อย่ามโน! นายกฯย้ำ ปรับครม.คาดเสร็จเดือนธ.ค.

17 พฤศจิกายน 2560, 17:05น.


การปรับคณะรัฐมนตรี หลังมีกระแสข่าวว่าพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะถูกปรับย้ายเพื่อมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ทำงานดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน ส่วนกระแสที่มีการเลื่อยขาเก้าอี้ จากฝั่งตำรวจนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่มีและขอให้ฟังตัวเอง อย่าไปฟังกระแส เพราะเรื่องนี้ ฝั่งคณะรัฐมนตรีเป็นคนปรับ นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ตัวเองไม่จำเป็นต้องควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะขณะนี้ได้ทำงานทุกกระทรวงอยู่แล้ว เนื่องจากทุกนโยบาย ทุกวิสัยทัศน์ ต้องผ่านตัวเอง ซึ่งต้องฟังทุกความคิดเห็นทุกภาคส่วน พร้อมขอความเห็นใจ ทั้งนี้ที่ผ่านมาไม่ได้มีเก็บตัว แต่ระหว่างที่มีวาระงานที่ต่างประเทศ มีเอกสารที่ยังค้างที่จำเป็นต้องเร่งทำ และไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวให้สัมภาษณ์ทุกวัน พร้อมย้ำเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีขอให้จบแค่นี้ที่เป็นกระแสข่าวอยู่ไม่เป็นความจริง และขณะนี้การปรับคณะรัฐมนตรีอยู่ในขั้นตอนเสนอเพื่อโปรดเกล้าฯ และคาดว่าจะเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2560 ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด เพราะต้องการนำคนเข้ามาเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ไว้วางใจ และการปรับคณะรัฐมนตรีไม่ได้แปลว่าคนเก่าทำงานไม่ดี แต่คนไทยขี้เบื่อ จึงต้องมีการพูดคุยเพื่อปรับเปลี่ยน ขออย่ามองว่าคณะรัฐมนตรีชุดต่างๆ ที่ผ่านมาทำงานไม่ดี เพราะได้ทำงานร่วมกันมาตลอด เพียงแต่วันนี้ต้องปรับให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น



ส่วนประเด็นนักการเมืองนั้น ที่ผ่านมาตัวเองไม่ได้ติติงใคร รวมถึงเรื่อง 6 คำถาม ที่มีการโยงว่าเป็นสัญญาณที่จะลงเล่นการเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำถามที่ตั้งมาเพียงแค่ต้องการสื่อสารกับ ประชาชนโดยตรง และไม่จำเป็นต้องไปเกณฑ์ใครมาตอบคำถาม ซึ่งหากพบจะต้องถูกลงโทษ รวมถึงไม่ต้องการผลสำรวจที่เป็นการจัดทำขึ้นโดยภาคประชาชนไม่ใช่รัฐบาล ยืนยันว่า คนที่เคยตอบคำถามแล้ว สามารถมาตอบซ้ำอีกได้ และต่อไปต้องมีขยายช่องทางในการตอบให้มากขึ้น พร้อมขอประชาชนอย่าเชื่อการบิดเบือน เรื่องนำสำเนาบัตรประชาชนไปใช้ประโยชน์ในทางอื่น เพราะต้องมีการเซ็นเอกสารรับรองสำเนาถูกต้องอยู่แล้ว



ส่วนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งรายชื่อรัฐมนตรีบางท่านให้นายกรัฐมนตรีชี้ขาดกรณี ถือหุ้นบริษัทเอกชนและการลงทุนทำธุรกิจเกินร้อยละ 5 และว่า อาจเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม หากสอบสวนพบ ก็ต้องให้ออกจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องว่ากันไปตามหลักฐาน  โดยภายหลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเสร็จสิ้น ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ได้กล่าวว่า ตัวเองนั้นเหนื่อยแล้ว ขออย่ามโนแม้จะมีการแต่งตั้งใครมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี หากไม่มีการปรับตัวก็ไร้ค่า และก็เหลือแค่จะตั้งเทวดาแล้ว

ข่าวทั้งหมด

X