รถแท็กซี่หมดอายุ ต่อรองขนส่ง ขอจ่ายค่าปรับครึ่งราคา ที่บีทีเอส หมอชิต

26 เมษายน 2561, 18:19น.


การลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธารณะ บริเวณสถานีบีทีเอส หมอชิต ในช่วงเย็นวันนี้ของกรมการขนส่งทางบก นายสมยศ แดงรุ่งเรือง เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน หัวหน้าชุด 12 กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จะดูรถโดยสารสาธารณะทั้งหมด แต่จะเน้นหนักไปที่รถแท็กซี่ที่หมดอายุและนำมาวิ่ง ซึ่งวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่หนึ่งคนไปยืนสังเกตการณ์รถแท็กซี่ที่หมดอายุก่อน เมื่อพบจะแจ้งวิทยุมาให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านหลังตรวจเรียก โดยรถแท็กซี่ที่หมดอายุสังเกตได้จากตัวอักษรสุดท้ายในแผ่นป้ายทะเบียนรถ โดยในส่วนแท็กซี่สหกรณ์แผ่นป้ายทะเบียนที่หมดอายุใช้งานแล้วคือตัวอักษรที่ลงท้ายด้วยตัว ว,ร,ล,ย ส่วนรถแท็กซี่ส่วนบุคคลเขียว-เหลือง คือตัวอักษร ม,ฉ วันนี้พบรถแท็กซี่กว่า 7 คันที่ป้ายทะเบียนหมดอายุแต่ยังนำรถมาวิ่งรับผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่จึงได้ปรับเงิน 1,000 บาท พร้อมถอดป้ายทะเบียนรถออกทันที เพื่อมิให้นำรถไปวิ่งอีก แต่ถ้าพบว่ายังฝ่าฝืนนำรถไปวิ่ง ก็จะมีความผิดในคดีอาญาทันที ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ทั้งนี้ รถแท็กซี่มีอายุการใช้งานตามวงรอบคือ 9 ปี เมื่อหมดอายุแล้วสามารถขอผ่อนผันได้อีก 1 เดือน จากนั้นห้ามนำรถออกมาวิ่งอีก ส่วนถ้าคนขับรถต้องการนำรถมาวิ่งใหม่หลังจากนี้ จะต้องซื้อรถและจดทะเบียนใหม่ทั้งหมด พร้อมทั้งต้องมาขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก และแจ้งสถานที่ที่จอดรถพร้อมเบอร์ติดต่อให้ชัดเจน ส่วนรถเก่าต้องเปลี่ยนสภาพเป็นรถส่วนบุคคลธรรมดา





ทั้งนี้ ระหว่างทำการปรับเงินผู้ขับรถแท็กซี่ทั้ง 7 คน พบว่า 3 จาก 7 คนมีการต่อรองขอเจ้าหน้าที่ให้ปรับเหลือ 500 บาทจากที่ต้องปรับ 1,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธการร้องขอดังกล่าว เพราะต้องปรับไปตามที่กฎหมายระบุไว้ จากการสอบถามคนขับรถแท็กซี่พบว่าบางคันไม่ทราบว่ารถที่นำมาวิ่งหมดอายุ เพราะเจ้าของอู่ไม่ได้บอก ขณะที่บางคันบอกว่าทราบแล้วว่ารถหมดอายุ ซึ่งเจ้าของอู่ก็ได้บอกแล้วว่าถ้าโดนจับต้องรับผิดชอบเอง แต่ตัวเองก็เสี่ยงนำรถมาวิ่ง เพราะต้องการหารายได้ ทั้งนี้ผู้ขับรถแท็กซี่ที่โดนถอดป้ายทะเบียน เพราะรถหมดอายุในวันนี้ ต่างพูดคล้ายกันว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมและการช่วยเหลือจากรัฐเท่าที่ควร โดยมีคนหนึ่งแสดงท่าทีไม่พอใจและข่มขู่ผู้สื่อข่าว ขณะสอบถามถึงการทำความผิดด้วย





นายสมยศ ยอมรับว่าหลายครั้งมักเจอคนขับรถที่แสดงท่าทีหงุดหงิดและไม่ยอมให้ยึดป้ายทะเบียน ซึ่งขณะนี้กรมการขนส่งทางบกยึดป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ที่หมดอายุได้แล้วหลายพันคัน นอกจากการตรวจเรื่องแผ่นป้ายทะเบียนหมดอายุแล้ว ก็ยังมีการตรวจการปฏิเสธผู้โดยสาร และใบขับขี่ ซึ่งวันนี้พบ 1 คันที่เป็นคันเดียวกับ 1 ใน 7 คันที่รถหมดอายุที่มีใบขับขี่ผิดประเภท เจ้าหน้าที่จึงได้ออกใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนวันนี้ยังไม่พบแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ซึ่งถ้าพบก็จะดูว่าเคยมีประวัติปฏิเสธผู้โดยสารหรือไม่ ถ้าไม่เคยก็จะปรับ 1,000 บาท พร้อมลงประวัติไว้ แต่ถ้าเคยมีประวัติก็จะปรับมากกว่า 1,000 บาท ตามแต่ที่เคยมีประวัติไว้





ส่วนรถจักรยานยนต์จะดูป้ายทะเบียนสีดำ ที่เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลแต่นำมาวิ่งรับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นการใช้รถไม่ถูกต้องตามประเภท ส่วนรถจักรยานยนต์อย่างแกร็บ ไบค์ กรมการขนส่งทางบก ไม่สามารถดำเนินการได้ สำหรับการจราจรโดยรอบบริเวณหน้าสถานีบีทีเอสหมอชิตขณะนี้ถือว่ายังคล่องตัว ไม่มีปัญหา 





 



ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร



 

ข่าวทั้งหมด

X