*ทันสถานการณ์โลก 06.30น.*

+++สมาชิกรัฐสภาของยูเครน เปิดฉากตะลุมบอนกลางห้องประชุมในวันอังคาร(8) หลังจากแกนนำคอมมิวนิสต์คนกล่าวหาพวกชาตินิยมตกหลุมพรางของรัสเซีย ด้วยการใช้กลยุทธ์รุนแรงตั้งแต่ต้น จนนำมาซึ่งวิกฤตของประเทศในเวลานี้  ส.ส.2คนจากสโวโบดา พรรคชาตินิยมขวาจัด ลุกขึ้นคัดค้านคำกล่าวหาของนายเปโตร ซีโมเนนโก สมาชิกพรรคฝ่ายค้าน และวิ่งเข้าไปผลักนายซีโมเนนโก ระหว่างที่เขากำลังพูดอยู่ตรงแท่นอภิปราย

+++ขณะที่เหล่าผู้สนับสนุนของนายซีโมเนนโก ก็รุดเข้าไปปกป้องเขา และจากนั้นศึกตะลุมบอนก็เปิดฉากขึ้น โดยมีสมาชิกรัฐสภาจากพรรคอื่นๆเข้าร่วมด้วย จนชุลมุนวุ่นวายไปหมดเหตุฟาดปากกันกลางรัฐสภาครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก ยูเครนดำเนินปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายกับพวกแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียซึ่งบุกยึดอาคารราชการในหลายเมืองทางตะวันออกของประเทศ และตำรวจสามารถจับกุมเหล่าผู้ประท้วงฝักใฝ่รัสเซียในคาร์คิฟได้กว่า 70 คน และกำลังเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมในอีก 2 เมือง ซึ่งบุกยึดอาคารราชการแบบเดียวกัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยูเครนให้รายละเอียดของปฏิบัติการเคลียร์อาคารราชการในคาร์คิฟแค่เล็กน้อย โดยเพียงแต่บอกว่ามีตำรวจ 2 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด

ก่อนหน้านี้ นายอันเดอร์ส โฟจ์ ราสมุสเซน เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เตือนรัสเซียอย่าแทรกแซงยูเครนมากกว่าเดิม และขอให้ถอนตัวกลับไปหลังจากกลุ่มนิยมรัสเซียได้บุกยึดอาคารรัฐบาลในหลายเมืองทางตะวันออกของยูเครน  นายราสมุสเซน กล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการสัมมนาเรื่องการปฏิรูปนาโตที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสว่า การที่รัสเซียรุกรานยูเครนอย่างผิดกฎหมายถือเป็นความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดต่อความมั่นคงของยุโรปในยุคนี้ ขอให้รัสเซียถอนตัวกลับไปและไม่ทำให้สถานการณ์ทางตะวันออกของยูเครนเลวร้ายลง หากรัสเซียยังคงจะแทรกแซงยูเครนต่อไปจะกลายเป็นความผิดพลาดครั้งประวัติศาสตร์ จะส่งผลร้ายแรงต่อความสัมพันธ์กับนาโต และจะยิ่งทำให้รัสเซียถูกนานาชาติโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น   นอกจากนั้น   นาโตกำลังพิจารณาเรื่องปรับปรุงแผนการด้านกลาโหมเพื่อรับมือกับวิกฤตยูเครน และเพิ่มความร่วมมือด้านกลาโหมร่วมกันให้แข็งแกร่งขึ้น แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด

เกิดเหตุโจมตี ขบวนรถไฟโดยสารสายด่วน "จาฟฟาร์ เอ็กซ์เพรส" ของปากีสถาน ออกเดินทางจากเมืองเกตตา เมืองเอกจังหวัดบาลูชิสถาน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ มุ่งหน้าสู่เมืองราวัลปินดี ติดเมืองหลวงกรุงอิสลามาบัด แรงระเบิดทำให้ตู้ขบวนโดยสารเกิดเพลิงไหม้เสียหายยับ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ศพ บาดเจ็บประมาณ 50 คนเหตุเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังจากกองกำลังความมั่นคงปากีสถาน บุกโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน ในจังหวัดบาลูชิสถาน ที่อุดมไปด้วยน้ำมัน สังหารนักรบกบฏ 30 ศพ ในการปะทะครั้งใหญ่สุดในรอบหลายเดือน

ในวันนี้ อินโดนีเซียจะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ โดยจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนเขต (ดีพีดี) 132 ที่นั่ง สมาชิกสภาผู้แทนประชาชน (ดีพีอาร์) 560 ที่นั่ง นอกจากนั้นยังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด และสมาชิกสภาเทศบาล ทั่วประเทศด้วย การเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองต่างๆ ส่งสมาชิกลงแข่งขันรับเลือกตั้งรวม 12 พรรค  การเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นก่อนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้งผู้นำประเทศครั้งที่ 3 ที่ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งได้โดยตรง ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยูโดโฮโน ผู้นำคนปัจจุบัน ไม่สามารถลงรับสมัครแข่งขันได้อีก เนื่องจากดำรงตำแหน่งมา 2 สมัยติดต่อกัน กฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติห้ามลงแข่งสมัยที่ 3 ประธานาธิบดีอินโดนีเซียมีวาระดำรงตำแหน่งสมัยละ 5 ปี

นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) งดออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ และว่าการขึ้นภาษีขายครั้งแรกในรอบ 17 ปีจะไม่กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ  นายคุโรดะ กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุม 2 วันในวันนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเดินหน้า การขึ้นภาษีขายจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 8 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนจะมีผลเพียงชั่วคราวเท่านั้น บีโอเจเชื่อว่าวงจรเชิงบวกของเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะไม่หยุดชะงักและเศรษฐกิจจะฟื้นตัวปานกลางต่อไปเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเงินเฟ้อที่ร้อยละ 2 จึงยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมในขณะนี้ อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่าบีโอเจจะไม่ลังเลเรื่องการขยายมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อภายในปีหน้า ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในการหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดมาหลายปี

ด้านแคปิตอล อีโคโนมิกส์ เชื่อว่าเงินเฟ้อญี่ปุ่นจะไม่ถึงร้อยละ 2 ตามเป้าหมายของบีโอเจ ซึ่งจะทำให้ต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในที่สุด แต่บีโอเจอาจรอจนถึงครึ่งหลังของปีนี้ โดยอาจรอจนถึงเดือนตุลาคม

ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(8) ขยับขึ้นเป็นครั้งแรก หลังปิดลบมา 3 วันติด จากปัจจัยหนุนของกลุ่มสื่อสังคมออนไลน์และอินเตอร์เน็ต ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 10.27 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,256.14 จุด

+++ราคาน้ำมันพุ่งแรงวานนี้(8) จากความตึงเครียดรอบใหม่ในยูเครน หลังฝ่ายฝักใฝ่รัสเซียบุกยึดอาคารราชการในเมืองโดเนตส์ค สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ปัจจัยความตึงเครียดระหว่างพันธมิตรตะวันตกและรัสเซียต่อวิกฤตยูเครน ผลักให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และเมื่อประกอบกับดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างแรง ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้(8) ปิดบวกพอสมควร โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,309.10 ดอลาร์ต่อออนซ์

+++ครบรอบ 30 วัน ที่เครื่องบินโบอิ้ง 777-200อีอาร์ ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส หายไปอย่างไร้ร่องรอย โดย พลอากาศเอกแองกัส ฮุสตัน หัวหน้าศูนย์ประสานงานร่วมค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ที่เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย กล่าวถึงภารกิจค้นหาเครื่องบิน ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ในวันนี้ว่า กำลังอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติ เนื่องจากแบตเตอร่ี่ของกล่องดำกำลังใกล้จะหมดเต็มที หรือบางทีแบตเตอรี่ อาจหมดไปก่อนหน้านี้แล้วก็เป็นได้

สำหรับปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินของมาเลเซียแอร์ไลน์ส ในวันที่ 8 เม.ย. ยังคงค้นหากล่องดำและเศษซากเครื่องบินใต้ท้องมหาสมุทรอินเดีย มากกว่าการค้นหาบนผิวน้ำ ขณะที่ความคืบหน้าของการติดตามสัญญาณใต้น้ำที่เรือโอเชียน ชิลด์ ของออสเตรเลียตรวจจับได้ 2 ครั้ง และดูเหมือนเป็นสัญญาณจากกล่องดำ ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่ดีที่สุดเท่าที่เคยได้มาก่อให้จนเกิดความหวังว่าอาจนำไปสู่การพบซากเครื่องบินนั้น แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า

+++โรงพยาบาลรัฐหลักในเมืองเจดดาห์ ของซาอุดีอาระเบียต้องปิดห้องฉุกเฉิน หลังพบบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) เพิ่มมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขแถลงในวันอังคาร(8) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดต่อคล้ายซาร์สในประเทศแห่งนี้เพิ่มเป็น 66 รายแล้ว เมื่อ วันจันทร์(7) กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียระบุว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในเจดดาห์เพิ่มเติมอีก 4 ราย โดย 2 ในนั้นเป็นบุคลากรสาธารณสุข กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล โดยคนไข้ถูกโอนย้ายไปยังโรงพยาบาลอื่นๆระหว่างที่ดำเนินการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ 24 ชั่วโมง