีบรรษัทน้ำมัน ว่า หน้าหน้าที่ของบรรษัทน้ำมัน คือ รับโอนทรัพย์สินจากทุกแหล่งที่หมดสัญญาสัมปทาน รับโอนระบบท่อก๊าซเพื่อหยุดการผูกขาด เกิดการแข่งขันอย่างแท้จริง และขายปิโตรเลียมตามสิทธิ์ที่รัฐได้จากระบบแบ่งปันผลผลิตและจ้างผลิต แต่การจะใช้ ปตท. ทำหน้าที่แทนบรรษัทนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นเอกชนและต่างชาติถือหุ้นเกือบครึ่ง หรือจะใช้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติก็ไม่คล่องตัว เพราะติดระเบียบราชการ แต่ไม่ใช่ให้ทหารเป็นหลัก ควรต้องมีองค์ประกอบที่หลากหลายเพื่อการถ่วงดุลอำนาจ ส่วนการตรวจสอบควรต้องมี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง) ผู้ตรวจการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และภาคประชาชน เข้ามาร่วมด้วย



+++พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์  โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียม (ฉบับที่…)พ.ศ.. และร่างพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่…)พ.ศ. …   กล่าวถึง ข่าวล็อบบี้และผลักดันให้ มีการจัดการบรรษัทน้ำมันแห่งชาติในร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.....ว่า  ม.ร.ว.ปรีดิยาธรอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งกรมพลังงานทหารขึ้นอยู่กับกระทรวงกลาโหม และพ.ร.บ.ผู้รักษาการคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ส่วนกระทรวงกลาโหมมีกรมพลังงานทหารมีขึ้นเพื่อเตรียมการเรื่องพลังงานไว้สำหรับงานป้องกันประเทศ ไม่ใช่ทำธุรกิจ และไม่กังวล ถึงการการชุมนุมของกลุ่มคัดค้านพรุ่งนี้เพราะถือว่า เป็นวิถีประชาธิปไตยจะให้คนทั้งประเทศเห็นตรงกันไม่มี ส่วนตัวมองการชุมนุมเรียกร้องอะไรต่างๆนั้นเป็นความงดงามในระบอบประชาธิปไตย บรรษัทน้ำมันแห่งชาติมีทหารชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้พิจารณาจะเป็นการมีส่วนได้ส่วนเสียในการตั้งครั้งนี้หรือไม่ พล.อ.อกนิษฐ์  ยืนยันว่ากมธ.ทั้ง 21 คนไม่มีใครมีผลประโยชน์ทับซ้อนในเรื่องนี้ ทุกคนทำด้วยความหวังดีของประเทศ และคนที่มาวิพากษ์วิจารณ์ก็หวังดี



+++ส่วน การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 เป็นประธาน พิจารณาวาระดำเนินการแถลงปิดคดีถอดถอนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กรณีออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯโดยมิชอบ ทั้งนี้ ในระหว่างการพิจารณาทันทีที่ ป.ป.ช.ในฐานะผู้กล่าวหาแถลงปิดคดีจบ นายสุรพงษ์ ได้ลุกขึ้น ร้องขอให้ตรวจสอบองค์ประชุมเพื่อสนช.แต่ได้ถูกสมาชิกสนช.ลุกขึ้นอภิปรายทักท้วงคัดค้านการทำหน้าที่ของนายสุรชัยที่ปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาขอมติให้นับองค์ประชุม และยังปล่อยให้พูดจากล่าวร้ายเสียดสี ทำให้ นายสุรชัย ต้องเชิญคู่กรณีทั้ง ป.ป.ช. และ นายสุรพงษ์ ออกจากห้องประชุม เพื่อหารือข้อประท้วงของสมาชิกสนช. อย่างเข้มข้นเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ที่สุด นายสุรชัย ยืนยันที่จะให้ลงมติ ที่ประชุมได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ 149 เสียง ไม่ให้บุคคลภายนอกเสนอให้มีการนับองค์ประชุม จากนั้นนายสุรชัยเชิญคู่กรณีกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยให้นายสุรพงษ์ แถลงปิดคดีต่อและปิดประชุมในเวลา 16.35 น. ก่อนที่จะนัดลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ในวันที่ 30 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 น. โดยจะเป็นการลงมติลับ



+++คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี แต่ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ โดยคาดจะเติบโตได้ร้อยละ 3.4 จากเดิมประเมินไว้ร้อยละ 3.2ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเร็วนั้น เป็นผลกระทบมาจากปัจจัยภายนอก เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า แต่ยืนยันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าใกล้เคียงกับเงินสกุลภูมิภาค สำหรับอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับขึ้นและค่อย ๆ ปรับเข้าสู่ค่ากลางของเป้าหมายที่ร้อยละ 2.5  และคาดเงินเฟ้อทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 1.2 ส่วนปีหน้าเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 1.9 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบร้อยละ 0.39



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,574.97 จุด ลดลง 1.75 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,901.85 ล้านบาท



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งสูงสุดในรอบ 16 ปี ปิดเพิ่มขึ้น 14.61 จุด ที่ 19,217.48 จุด



++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น  46.18 จุด ที่ 24,392.05 จุด



+++พันตำรวจโทอาชวิน บุญธรรมเจริญ รองผู้กำกับฝ่ายสอบสวน สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่าพรุ่งนี้( 30 มี.ค.)อัยการนัดฟังคำสั่งคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถยนต์หรูพุ่งชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 ซึ่งผู้ต้องหาจะมาฟังคำสั่งหรือมอบหมายทนายความมาแทนก็ได้ หากอัยการสั่งฟ้องแต่ผู้ต้องหาไม่มาและไม่สามารถตามตัวมาส่งฟ้องต่อศาลได้ อัยการก็จะเสนอศาลออกหมายจับตามข้อหาที่สั่งฟ้อง หรือถ้าอัยการสั่งฟ้องแล้วทหายความยืนยันสามารถตามตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องต่อศาลได้ อัยการก็จะนัดวันส่งฟ้องต่อศาล และหากอัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหาคดีถือว่าสิ้นสุด ข้อหาหลักที่แจ้งคือขับรถชนคนตายโดยประมาทและหลบหนี คดีอายุความ 10 ปี แต่ยอมรับว่ามีบางข้อหาที่จะหมดอายุความในปีนี้ กรณีสังคมโซเชียลสงสัยนายวรยุทธ ไม่มาพบตำรวจและอัยการโดยอ้างว่าป่วย แต่เดินทางไปเที่ยวรอบโลกได้ เมื่อคดีไม่สามารถสั่งได้ตามกำหนด ผู้ต้องหาจึงได้รับการปล่อยโดยปริยาย และไม่มีคำสั่งห้ามการเดินทางไปไหนมาไหน   อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า ได้ส่งทุกประเด็นที่อัยการสั่งให้สอบเพิ่มกลับไปให้อัยการประกอบการพิจารณาสั่งคดีแล้ว



+++คณะกรรมการรางวัลโนเบลของสวีเดนเปิดเผยว่า ในที่สุด บ็อบ ดีแลน นักร้องระดับตำนานของสหรัฐฯวัย 75 ปีตกลงจะเดินทางไปรับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดนในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ก่อนหน้านี้นายดีแลนได้รับการประกาศชื่อให้เป็นผู้คว้ารางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมประจำปี 2559เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน แต่เขาไม่ได้เดินทางไปรับรางวัล ทั้งไม่ได้ปราศรัยตอบรับในพิธีมอบรางวัลมูลค่า 8 ล้านโครนาสวีเดนเมื่อปีที่แล้ว รวมถึงจะมีการ จัดแสดงคอนเสิร์ต 2 ครั้ง เขาจะไม่ขึ้นปราศรัยในงานมอบรางวัลในครั้งนี้ แต่จะส่งคลิปวีดีโอเพื่อเปิดในพิธีมอบรางวัลแทน



+++เอเอฟพีรายงานอ้างเว็บไซต์บริษัทเดอะเวอร์เก สื่อออนไลน์ของสหรัฐฯผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีว่าบริษัทซัมซุง อิเล็คทรอนิคส์ของเกาหลีใต้ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลกจะแถลงเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดคือ กาแลคซี่เอส8ในนครนิวยอร์ค สหรัฐฯในวันนี้ หวังจะกอบกู้ภาพลักษณ์ของบริษัทฯที่เสียหายหลังต้องเรียกคืนสมาร์ทโฟนรุ่นกาแลคซี่โน้ต 7 ทั่วโลกเมื่อปีที่แล้วหลังมีรายงานว่ามีบางเครื่องเกิดปัญหาไฟไหม้แบตเตอร์รี่ โดยผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีสหรัฐฯกล่าวถึงสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ว่าจะเป็นบททดสอบศรัทธาของลูกค้าครั้งใหญ่ที่สุดของค่ายซัมซุงเท่าที่เคยมีมา เพิ่มเติมว่าซัมซุงจะต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าสมาร์ทโฟนกาแล็คซี่เอส8รุ่นใหม่นี้เชื่อถือได้และมีพัฒนาการทางเทคโนโลยีสูงขึ้น ภาพที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าสมาร์ทโฟนรุ่นกาแล็คซีเอส8 มีขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้ว มีขนาดตัวเครื่องคล้ายรุ่นเอส 7 คาดว่าจะเริ่มจัดจำหน่ายช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ ราคาอยู่ระหว่าง 31,000-34,500 บาท

ข่าวทั้งหมด

X