+++สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว 1.4 ริกเตอร์ ที่ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ. เชียงใหม่ เมื่อ 01.05 น.วันที่ 11เม.ย.
+++ติดตามความคืบหน้า เหตุระเบิดรถยนต์นอกอาคารธนาคารกลางในกรุงเอเธนส์ ของกรีซ แรงระเบิดสร้างความเสียหายหน้าต่างอาคาร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่กรีซจะเข้าไปมีส่วนร่วมในตลาดพันธบัตรระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี และก่อนที่นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี จะเดินทางเยือน เยอรมนีเป็นผู้นำประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป(อียู) ที่มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการถูกขับออกจากกลุ่มยูโรโซน ในช่วงที่วิกฤติหนี้รุนแรงที่สุดเมื่อ 2 ปีก่อน
+++นายโอเล็กซานเดอร์ ตูร์ชีนอฟ รักษาการประธานาธิบดียูเครน รับปากว่า จะไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียที่ยึดอาคารรัฐบาล หากยอมวางอาวุธและยุติการยึดอาคารที่ดำเนินมานาน 4 วัน นายตูร์ชีนอฟ กล่าวต่อสมาชิกรัฐสภาว่า วิกฤตการแยกตัวในยูเครนล่าสุดสามารถแก้ไขได้ด้วยสันติวิธี เขาพร้อมรับประกันความปลอดภัยของกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียหากยอมยุติการยึดอาคาร ทางการจะไม่ดำเนินคดีใด ๆ กับคนกลุ่มนี้ รักษาการประธานาธิบดียูเครน ยื่นข้อเสนอนี้ขณะใกล้ถึงเส้นตายให้กลุ่มติดอาวุธออกจากอาคารหน่วยข่าวกรองในเมืองลูกันสค์และที่ทำการรัฐบาลในเมืองโดเนตสค์ภายในเช้าวันนี้ ไม่เช่นนั้นทางการจะใช้กำลัง สมาชิกรัฐสภาส่วนน้อยที่นิยมรัสเซียเรียกร้องให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมกลุ่มยึดอาคาร แต่สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ที่นิยมตะวันตกไม่เห็นด้วย
+++ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เปิดเผยว่า ส่งหนังสือถึงผู้นำอียู แสดงความกังวลต่อการที่ยูเครน ยังค้างชำระค่าก๊าซแก่รัสเซีย และเตือนว่าปัญหานี้อาจกระทบต่อการส่งมอบก๊าซแก่ยุโรป ส่วนสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ รายงานอ้างว่า นายปูตินเสนอให้ใช้กลไกของการเจรจาเพื่อพิจารณาสถานการณ์อย่างเร่งด่วน เป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อน ที่อาจส่งผลกระทบทางลบต่อการลำเลียงก๊าซของรัสเซียผ่านยูเครน
+++คณะทำงานที่กำลังแข่งกับเวลาในการค้นหาสัญญาณจากกล่องดำของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบินเอ็มเอช370 เปิดเผยว่า พบสัญญาณใหม่ที่อาจเป็นสัญญาณครั้งที่ 5 จากเครื่องบินลำนี้ จุดประกายความหวังว่าอาจจะพบซากเครื่องบินในเร็ว ๆ นี้ศูนย์ประสานงานหน่วยงานร่วม (เจเอซีซี) ในออสเตรเลียซึ่งเป็นแกนนำการค้นหาแถลงว่า เครื่องบินลาดตระเวนโอริออนของกองทัพอากาศออสเตรเลีย พบสัญญาณเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ บริเวณน่านน้ำใกล้เรือโอเชียนชิลด์ ที่พบสัญญาณ 4 ครั้งเมื่อวันเสาร์และวันอังคาร เจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลเสียงนี้ไปวิเคราะห์ ทำให้พื้นที่ค้นหาในวันนี้ถูกลดลงจาก 75,000 ตารางกิโลเมตรเหลือ 57,923 ตารางกิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองเพิร์ธไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 2,280 กิโลเมตร
+++ขณะที่ เว็บไซด์ของหนังสือพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษ เดอะ มิรเรอร์และ เดอะ อินดีเพนเดนท์ รายงานการติดตามค้นหาเครื่องบินลำนี้กินพื้นที่ครอบคลุม 11 ประเทศ และยังไม่มีเบาะแสใดชี้ชัดว่า เครื่องบินไปอยู่ที่ใด ตั้งแต่หายจากจอเรดาร์ในวันที่ 8 มี.ค. ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เครื่องบินอาจถูกจี้กลางอากาศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีสมมติฐานเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งประเด็นคือ อากาศยานอาจจะยังอยู่ในพื้นที่ของตอลีบันเพื่อถูกใช้ในโอกาสต่อๆไป ทั้งในอัฟกานิสถาน ปากีสถาน คาซัคสถาน อุซเบกิสถานและทาจิกิสถาน ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า บนเครื่องบินประกอบไปด้วยผู้คนต้องสงสัยหลายคน ตั้งแต่ผู้โดยสารที่ใช้หนังสือเดินทางปลอม กัปตันและผู้ช่วยกัปตัน รวมทั้งวิศวกรรายหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญและทำงานให้กับบริษัทผลิตอากาศยานแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกันนายไมเคิล แม็คคอล ประธานคณะกรรมการด้านความมั่นคงมาตุภูมิของรัฐสภาสหรัฐ กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดกับเครื่องบินเป็นเหตุจงใจของใครบางคน ซึ่งมีการไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบ
+++นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ของกัมพูชา เปิดเผยว่า เขาหวังว่าภาวะชะงักงันทางการเมืองที่ฝ่ายค้านคว่ำบาตรการประชุมรัฐสภาจะสิ้นสุดลงภายในสุดสัปดาห์นี้ด้วยข้อตกลงระหว่าง2 ฝ่ายโดยนายฮุนเซน กล่าวว่า เขาและนายสมรังสี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านตกลงกันคร่าว ๆที่จะลงนามในข้อตกลงฉบับหนึ่งในวันนี้ เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปการเมืองเปิดทางให้ส.ส.พรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือซีเอ็นอาร์พีที่ได้รับเลือกตั้งในเดือนก.ค.ปีที่แล้วเข้าไปทำหน้าที่ในสภา เขาบอกว่ามีความคืบหน้าระหว่างการพูดคุยกันทางโทรศัพท์นานเกือบ1 ชั่วโมงระหว่างผู้นำทั้งสองคนเมื่อวันพุธ ฝ่ายค้านกัมพูชา ท้าทายผลการเลือกตั้งโดยกล่าวหาว่า พรรคประชาชนกัมพูชาหรือซีพีพี ของนายฮุนเซน โกงการเลือกตั้ง ขณะที่หนังสือพิมพ์กัมโบเดีย เดลีรายงานอ้างคำกล่าวของนายสมรังสี ที่ยืนยันว่ามีการตกลงกันคร่าว ๆที่จะลงนามกันในวันศุกร์นี้
+++การจัดทำสำมะโนประชากรในพม่า เป็นการทำสำมะโนประชากรครั้งแรกของประเทศในรอบ30ปี จุดชนวนให้เกิดความวิตกกังวลของนานาชาติเกี่ยวกับการปฏิเสธที่จะยอมรับชาวโรฮิงญาไร้สัญชาติ โดยมีมากกว่า 10ล้านครัวเรือนเข้าร่วมในการสำรวจครั้งนี้ แต่การจัดทำสำมะโนประชากรมีขึ้นภายใต้การถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกลุ่มผู้สนับสนุนในสหรัฐและรัฐบาลชาติตะวันตก หลังจากเจ้าหน้าที่พม่าตัดสินใจไม่อนุญาตให้ชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาลงทะเบียนว่าเป็นชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาหลังจากเกิดคลื่นความรุนแรงครั้งใหม่ในรัฐยะไข่ทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามีความเป็นไปได้ว่าชาวโรฮิงญาหลายหมื่นคนไม่มีชื่ออยู่ในการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งนี้ ขณะเดียวกัน อีกหลายคนคนในรัฐกะฉิ่นทางตอนเหนือของประเทศก็จะไม่มีรายชื่ออยู่ด้วยหลังจากกบฏชนกลุ่มน้อยไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ ทั้งนี้ พม่า มองว่าชาวโรฮิงญาเป็นผู้อพยพจากบังกลาเทศเข้าประเทศผิดกฎหมายแม้ว่ามีจำนวนมากที่อยู่ในพม่ามานานแล้วก็ตาม
+++อินโดนีเซีย จะแซงหน้าไทย ยึดตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเร็วที่สุดก็ในปีนี้เลย จากแรงขับเคลื่อนของกำลังซื้อชนชั้นกลางที่ขยายตัว รวมถึงอุปสงค์ที่ร้อนแรงของยานพาหนะต้นทุนต่ำและรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์อินโดนีเซีย (Gaikindo) ระบุยอดจำหน่ายรถยนต์ในอินโดนีเซีย ชาติเศรษฐกิจใหญ่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเดือนมี.ค. ขยายตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถึงร้อยละ 17.8 นำโดยโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ไดฮัตสุ มอเตอร์และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป ขณะที่ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย พบว่าในเดือนเดียวกันนี้เอง ยอดจำหน่ายรถยนต์ ลดลงจากเดือนก.พ.ปีก่อนถึงร้อยละ 45 นอกจากนี้ อินโดนีเซียกำลังจะได้ประโยชน์จากที่บริษัทต่างๆกำลังย้ายฐานปฏิบัติการจากประเทศไทย เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและปัญหาอุทกภัย
+++ยอดส่งออกและนำเข้าของจีน ลดลงเมื่อเดือนมี.ค.เจ้าหน้าที่ ตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้กำลังเผชิญแรงต้านจากการแข่งขันที่ดุเดือดภายในภูมิภาค ตลอดจนแรงเสียดทาน จากคู่ค้ารายสำคัญ นอกจากนั้นข้อมูลตัวเลขนี้ยังเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตชะลอตัวลงของจีน กรมศุลกากรจีน แถลงว่า ยอดนำเข้าประจำเดือนมี.ค.ลดลง ร้อยละ11.3 เทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว โดยอยู่ที่ 1 แสน 62,400 ล้านดอลลาร์ ส่วนยอดส่งออกขยับลงร้อยละ 6.6 เหลือ 1 แสน 70,100 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้า 7,700 ล้านดอลลาร์ จากที่ขาดดุลผิดคาด 884 ล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม 2013 เมื่อเดือนก.พ.ปีนี้ จีนก็ขาดดุลการค้าผิดคาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกือบๆ 23,000 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 11 เดือน จูเลียน อีวานส์-พริตชาร์ด นักเศรษศาสตร์ของแคปิตอล อิโคโนมิกส์ กล่าวว่า มีการชะลอตัวทั้งด้านทั้งการนำเข้าเพื่อแปรรูปและการนำเข้าเพื่อส่งออก
+++ตลาดหุ้นสหรัฐ วานนี้ ร่วงหนัก โดยเฉพาะแนสแดคที่ดิ่งลงวันเดียวรุนแรงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2012 จากแรงฉุดกลุ่มเทคโนโลยีและไบโอเทค ดาวโจนส์ ลดลง 267.61 จุด ปิดที่ 16,169.57 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 39.09 จุด ปิดที่ 1,833.09 จุด แนสแดค ลดลง 129.79 จุด ปิดที่ 4,054.11 จุด
+++ราคาน้ำมันวานนี้ ขยับลงในกรอบแคบๆ หลังลิเบีย ส่งสัญญาณจะคืนการส่งออกเร็วๆนี้และข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลก สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 103.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ 107.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ราคาทองคำ ดีดขึ้นกว่าร้อยละ 1 แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของธนาคารกลางสหรัฐ ที่บ่งชี้ว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากรอบเวลาที่กำหนดไว้เดิม ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 14.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,320.50 ดอลาร์ต่อออนซ์
+++สำนักงานศุลกากรฝรั่งเศส จับกุม ยารักษาโรคปลอม นำเข้าจากประเทศจีน จำนวน 2.4 ล้านรายการ โดยยาเหล่านี้ รวมถึง ยาแก้โรคท้องเสีย ปวดศีรษะ และยาแก้อาการสมรรถภาพทางเพศเสื่อมสำหรับผู้ชาย ถูกบรรจุในกล่องติดป้ายระบุว่าเป็นชาจีน ในตู้คอนเทนเนอร์เรือบรรทุกสินค้า ที่ท่าเรือเมือง เลอ อาฟวร์ ในแคว้นนอร์มังดี การจับกุมมีขึ้นเมื่อปลายเดือน ก.พ. แต่เพิ่งมีการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ของกลางบางส่วนที่ยึดได้ มีสลากระบุส่วนประกอบของตัวยา ซึ่งถือเป็นการหลอกหลวงผู้บริโภคอย่างชัดเจน การจับกุมยารักษาโรคปลอมครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่สุด ของเครือข่าย 28 ประเทศสหภาพยุโรป หรือ อียู โดยสถิติก่อนหน้านี้จับยาแอสไพรินปลอมได้ 1.2 ล้านโดส เมื่อเดือน พ.ค. 2556 ที่ท่าเรือ เลอ ฮาฟวร์ ของฝรั่งเศส เช่นกัน ปัญหาการผลิตยาปลอมในประเทศ กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว เมื่อรัฐบาลจีนประกาศปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัย 1,300 คน เมื่อเดือน ธ.ค. และบริษัทขายยาทางอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้รับอนุญาต ถูกสั่งปิดหลายสิบบริษัท
+++องค์การอนามัยโลก ประกาศอบรมฉุกเฉินให้กับเจ้าหน้าที่ 70 คน ที่จะกระจายไปทั่วประเทศเพื่อติดตามผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้ออีโบลา ขณะเดียวกันจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษภายในกระทรวงสาธารณสุขเพื่อรับมือกับทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระแสวิตกเรื่องอีโบลา องค์การอนามัยโลก ระบุว่า อีโบลาระบาดในแอฟริกาขณะนี้ถือว่าร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เชื้อนี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2519 ในสาธารณรัฐซาอีร์ ซึ่งเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกในปัจจุบัน ตัวเลขล่าสุดขององค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า กินีมีผู้ติดเชื้ออีโบลา 157 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 101 คน ส่วนไลบีเรียมีผู้ติดเชื้อ 21 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 10 คน โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือวิธีการรักษา ผู้ป่วยจะเป็นไข้ที่มีเลือดออก ทำให้ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย อาเจียน ท้องร่วง รายที่รุนแรงอวัยวะจะล้มเหลวและเลือดออกไม่หยุด ผู้ติดเชื้อมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นหากไม่เกิดภาวะขาดน้ำ