ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในชิลีไม่กล้ากลับเข้าบ้านพัก จากอ๊าฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง

ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเมืองเอกิเก้ ของชิลีกว่า 500 คน ยังคงอาศัยหลับนอนอยู่ในเต็นท์กลางแจ้ง และไม่กล้ากลับเข้าบ้านพักซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวดังกล่าว เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตรายจากอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่มีรายงานเด็กทารกวัยแรกเกิดเสียชีวิต เพราะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ ด้านประธานาธิบดีมิเชลล์ บาเชเลต ผู้นำชิลีอนุมัติงบฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว และสั่งให้เฝ้าระวังด้านสุขภาพของผู้ประสบภัยเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมกำชับให้เร่งป้องกันการระบาดของโรค และมีรายงานด้วยว่า ประชาชนยังคงหวาดผวากับเหตุแผ่นดินไหว และแรงสั่นสะเทือนตามมา หรือ อาฟเตอร์ช็อก ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยชาวชิลีเกือบ 500 คนในเมืองอิกีเก้ ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดออกมาชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลจัดที่พักพิงชั่วคราว เนื่องจากไม่กล้ากลับเข้าไปนอนในบ้าน พร้อมให้เร่งซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานโดยเร็ว

ทั้งนี้ เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.2 ริคเตอร์เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้การปฏิบัติการกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังคงดำเนินต่อเนื่อง ล่าสุดเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไฟฟ้า น้ำประปา และบริการพื้นฐานอื่น ๆ ในพื้นที่ประสบภัยได้รับการซ่อมแซมจนสามารถใช้การได้อีกครั้งแล้ว และ คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 สัปดาห์