ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ออกแถลงการณ์สรุปผลการประชุม กรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่านายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ "โกตี๋" ที่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และเผยแพร่คลิปวิดีโอทางอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อันเป็นการล่วงละเมิดต่อสถาบัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีโดยเร็ว และในวันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการปราบปราม ได้รับคดีและเริ่มสอบสวนแล้ว คาดว่าจะขอศาลอนุมัติหมายจับได้ภายในวันพรุ่งนี้ ศอ.รส.จึงกำชับให้พนักงานสอบสวน เร่งรัดดำเนินคดีโดยเร็ว และให้ติดตามการกระทำผิดในลักษณะนี้ โดยจะต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกรายไม่มีละเว้น ทั้งเตือนว่า การเผยแพร่ หรือส่งต่อคลิปวีดิโอถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี นอกจากนี้ ยังอาจถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ด้วย
และในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยสถานภาพของนายกรัฐมนตรี จากกรณีโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี และคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดในกรณีโครงการรับจำนำข้าว แกนนำทั้งสองฝ่าย คือ กลุ่ม กปปส. และ นปช. ตางระดมมวลชนเข้าร่วมการชุมนุม ในลักษณะท้าทาย แข่งขันกัน ศอ.รส.มีความกังวลว่าอาจเป็นชนวนเหตุของการปะทะหรือเผชิญหน้า รวมถึงการก่อเหตุร้าย จึงขอร้องให้งดเว้นการสนับสนุนในทุกรูปแบบ และเรียกร้องแกนนำทั้งสองกลุ่ม คำนึงถึงเหตุร้ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ส่วนเรื่องที่กลุ่ม กปปส. ประกาศว่าจะคืนพื้นที่หน่วยงานราชการต่างๆ แต่กำหนดเงื่อนไขให้ต้องติดป้ายสนับสนุนกลุ่ม กปปส. และไม่ให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงเข้าปฏิบัติหน้าที่นั้น ศอ.รส. เห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
รีไรท์