ยอดอุบัติเหตุจราจรของประเทศไทย น.ส.โศภิต นาสืบ นักวิชาการสำนักวิจัยนโยบายสร้างเสริมสุขภาพหรือสวน. เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรเป็นที่ 4 ของโลก เพราะมีผู้เสียชีวิตปีละ 26,312 คน เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีประชากรใกล้เคียงกัน เช่น สหราชอาณาจักร พบว่า คนอังกฤษตายบนถนนทั้งปีรวมกัน น้อยกว่าคนไทยตายในช่วง 24 วัน และเป็นที่รู้กันว่าเทศกาลวันหยุดยาว คือ เวลาแห่งการฆาตกรรมหมู่ของคนไทยที่มีการดื่มสุรา เป็นสาเหตุอันดับ 1 ของความสูญเสีย
จากการศึกษาปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรของสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ปี 2556 ร้อยละ 70.9 ตรวจพบปริมาณแอกอฮอล์ในเลือด โดยร้อยละ 60.1 มีระดับแอลกอฮอล์เกินระดับที่กฎหมายกำหนด หรือเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
โดยกลุ่มที่ดื่มมีค่าเฉลี่ยระดับแอลกอฮอล์ในเลือดขณะเสียชีวิตสูงถึง 189 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือสูงเกือบ 4 เท่าของที่กฎหมายกำหนด และพบว่าสัดส่วนผู้เสียชีวิตที่ดื่มสุราก่อน และปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงใกล้เคียงกันไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คนเดินถนน และลักษณะยานพาหนะ ทั้งรถจักรยาน จักรยานยนต์ และรถยนต์ ที่น่าเป็นห่วงคือ เยาวชนที่อายุน้อยกว่า 20 ปี เสียชีวิต ร้อยละ 56 ก็ดื่มสุราก่อนเสียชีวิต และมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเฉลี่ยถึง 139 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ทั้งที่ตามกฎหมายกลุ่มนี้ยังไม่ควรหาซื้อสุรามาดื่ม
ด้าน นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการ สวน. กล่าวว่า รัฐบาลควรจริงจังมากกว่าการรณรงค์เป็นครั้งคราว โดยให้แต่ละจังหวัดตั้งเป้าจำนวนการตรวจแอลกอฮอล์ อีกทั้งสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย เช่น อำนาจในการเรียกให้ตรวจ อำนาจในการยึดรถ ยึดใบอนุญาต การเรียกค่าปรับ และการนำคดีขึ้นสู่กระบวนการอย่างรวดเร็ว