รองผบ.ตร.ตั้งกก.สอบตร.สภ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ฯ คดีเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา

กรณีนายรัฐพงศ์ อินแก้ว ถูกยิงเสียชีวิตในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 โดยครอบครัวผู้เสียชีวิต เชื่อว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุตัวจริง แต่มีการสลับตัวผู้ต้องหา วันนี้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พานางวันใหม่ ชูพันธ์ แม่ของนายรัฐพงศ์ เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะมีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น พนักงานสอบสวนไม่นำผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุ ,ไม่มีการเก็บคราบเขม่าดินปืนและดีเอ็นเอจากผู้ต้องหา, ไม่มีการพาเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ,ไม่มีการสอบปากคำแพทย์นิติเวช และไม่พบของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ จึงเชื่อว่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี  มีส่วนช่วยเหลือผู้ต้องหา จึงขอให้มีการย้ายพันตำรวจเอกวันชัย ปะลาวัน อดีตผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรวิภาวดี และพันตำรวจโทกำธร จันทร์ฉาย รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรวิภาวดี เจ้าของคดี ออกนอกพื้นที่และเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบวินัย

นางวันใหม่ เล่าว่า วันเกิดเหตุนายรัฐพงศ์ พร้อมเพื่อนรวม 11 คนได้เข้าไปในพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ผ่านทางอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเข้าไปเก็บน้ำผึ้งป่า แต่ระหว่างพักค้างแรมในป่า นายรัฐพงศ์ถูกยิงเสียชีวิตตัดขั้วหัวใจ โดยนายอาทิตย์ ไกรนรา 1ใน11คนที่เดินทางไปด้วย รับสารภาพกับตำรวจว่าเป็นคนทำปืนลั่นใส่นายรัฐพงศ์เองและมีพยานอีกคนให้การว่าเห็นนายอาทิตย์ถือปืนลูกซองยาวก่อนที่จะเกิดเหตุ ตำรวจจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับนายอาทิตย์ ต่อมาในงานศพของนายรัฐพงศ์ ได้พูดคุยกับพยานคนดังกล่าว พยานบอกว่า  เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเร็วมาก ตนเองห้ามไว้ไม่ทัน อีกทั้งได้ยินคนใกล้ชิดของผู้ต้องหาและผู้ใหญ่บ้าน ลือกันว่า แท้จริงแล้วคนยิงคือนายวันชัย ขวดทอง ลูกชายผู้ใหญ่บ้าน แต่ได้สลับตัวให้นายอาทิตย์รับโทษแทน  ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นของผู้ใหญ่บ้านและไม่มีทะเบียน แต่ตำรวจกลับหาอาวุธที่ใช้ก่อเหตุไม่พบ ประกอบกับลักษณะการยิงตัดขั้วหัวใจทั้งที่มีระยะห่างถึง 11 เมตร ทำให้ไม่เชื่อว่าเป็นปืนลั่น

นางวันใหม่ ยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากเชื่อว่าผู้ก่อเหตุ คือนายวันชัย เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และเคยมีคนมาข่มขู่จะเอาชีวิต รวมถึงตนเองประกอบอาชีพกรีดยางและต้องอยู่ในพื้นที่คนเดียว  จึงอยากขอความคุ้มครองจากตำรวจด้วย

ด้านพลตำรวจเอกศรีวราห์ สั่งการให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน  ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนายตำรวจทั้ง 2 นาย และสั่งให้พนักงานสอบสวนชุดใหม่เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็นที่ครอบครัวสงสัยภายใน 7 วัน และรายงานกลับมาให้ทราบ รวมถึงให้ตรวจสอบกรณีกลุ่มดังกล่าวเข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตและความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ ด้วย

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ