มีชัย เผยเลือกตั้งท้องถิ่นต้องรอร่างพ.ร.บ.ประกอบรธน./ดีเอสไอสอบโยงเป๊ปซี่กับโกตี๋/ศาล ตัดสินคดีน้องสโนว์

30 มีนาคม 2560, 08:23น.


+++ประเด็นเรื่องการจัดเลือกตั้งท้องถิ่น นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึง ความเหมาะสมในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นภายหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ว่า ร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ยังจัดไม่ได้ทันที เพราะต้องรอให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 ฉบับ คือ ร่างกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง และร่างกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสร็จสิ้นก่อน และยังจะต้องรอแก้ไขกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญที่ได้มีการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของเจ้าหน้าที่ ผู้บริหาร และสมาชิกสภาท้องถิ่นใหม่ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น



+++พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) กล่าวถึง คุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระ ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ ที่ทำให้ตัวเองเข้าข่ายพ้นจากตำแหน่งว่า ป.ป.ช. เสนอกฎหมายลูกให้กรธ.พิจารณา โดยมีเนื้อหาคุ้มครองให้กรรมการป.ป.ช.อยู่ในตำแหน่งต่อไป เป็นการทำตามหน้าที่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ กรธ. และสนช. จะพิจารณาว่าจะเห็นด้วยกับร่างกฎหมายลูกที่ป.ป.ช.เสนอหรือไม่ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ กำหนดคุณสมบัติกรรมการป.ป.ช. ต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา การพิจารณาคุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระก็ต้องขึ้นอยู่กับกรรมการสรรหา 



+++กรณีวิสามัญนายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า การดูคลิปถือเป็นหลักฐานในชั้นศาล และกำลังอยู่ในสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากต้องการดูภาพ อาจจะมีพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร ยื่นเรื่องขอจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อยู่ในดุลพินิจของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ในส่วนตัวไม่ได้กำชับอะไรไปกับผู้รับผิดชอบคดีนี้เพราะทำงานไปตามกฎหมายมีหลายคดีคล้ายๆ กันนี้



+++การดำเนินคดีเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ และการจับกุมนายหัดสะดี ทิพะสอน หรือเป๊ปซี่ ชาวลาว ได้ที่ในเขตเมือง จ.หนองคาย เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีความเชื่อมโยงกับนายวุฒิพงศ์ มีข้อมูลตรงกันในการติดต่อกับนายธีรชัย อุตรวิเชียร หรือระพิน 1 ใน 9 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ข้อมูลทั้งหมดเป็นความเกี่ยวข้องกันและจะขยายผลต่อไป พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบปากคำแล้ว หลังจากมีการตรวจสอบข้อความสนทนาในแอพพลิเคชั่นไลน์ พบการติดต่อของนายธีรชัยกับกลุ่มนี้มีการติดต่อกันจริง ยืนยันว่ามีข้อเท็จจริง ส่วนจะมีการส่งเครื่องเสียงและอาวุธกันจริงหรือไม่ ในการตรวจสอบก็จะต้องตรวจสอบต่อไป



 +++จากการตรวจสอบพบว่า นายหัดสะดี เป็นคนรับเครื่องเสียงที่นายธีระชัยส่งไปให้นายวุฒิพงศ์ที่ สปป.ลาว โดยมีข้อมูลการติดต่อผ่านไลน์ ที่นายวุฒิพงศ์ติดต่อกับนายธีรชัย ได้ส่งเบอร์โทรศัพท์คนชื่อเป๊ปซี่ให้นายธีระชัย มีทั้งภาษาไทยและภาษาลาว



+++ด้านนายหัดสะดี ยืนยันว่าไม่รู้จักและไม่เกี่ยวข้องกับนายโกตี๋  อยากขอความเป็นธรรม ถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี เข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแต่ทำงานผิดประเภท เนื่องจากก่อนหน้านี้ทำงานเป็นลูกจ้างปั๊มน้ำมัน ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวกับทางปั๊ม ต่อมาลาออกจากปั๊มน้ำมันมาทำงานกับโกดังส่งสินค้า โดยไม่ได้ไปแจ้งย้ายงานกับหน่วยงานรัฐ ทำให้มีความผิดตามกฎหมายแรงงาน และถูกดำเนินคดี เปรียบเทียบปรับไปเรียบร้อยแล้ว



+++พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านกิจการพิเศษ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.กศ.) ดูแลงานด้านจราจร เปิดเผยว่า หลังจากมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ 14/2560 ออกตามมาตรา 44 เรื่องมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก และกำหนดข้อหนึ่งว่าหากไม่ชำระค่าปรับจราจรตามใบสั่ง ไม่สามารถต่อภาษีรถได้ ปรากฏว่ามีประชาชนชำระค่าปรับจราจรมากขึ้น โดยเปรียบเทียบช่วงระหว่าง 1 สัปดาห์ ก่อนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 14/2560 บังคับในระหว่างวันที่ 14-20 มีนาคม มีผู้ชำระค่าปรับจราจรทั่วประเทศรวม 7,888 ราย ขณะที่หลังคำสั่งนี้ออกมา ระหว่างวันที่ 21-26 มีนาคม มีผู้ชำระค่าปรับจราจร ทั้งสิ้น 13,782 ราย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าประชาชนตื่นตัวและตอบรับคำสั่งนี้



+++เรื่องเศรษฐกิจ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ร้อยละ 1.50  เพื่อให้ภาวะการเงินโดยรวมอยู่ในระดับที่ผ่อนคลาย  และเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง  แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีการฟื้นตัวได้ดีกว่า คาดการณ์  แต่ยังมีความเป็นห่วงความเสี่ยงปัจจัย ต่างประเทศ พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพี ปีนี้เป็นร้อยละ 3.4 จากคาดการณ์เดิมร้อยละ 3.2 และยังปรับคาดการณ์ส่งออกว่าจะมีการเติบโตร้อยละ2.2



+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



+++ ดาวโจนส์ ลดลง 42.18 จุด  ปิดที่ 20,659.32 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.56 จุด ปิดที่ 2,361.13 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 22.41 จุด ปิดที่ 5,897.55 จุด



+++ด้านราคาทองคำ ขยับลง 2 วันติด จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากความเคลื่อนไหวเริ่มต้นกระบวนการถอนตัวจากสหภาพยุโรป(อียู)ของสหราชอาณาจักร ฉุดให้ยูโรอ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,253.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++คดียิงที่คุรุสภา บริเวณสนามหญ้า ภายในกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้น.ส.วาสนา บุระคร อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. ที่ถูกนายจำลอง พุ่มมาลัย พนักงานขับรถประจำคุรุสภา ยิงเสียชีวิตภายในกระทรวงศึกษาธิการเจ้าหน้าที่ กำลังแกะรอยไปในจุดที่คิดว่าคนร้ายจะเดินทางไป คาดว่า ในเร็วนี้จะได้



+++ส่วนประเด็นที่คนร้ายเอาเอกสารของน้องมาสมัครงาน ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. กล่าวว่า ฝ่ายบุคคลของ สกสค.ได้ทำการตรวจสอบว่านายจำลอง เป็นพนักงานขับรถของกรมการค้า สกสค.และได้ย้ายมาช่วยงานสมัยที่ สกสค.มีรถบัส 2-3 คน บังเอิญว่าผู้ก่อเหตุสามารถขับรถได้ เลยมาช่วยงาน กระทั่งปี 2557 ก็ได้โอนเป็นพนักงานของ สกสค. เมื่อตรวจสอบกลับไปที่กรมการค้า พบว่าผู้ก่อเหตุมาสมัครเป็นพนักงานขับรถยนต์ ตั้งแต่ปี 2537 เมื่อมีการตรวจสอบหลักฐานพบว่าเป็นการใช้เอกสารปลอม เอาเอกสารของน้องชาย คือนายจรัญ คูนา อายุ 44 ปี มาสมัครงาน เพราะฉะนั้นชื่อที่ใช้ในปัจจุบันจึงเป็นชื่อของน้องชาย ซึ่งขณะนี้ทราบว่าน้องชายบวชเป็นพระอยู่ที่บ้าน จ.สมุทรปราการ แล้วบังเอิญว่าหน้าตาของผู้ก่อเหตุกับน้องชายคล้ายกันมาก ส่วนสูงก็เท่าๆ กัน ทั้งนี้ทางเราไม่สามารถไปรื้อฟื้นกระบวนการรับสมัครได้เพราะผ่านมากว่า 20 ปี และเจ้าหน้าที่รับสมัครก็เกษียณไปแล้ว



+++ดร.พิษณุ แสดงความเสียใจกับบิดาที่เสียบุตรสาวไป ซึ่งเป็นกำลังหลักของครอบครัว แต่ในเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว  สกสค.มีสวัสดิการช่วยเหลืออยู่พอสมควร จำนวนเงินทั้งหมดหลังหักหนี้สินแล้วน่าจะได้ประมาณ 1,000,000 บาท



+++ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ นัดอ่านคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของน.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือน้องสโนว์ นักเรียนโรงเรียนประจำอำเภอร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ที่ถูกคนร้ายใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขืนจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2558 จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมตัวนายกฤติเดช ระเวงวรรณ อายุ 34 ปี ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุส่งดำเนินคดีข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและขอต่อสู้คดีในชั้นศาล



แฟ้มภาพ 

ข่าวทั้งหมด

X