+++ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้แจ้งเตือนประชาชน ให้ช่วยกันสอดส่องรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมไปก่อนหน้านี้จำนวน 8 คัน เชื่อคนร้ายจะนำมาก่อเหตุในพื้นที่ จ.ยะลา ด้านหน่วยข่าวด้านความมั่นคง ระบุเหตุวางระเบิด 4 จุดในตัวเมืองยะลาเมื่อวานนี้ น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่มาจากหลายพื้นที่ โดยเฉพาพื้นที่บ้านโสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งมีพื้นที่ใกล้กับที่เกิดเหตุมากที่สุด ส่วนเหตุ คนร้ายสร้างสถานการณ์ในพื้นที่เขตเมืองยะลา โดยคนร้ายได้ลอบวางระเบิดภายในร้านเซ่เว่นฯ ลอบวางเพลิงโกดังศรีสมัย และลอบวางระเบิดภายในศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดยะลานั้น
+++พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว และในพื้นที่เมืองยะลาก็ไม่ได้เกิดเหตุในทำนองนี้มาแล้ว 2 ปี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีการทบทวนถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยให้ดีกว่านี้ และต้องปฏิบัติการในด้านเชิงรุกให้มากขึ้น ส่วนกลุ่มคนร้ายคาดว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุเมื่อวานนี้ 4 จุด ซึ่งก็เป็นกลุ่มที่ยังคงเหลืออยู่ในพื้นที่ไม่มากนัก ซึ่งคนร้ายยังคงมีความมุ่งหวังที่จะทำร้ายคนไทยพุทธในพื้นที่และเศรษฐกิจในพื้นที่ที่มีคนไทยพุทธ หรือคนจีนที่ประกอบการอยู่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามโดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอยู่ คาดว่าในไม่ช้าคงจะทราบและออกหมายจับต่อไป
+++สำนักข่าวอิศรา รายงาน หลังกลุ่ม นปช.เปรียบเทียบคดีการโยกย้ายตำแหน่งนายถวิล เปลี่ยนศรี กับ การโยกย้าย พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา ในสมัยของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดี นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ในขณะนี้ ไม่มีประเด็นว่าการที่นายอภิสิทธิ์ ย้าย พล.ท.สุรพล ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งมันคนละประเด็นกัน เพราะนายอภิสิทธิ์ย้ายออกมาเพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีเรื่องการเอาญาติขึ้นมาทำงาน สิ่งที่บ่งชี้คือ รัฐบาลอภิสิทธิ์เข้ามาทำงานเกือบ 1 ปี ถึงย้าย พล.ท.สุรพล ออก แต่ตอนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ย้ายผม ผมคิดว่านายกฯ ยังหาห้องน้ำในตึกไทยไม่เจอเลย ยังไม่ทันรู้เลยว่าผมทำงานได้หรือไม่ มาย้ายผมแล้ว จึงเป็นที่มาที่ผมต้องไปร้อง นายถวิล ยอมรับว่า รู้สึกแปลกๆ ที่นายกรัฐมนตรี อาจจะต้องสิ้นภาพในประเด็นการโยกย้ายตัวเอง เท่ากับว่ามาเสียท่ากับเรื่องเล็ก เรื่องที่ไม่คาดฝันมาก่อน และนายกฯ อาจจะตายน้ำตื้นเพราะ ไปพลาดท่าในสิ่งที่ไม่ควรพลาดท่า
+++หลังกลุ่มกรีนได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ได้ถือโอกาสแถลงชี้แจงกรณีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ผ่านการถ่ายทอดสดของ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ซึ่งเป็นสื่อของรัฐ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งนายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกรุ่มกรีน เปิดเผย ล่าสุด กกต.ได้ติดต่อมายังตน และนายประกิต จันทร์สมวงศ์ ทนายกลุ่มกรีน ในฐานะผู้ร้อง เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ โดย กลุ่มกรีนได้เตรียมหลักฐานเพิ่มเติม เป็นหนังสือสั่งการของ นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง ให้เผยแพร่คำแถลงของนายกรักษาการ และยังเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ถือเป็นคดีอาญาร้ายแรง จึงเชื่อได้ว่าอธิบดีกรมการปกครองได้รับคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม ให้ใช้กลไกของรัฐผ่านกระทรวงมหาดไทย เพื่อช่วยเหลือให้เป็นคุณต่อพรรคเพื่อไทยให้มีคะแนนนิยมในการเลือกตั้งในขณะนั้น
+++ตำรวจเตรียมปรับแผนรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายให้เข้มข้นขึ้นในวันตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้อำนวยการ ศอ.รส. ระบุว่า เหตุยิงชุดทหารหาข่าว เมื่อคืนวันเสาร์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย บริเวณ ถ.ราชดำเนิน ตรวจพบวิถีกระสุนมาจากแนวบังเกอร์ของกลุ่ม คปท. หากมีหลักฐานจำเป็นต้องเข้าตรวจค้นในพื้นที่ เบื้องต้นพบเป็นกระสุนปืนชนิด 9 มม. ส่วนการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. และ กปปส. ในวันตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ตำรวจเตรียมใช้แผนรักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติเดิม และจะมีความเข้มข้น รัดกุมมากขึ้น เพราะเชื่อว่าจำนวนมวลชนจะมีมากกว่าที่เคยชุมนุม และมีความเสี่ยงจะเกิดเหตุรุนแรง อาจขอความร่วมมือทหารเข้าตรวจสอบอาวุธของกลุ่ม กปปส. หลังจากก่อนหน้านี้ไม่ให้ตำรวจเข้าดำเนินการ
+++นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย หรือ ทอท. กล่าวว่า ได้สั่งพักงาน และสอบสวน พนักงาน ทอท.ที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และพนักงานเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ กรณี มีบุคคลละเมิดมาตรการรักษาความปลอดภัย ขึ้นเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ DD 7105 เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ส่วนตัวบุคคลนั้น ทอท.ได้ส่งนายอาซิส ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนในเชิงลึกแล้ว เบื้องต้น ญาตินายอาซิสให้นำใบรับรองแพทย์มายืนยัน ว่ามีอาการทางจิต หลังเกิดเหตุ ทอท.ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยหลายเรื่อง สำหรับมาตรการที่ยกระดับ เช่น เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรโดยสารและบัตรประชาชน ณ จุดตรวจค้น สำหรับผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ให้หัวหน้าชุดตรวจค้นเข้มงวดกับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ในห้อง CCTV สังเกตการณ์ทุกจุดในสนามบิน รวมทั้งรายงานสถานการณ์ให้ศูนย์รักษาความปลอดภัยทราบทุก 30 นาที
ต่างประเทศ
+++ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้ระบุในรายงานเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกฉบับปรับปรุง ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเอเชียตะวันออกปีนี้ จะขยายตัวในอัตราเดียวกับปีก่อน 7.1% ซึ่งไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้วนัก ทำให้จีดีพีภูมิภาคนี้ขยายตัวมากที่สุดในโลก แต่ถือว่าขยายตัวลดลงเมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ย 8% ระหว่างปี 2552-2555 ส่วนเศรษฐกิจของไทยจะขยายตัว 3% ในปีนี้ ซึ่งลดลงราว 1.5% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากรับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน ขณะที่ประเทศในอาเซียน โตเฉลี่ย 4.8% โดยประเทศที่เศรษฐกิจน่าจะโตมากที่สุด คือ ประเทศเมียนมาร์ ที่ 7.8% ซึ่งถ้าการเมืองไทยคลี่คลายได้ มีรัฐบาลที่มั่นคง จัดการปัญหาเงินจำนำข้าวที่ยังค้างชาวนาอยู่ ซึ่งคิดเป็น 1% ของ จีดีพี และเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาได้ ก็คาดว่าเศรษฐกิจสามารถเติบโตมากกว่านี้ นอกจากนี้ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3% ในปีนี้ และขยายตัว 3.3% ในปีหน้า เพราะได้แรงหนุนจากกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งคาดว่าประเทศกลุ่มนี้จะขยายตัว 2.1% ในปีนี้ และ 2.4% ในปี
+++หลังเกิดเหตุประท้วงตามท้
หุ้นไทย+ต่างประเทศ
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดลดลง 254.92 จุด ปิดที่ 14,808.85 จุด หลังจากสกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ะยะเวลา 2 วันซึ่งเริ่มขึ้นในวันนี้ โดยคาดว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของบีโอเจจะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืด และคาดว่าที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับผลกระทบของการปรับขึ้นภาษีการขยายซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.
+++ดัชนีฮั่งเส็งฮ่องกง ปิดตลาดลดลง 132.93 จุด แตะที่ 22,377.15 จุดในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงเมื่อวันศุกร์ หลังจากมีรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาค ปรับตัวเพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่ง ในเดือนมี.ค. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 200,000 ตำแหน่ง ส่วน อัตราว่างงานเดือนมี.ค.ทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.7