*สน.ประชาชื่น เผยมีผู้เสียหายถูกแฮกบัตรATMแจ้งความเพิ่ม เสียหายรวมกว่า 6 แสนบ.ทุกคนเคยกดATMหน้าเซเว่นตลาดโกลด์มาร์เก็ต*

09 เมษายน 2557, 15:38น.


ความคืบหน้าคดีคนร้ายแฮกข้อมูล จากตู้ ATM หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ตลาดโกลด์มาร์เก็ต ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความที่สน.ประชาชื่น เพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 39 คน ถูกกดเงินออกจากธนาคารรวม 640,000 บาท ทุกคนให้การตรงกันว่า เคยกดเงินจากตู้ ATM หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ตลาดโกลด์มาร์เก็ต ซ.ประชานิเวศน์1 จากการตรวจสำนวนคำให้การของผู้เสียหายทั้ง39คน พบว่าส่วนใหญ่ใช้บัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ และเคยกดเงินที่ตู้ ATM หน้าเซเว่นตลาดโกลด์มาร์เก็ต  ซึ่งมีคนกดนานที่สุดเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ส่วนจำนวนเงินที่ถูกคนร้ายกด ออกไป มีต่ำสุด1,000 จนถึง50,000บาท ถูกกดออกจากตู้ATMหลายแห่ง อาทิ จ.สงขลา และจ.ปทุมธานี ส่วนในต่างประเทศ พบว่า เคยถูกกดเงินออกที่ประเทศญี่ปุ่นและเป็นเงินที่ถูกกดออกมากที่สุด คิดเป็นเงินไทย 61,502บาท สำหรับในด้านการสืบสวน พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ให้ข้อมูลว่าตู้ATMหน้าเซเว่น ตลาดโกลด์มาร์เก็ต ไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งภายใน และธนาคารก็ไม่อนุญาตให้ตำรวจตรวจสอบตู้ในทันที ต้องรอส่งเอกสารอย่างเป็นทางการก่อน ดังนั้นตำรวจจึงดูได้แค่กล้องวงจรปิดของเซเว่นเท่านั้น และพบเพียงชายต้องสงสัย วัย25ปี ผิวขาว ผมยาว สูงประมาณ 170 ซ.ม. สะพานกระเป๋าเป้ และเดินเข้าไปบริเวณหลังตู้ ATM ที่อยู่ด้านในเซเว่น วิธีการโจรกรรมยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าใช้วิธีการใด เพราะเมื่อร้อยเวรไปตรวจสอบเบื้องต้นทั้ง3ตู้วานนี้ ก็ไม่พบร่องรอยผิดปกติ อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุ  หน้าเซเว่นตลาดโกลด์มาร์เก็ต ประชานิเวศน์1 พบว่าเป็นย่านชุมชน ที่มีทั้งตลาดสด ร้านอาหาร และมีอาคารสำนักงานหลายแห่ง ซึ่งเซเว่นจะอยู่ใจกลาง และมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ตู้ATMมีจำนวน3ตู้ เป็นของธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ ติดตั้งห่างกันประมาณ2-4เมตรตามแนวประตูเซเว่น ซึ่งทั้งหมดเปิดให้ใช้ตามปกติ มีงดให้บริการเมื่อวานวันเดียว และระหว่างที่หาข้อมูล ก็ยังมีผู้ประชาชนมาใช้อยู่เรื่อยๆ สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ซึ่งตำรวจสน.ประชาชื่น ได้ให้ข้อมูลกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ปอศ.)แล้ว และอาจเตรียมให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.) ช่วยในการคลี่คลายคดี และในวันพรุ่งนี้ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น จะเข้าประชุมที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อวางกรอบการติดตามคนร้ายมาดำเนิน



อภิสุข

ข่าวทั้งหมด

X