พลเรือจัตวาปีเตอร์ ลีวี ผู้ประสานงานของกองทัพออสเตรเลียในการค้นหาเครื่องบินที่สูญหายของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เปิดเผยว่า การค้นหาในวันนี้ ประสบปัญหาหลายอย่าง ทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะสภาพดินทรายใต้ท้องทะเล , สัญญาณที่อ่อนลงจากกล่องบันทึกเสียงและข้อมูลการบินหรือกล่องดำของเครื่องบิน และการไม่ปรากฏเศษซากที่จะช่วยให้สามารถกำหนดตำแหน่งของเครื่องบินได้อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ ความพยายามค้นหาด้วยสายตาอาจจะไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากซากเครื่องบินหรือเศษชิ้นส่วนจมลงใต้ดินทรายได้อย่างง่ายดาย และสภาพดินทรายใต้ท้องทะเลยังส่งผลให้สัญญาณที่ส่งมาจากกล่องดำอ่อนกำลังลงกว่าปกติ เมื่อเทียบกับสภาพหน้าดินที่แข็งๆ เช่น หิน ซึ่งจะสามารถส่งสัญญาณได้แรงกว่า
ด้านพล.อ.อแองกัส ฮิวสตัน หัวหน้าทีมประสานงานการค้นหาร่วมของออสเตรเลีย ตั้งข้อสังเกตุว่าสัญญาณจะเริ่มอ่อนลง เนื่องจากแบตเตอร์รี่ของกล่องดำใกล้จะหมดลง
ก่อนหน้านี้ เรือโอเชียน ชีลด์ของออสเตรเลีย ซึ่งติดตั้งเครื่องอุปกรณ์ระบุตำแหน่งพิงเกอร์จากกองทัพเรือสหรัฐสามารถดักจับสัญญาณจากกล่องดำ 4 ครั้ง หากสามารถดักจับสัญญาณเพิ่มเติม ทีมค้นหาจะส่งยานสำรวจใต้น้ำชื่อบลูฟิน 21 ลงไปสำรวจใต้ท้องทะเลทันที สำหรับกล่องดำอาจจะช่วยคลี่คลายปริศนาที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเที่ยวบินเอ็มเอช 370 พร้อมคนบนเครื่อง 239 คน จนเป็นเหตุให้บินออกนอกเส้นทางหลายพันกิโลเมตร ขณะบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่งของจีนเมื่อวันที่ 8 มีนาคม
ทีมข่าวต่างประเทศ