+++นายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าคณะโหรพราหมณ์ กองราชพิธี สำนักพระราชวัง เปิดเผย (เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 ) ว่า คณะโหรพราหมณ์ได้ประกาศสงกรานต์ ปีพุทธศักราช 2557 ดังนี้ วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ เวลา 08 นาฬิกา 08 นาที 08 วินาที โดยนางสงกรานต์ทรงนามว่า โคราคะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ เสด็จยืนมาเหนือหลังพยัคฆะเป็นพาหนะ ส่วนวันที่ 16 เมษายน เวลา 12 นาฬิกา 09 นาที 00 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1376 ปี
+++พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ (ชวิน รังสิพราหมณกุล) ประธานพระครูพราหมณ์ กล่าวว่า นางโคราคะเทวีที่เสด็จยืนบนหลังเสือ นัยยะคือนางสามารถควบคุมเสือที่มีนิสัยดุร้ายได้ ขณะที่การถืออาวุธพระขรรค์และไม้เท้า นัยยะคือคอยกำกับดูแล ปกป้อง ส่วนการเสวยภักษาหารน้ำมัน ที่จริงๆ คือเป็นน้ำมันเนยสามารถปรุงเป็นของคาวและหวานได้ ทานแล้วอร่อยและมีพละ รวมๆ แล้วไม่ค่อยมีอะไรน่าเป็นห่วงแต่ต้องดูแล ตรงนี้หมายถึงเป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องไม่ปล่อยปละละเลย ดูแลกฎระเบียบ กฎความดี ศีลธรรม การยืนบนหลังเสือแสดงว่าควบคุมได้ คนที่ควบคุมไม่ได้จะไม่สามารถยืนบนนั้นได้ และต้องถูกเสือกิน ซึ่งเสือในที่นี้คือกิเลสต่างๆ ในหัวใจของเรา มีโลภ โกรธ หลง หากควบคุมจิตใจไม่ได้ ความดีจะหายไปจากตัวเรา จิตใจจะเสื่อม
+++ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. คนไทยนิยมซื้อแพ็กเกจทัวร์เส้นทางประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 5 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะการเปิดฟรีวีซ่า ความหลากหลายของเส้นทางท่องเที่ยว รวมถึงเดือน เม.ย.ของทุกปี เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของคนไทยช่วง 5 วันดังกล่าวมีการเดินทางแบบเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ประมาณ 30-40 ลำ เทียบกับทุกปีที่ผ่านมาไม่ถึง 20 ลำ ซึ่งคาดว่าจะมีคนไทยไปญี่ปุ่นกว่า 1 แสนคน เส้นทางที่ได้รับความนิยมรองลงมา ได้แก่ เกาหลีจีน ฮ่องกง พม่า สิงคโปร์ คาดว่าครึ่งปีหลังผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะนำเส้นทางยุโรปมาใช้เป็นจุดขาย เพื่อกระตุ้นยอดการเดินทางและรายได้การใช้จ่ายต่อแพ็กเกจให้เพิ่มขึ้นจากเส้นทางเอเชียเฉลี่ย 3-4 หมื่นบาท/แพ็กเกจเป็น5-6 หมื่นบาท/แพ็กเกจ
+++ขณะที่การจัดงานสงกรานต์ทั่วไทย จะมีรายได้สะพัดกว่า 3.7 หมื่นล้านบาทแบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.4 หมื่นล้านบาท รายได้จากคนไทย 2.3 หมื่นล้านบาท ลดลง 10% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความไม่เชื่อมั่นต่อปัญหาการเมืองภายในประเทศ และสภาวะเศรษฐกิจที่ไร้ทิศทาง
+++พล.อ.อ.ธเรศ ปุณณศรี ปธ.กสทช. เผยการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบเนื้อหาวิทยุและโทรทัศน์ที่ผิดกฎหมาย จะทำให้ กสทช.เดินหน้าตรวจสอบเนื้อหารายการที่ผิดกฎหมายได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการหมิ่นสถาบัน ซึ่งจะนำหลักฐานที่จัดเก็บข้อมูลครั้งนี้ ส่ง สตช. ดำเนินการต่อไป โดยการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว จะทำให้ กสทช.มีอุปกรณ์การตรวจสอบและมีพนักงานพร้อมที่จะตรวจสอบตลอด 24 ชม. เบื้องต้นจะตรวจสอบพร้อมกัน 40 ช่อง 40 สถานี และจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และจะบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐานเป็นเวลา 2 เดือน
++++ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้สอบพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรมว.แรงงาน ในฐานะเคยรับผิดชอบการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชารอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่องรองเลขาธิการนายกฯ ในฐานะฝ่ายปฏิบัติตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว นายวราเทพ รัตนากรรมต.ประจำสำนักนายกฯ และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งนายพิชัยชุณหวชิร นายกสภาวิชาชีพบัญชีแห่งประเทศไทย ส่วนพยานที่จะเดินทางเข้าให้ปากคำวันนี้ คือ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์
+++ส่วน นายยรรงยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เข้าให้ปากคำกับป.ป.ช.ในการพิจารณานายกฯในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นการตั้งสมมติฐานไม่ถูกต้อง เพราะหากผิดก็จะทำให้ผลการพิจารณาผิดไปด้วย ผมมีเอกสาร 40 หน้า เป็นประเด็นของผมชี้แจง 24 หน้า ส่วนที่เหลือเป็นการเติมประเด็นที่นายกรัฐมนตรีได้ส่งเอกสารชี้แจงไปก่อนหน้านี้พร้อมย้ำว่า นโยบายรับจำนำข้าวเป็นนโยบายที่รัฐบาลใช้หาเสียง ซึ่งเป็นสัญญาประชาคมหากรัฐบาลไม่ทำก็จะมีความผิดตามกฎหมาย
+++ส่วนตัวเลขการขาดทุนที่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรได้ระบุไว้นั้น ป.ป.ช.ได้สอบถาม ซึ่งยืนยันไปว่า ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ยุติ ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของนักบัญชี รัฐบาลต้องการนำนักบัญชีคือนายพิชัย ชุณหวชิร นายกสภาวิชาชีพบัญชีแห่งประเทศไทยมาชี้แจง เนื่องจากการปิดบัญชี เป็นเรื่องเทคนิคที่ยาก จะปิดปีต่อปีไม่ได้
+++ส่วนการระบายข้าวของรัฐบาลนั้น ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ เพราะเป็นการระบายข้าวอย่างมียุทธศาสตร์และเป็นข้าวเก่าซึ่งเป็นคนละตลาดกับผลผลิตในขณะนี้ ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้ส่งเงินคืนคลังไปแล้ว รวม 10,700 ล้านบาท ซึ่งเหลืออีกเพียง 9,300 ล้านบาท จึงจะครบ 20,000 ล้านบาท ที่ได้ยืมมาจากงบกลางและมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายคืนให้ทันกำหนดสิ้น พ.ค.นี้ได้อย่างแน่นอน
+++นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า มีผู้ประกอบการค้าข้าวและโรงสีที่สนใจยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 (รอบ 1) และ (รอบ 2) และปีการผลิต 2556/57 เพื่อจำหน่ายภายในประเทศ และ หรือส่งออกต่างประเทศ ปริมาณรวม 1.69 แสนตัน
+++โดยในวันนี้ (10 เม.ย.) กรมฯได้เปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวหลายชนิดปริมาณรวม 4.2 แสนตัน และกำหนดเปิดซองระบายข้าวในวันถัดไป ส่วนรัฐบาลอิรักได้ออกหนังสือลงวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่ายกเลิกการห้ามนำเข้าข้าวจากประเทศไทย พร้อมเสนอซื้อข้าวจากไทย โดยจะมีการเปิดนำเข้าเฉลี่ยเดือนละ 3-4 หมื่นตัน
+++สำหรับ การส่งออกข้าว ณ วันที่ 4 เม.ย. 2557 ไทยส่งออกข้าวแล้วปริมาณ 2,110,133 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณ 1,645,128 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 28.27% มูลค่าการส่งออก 1,104 ล้านดอลลาร์ลดลง 6.66% หรือประมาณ 35,629 ล้านบาท
+++นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ให้รับผิดชอบคดีรับจำนำข้าว รับว่า กำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หลังมีมติยกคำร้องการถอดนายวิชาออกจากองค์คณะไต่สวนถึง 3 รอบ รวมถึงกรณีการตัดพยานคดีจำนำข้าวที่นายกฯขอไป 11 ปาก เหลือ 3 ปาก และความผิดกรณีอื่นๆ ที่มีคำสั่งโดยมิชอบเพราะทำให้นายกรัฐมนตรีไม่ได้รับความเป็นธรรม ถือเป็นการใช้ดุลยพินิจไม่สุจริต ทั้งที่บอกว่าใช้มาตรฐานเดียวกับศาลในการพิจารณาคดี
+++กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกคอกวัว ครบรอบ 4 ปี วันที่ 10 เม.ย. ที่ชั้น 6 อิมพีเรียล ลาดพร้าวจากนั้น เวลา 12.00 น. จะเปิดวีดิทัศน์ยิงนกในกรงชุดใหม่ และให้แกนนำร่วมกล่าวคำสดุดีผู้เสียชีวิต
+++นายสัจจา ศรีเจริญ ผอ.สพม.กทม.เขต 2ได้ลงนามคำสั่ง ย้ายนายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผู้อำนวยการ รร.สตรีวิทยา 2 ให้มาช่วยราชการที่เขตพื้นที่การศึกษา โดยจะให้มารายงานตัวภายในวันที่ 11 เม.ย.นี้ จากนั้นจะหารือกับนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เพื่อย้ายนายพชรพงศ์มาช่วยราชการที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต่อไป เพื่อให้เกิดความสะดวกในการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง สาเหตุตัดสินใจออกคำสั่งด่วนย้ายนายพชรพงศ์ให้มาช่วยราชการนั้น เพราะเห็นว่าหากรอผลสอบสวนข้อเท็จจริงจะไม่ทัน ซึ่งความวุ่นวายและความขัดแย้งภายในโรงเรียนมีมากขึ้นหลายลักษณะ จึงจำเป็นต้องให้นาย พชรพงศ์ออกมานอกพื้นที่ก่อน เพราะหากยังให้ทำงานต่อ ความขัดแย้งจะรุนแรงมากขึ้น
+++อย่างไรก็ตาม หากผลสืบหาข้อเท็จจริงสรุปออกมาว่านายพชรพงศ์มีมูลความผิด ก็จะต้องเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ตั้งกรรมการสอบวินัยต่อไป แต่หากไม่มีความผิด ก็ต้องส่งนายพชรพงศ์กลับไปรับตำแหน่งเดิม ทั้งนี้ เกิดการต่อต้านจากประชาคมโรงเรียนไม่ยอมให้นายพชรพงศ์กลับมาเป็นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนก็จะมาพิจารณากันอีกครั้ง