+++วันนี้เป็นวันแรกที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเรียกสอบพยาน 3 ปากของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้าชี้แจงในคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว ซึ่งกำหนดไว้ระหว่างวันที่ 9-11 เม.ย.นี้ ป.ป.ช.แจ้งว่า นายยรรยง พวงราช ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งจดหมายตอบกลับมาที่สำนักงาน ป.ป.ช.แจ้งว่าจะมาเป็นพยานในวันที่ 9 เมษายน เวลา 13.30 น. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่าจะมาเป็นพยานในวันที่ 10 เมษายน เวลา 13.30 น. สำหรับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จากนัดหมายในวันที่ 11 เมษายนนั้น ได้ส่งหนังสือกลับมาว่าขอเลื่อนเป็นวันที่ 18 เมษายน เนื่องจากติดภารกิจร่วมประชุมธนาคารโลก ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(กวป.)จึงนัดมวลชนใส่เสื้อสีขาวร่วมทำพิธีไสยศาสตร์ขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกจาก ป.ป.ช.ในวันนี้ ตั้งแต่เวลา09.00 น. และปักหลักชุมนุมไปจนถึงวันที่ 11 เม.ย.
+++ขณะที่ ในโซเชียล เน็ตเวิร์ค มีการเผยแพร่คลิปของนายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ เรดการ์ด แกนนำเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี ซึ่งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศ ที่อ้างชื่อว่า “VICE NEWS” โดยในคลิปดังกล่าวมีการพูดถึงการต่อสู้กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ซึ่งช่วงหนึ่งมีการจาบจ้วง,หมิ่น และโจมตีสถาบันเบื้องสูงอย่างชัดเจน เริ่มจากนาทีที่ 14.38 ไปจนถึงนาทีที่ 16.33 "สกู๊ปข่าว" ชิ้นนี้ถูกนำมาเผยแพร่ทาง "ยูทูป" เมื่อวันที่ 7 เม.ย.
+++ส่วนเมื่อวานนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ให้นายเดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา ฝ่ายกิจการเอเซียแปซิฟิค นางคริสตี้ เคนนี่ เอกอัคราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย พร้อมคณะ
+++ต่อมานายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ เผยว่าทางนายเดเนียน รัสเซล ได้นำหนังสือ ของนายจอนห์ เคอร์รี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นหนังสือที่ทำในนามรัฐบาลสหรัฐฯ มายื่นให้กับนส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การเมืองของไทย และ ไม่ต้องการให้มีการยึดอำนาจ หรือ ปฏิวัติรัฐประหาร โดยขอให้เร่งเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
+++นายสุรพงษ์ ยังได้พร้อมโจมตีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ที่ออกมาประกาศจัดตั้งรัฎฐาธิปัตย์ หลังนส.ยิ่งลักษณ์ พ้นเก้าอี้หมดสภาพความเป็นนายกฯว่า มีความชัดเจนว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งการยอมรับของนายสุเทพ ว่าจะยึดอำนาจและตั้งนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และ สภาประชาชนด้วยตนเอง ถือว่าเป็นกบฎ เพราะนายสุเทพต้องการเป็นใหญ่ถือเป็นวิธีการของเผด็จการ โดยได้แปลความหมาย รัฎฐาธิปัตย์ของนายสุเทพให้ฑูตทุกประเทศแล้ว”
++++ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะ รองประธานกอ.รมน.ควรจะมีจุดยืนของตัวเอง เพราะผบ.ทบ.ก็รู้ว่าควรจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไร การดูแลฝ่ายความมั่นคงนั้นต้องปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน คงไม่ต้องถามผบ.ทบ. คิดว่าผบ.ทบ.คงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว
+++ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.กล่าวว่า รับคำท้าวัดมวลชน ถ้าแพ้จะกราบเท้า นายสุเทพ ถ้านายสุเทพ แพ้ให้มากราบเท้าคนเสื้อแดงเท้าไหนก็ได้ ผมเสนอ ถ.อักษะ ขึ้นมาบรมราชชนนี มาสนามหลวง ใช้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นจุดแบ่ง ส่วน นายสุเทพ จะเอาสวนลุมพินี หรือที่ไหนก็ได้จะได้หลีกกัน ถ้า นายสุเทพ แพ้แล้วไม่ยอม ประเทศไทยก็มีหมาเพิ่มเท่านั้น
+++ด้านศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.)นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ได้ติดตามเรื่องนี้มานานแล้ว มองว่า นายสุเทพและแกนนำ กปปส.มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 และยังเป็นความผิดต่อเนื่องเพราะนายสุเทพ และแกนนำ กปปส.มีความผิดฐานกบฏอยู่แล้ว
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ ประกาศตั้งรัฏฐาธิปัตย์ว่า กรณีนี้เป็นภาษากฏหมายที่ยังถกเถียงกันอยู่ ก็เหมือนกับกรณีคนเสื้อเดงไปประกาศแบ่งแยกประเทศ ซึ่งนปชป.ก็อ้างว่าเป็นวาทะกรรมเพราะความน้อยเนื้อต่ำใจ แต่พอมีการดำเนินการต่อเนื่องถึงขึ้นติดป้ายแบ่งแยกดินแดนทางกองทัพก็ต้องไปแจ้งความดำเนินคดีในฐานะดูแลด้านความมั่นคง “เรื่องการตั้งรัฎฐาธิปัตย์นั้น ทราบว่าทาง ศอ.รส. ก็จะดำเนินการเอาผิดเช่นกัน เพียงแต่ว่าในขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความใดๆ แต่คำพูดดังกล่าวถือว่ายังก่ำกึ่งระหว่างการแสดงออกทางการเมืองกับเข้าข่ายข้อหากบฏ ก็มองได้หลายมุม แต่ก็ต้องยึดความเห็นของศอ.รส.เป็นหลัก
+++ส่วนวันนี้ พระพุทธะอิสระ จะนำมวลชน กปปส.และชาวนาเคลื่อนขบวนออกไปปฏิบัติภารกิจรวบรวมรายชื่อจนกว่าจะครบ2 ล้านรายชื่อเพื่อเสนอกฎหมายขับไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมทั้งจะไปทวงเงินจำนำข้าว แต่ไม่ขอเปิดเผยสถานที่
+++คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ว.อย่างเป็นทางการให้กับบุคคลที่ได้รับคะแนนสูงสุดและไม่มีเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง จำนวน 58 จังหวัด ส่วนอีก 19 จังหวัดรวมถึงกรุงเทพมหานคร คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ยังไม่รับรอง ดดยจะมีการประชุมอีกครั้งใน 29 เมษายนนี้ โดยผู้ที่ได้รับการประกาศรับรองสามารถเดินทางมารับหนังสือรับรองผลการเลือกตั้งที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
+++ส่วนการขอเปิดประชุมวิสามัญวุฒิสภาที่มีเสียงโต้แย้งว่าเป็นอำนาจของประธานรัฐสภาตามมาตรา 273 ไม่ใช่นายกฯเป็นผู้สนองพระบรมราชโองการนั้น เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นข้อกฎหมาย คงต้องอธิบายเหตุผลและที่เคยปฏิบัติ โดยขณะนี้กำลังทำเรื่องชี้แจงไป เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะเคยมีแนวปฏิบัติมาแล้ว สำหรับกรณีที่ กกต.ประกาศรับรอง ส.ว.ใหม่ได้เพียง 58 คนนั้นถือว่าไม่ครบจำนวนร้อยละ 95 ดังนั้น การประชุมวุฒิสภาที่กำหนดไว้ในวันที่ 18 เมษายนนี้ คงต้องใช้ ส.ว.เลือกตั้งชุดเก่าไปก่อน
+++ นางสดศรี สัตยธรรม อดีต กกต. เปิดเผยว่า กรณีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ว่าที่ ส.ว.กทม. ถูกร้องเรียนว่านายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ไปขึ้นเวทีชุมนุมปราศรัยให้ผู้ชุมนุมลงคะแนนเลือกตั้งให้นั้น มองว่าต้องดูเจตนาและข้อเท็จจริงรวมทั้งเนื้อหาของข้อความว่าเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ส.ว.หรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นการขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อขอให้ผู้ชุมนุมลงคะแนนให้ก็อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 53 (5) ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใด หลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด
+++นอกจากนั้น ที่ประชุม กกต.ยังได้มีมติเห็นชอบตามมติ ครม.ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ กลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยขอให้ยกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 ที่มีการสั่งย้ายดังกล่าว ด้วยความไม่ชอบธรรม ตามที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้คืนตำแหน่งโดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 และให้ได้รับค่าตอบแทนตามเดิม และเห็นชอบให้ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯสมช.กลับไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้วย
+++พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 แถลง จับกุม ชาวโรมาเนีย 2 คน เป็นการจับกุมของฝ่ายปราบปรามสน.ลุมพินี ขณะตั้งด่าน ที่ถ.ดวงพิทักษ์ แถวโรงงานยาสูบ พบบัตรอีเลคทรอนิคที่ท ปลอมขึ้น795 ใบ และมีจำนวน 361 ใบ บันทึกข้อมูลลงแถบแม่เหล็กแล้ว เป็นข้อมูลจากประเทศอิตาลี พร้อมนำไปกดที่ตู้ATMได้เลย /ซึ่งทางผู้เชี่วยชาญ ของธนาคารฯ ได้ทำการปริ้นข้อมูลออกจากบัตรของกลาง ได้หมายเลขบัตร ส่วน ใหญ่เป็นของธนาคารต่างชาติทั้งหมด ส่วนอีก 434 ใบ ยังไม่ได้บันทึกข้อมูล ผู้ต้องหาได้สกิมเมอร์ที่ต่างประเทศและไรเตอร์ที่เมืองไทย และนำไปใช้ได้เลย พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา จึงถึงวันนี้ (8 เม.ย.) มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น แล้ว 38 ราย มูลค่าความเสียหาย รวมกว่า 580,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายทุกคนต่างให้การตรงกันว่า นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินบริเวณตลาดโกลด์มาร์เก็ต ย่านประชานิเวศน์ 1 ขณะเดียวกันฝ่ายสืบสวนยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหายที่ทำการตรวจสอบกับทางธนาคาร โดยพบว่าเงินถูกกดออกไปจากธนาคารในประเทศญี่ปุ่นด้วย