นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง และนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การนายกรัฐมนตรี เดินทางมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ขอให้สอบพยานเพิ่มเติมอีก 2 ปากวันนี้ ในคดีกล่าวหานายกรัฐมนตรีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโครงการจำนำข้าว ได้แก่ นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในประเด็นรายงานและข้อเสนอแนะจากการปิดบัญชีโครงการฯที่นำเสนอข้อมูลนำไปสู่ความคลาดเคลื่อน และนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ประเด็นเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีฉบับต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ได้รับรู้ปัญหาการดำเนินการและไม่ได้ละเลยหรือละเว้นการทำหน้าที่ และได้ปฎิบัติตาม ม.11(1) พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน แล้ว นายบัญชา เปิดเผยว่า เตรียมยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช.อีกครั้ง เพื่อทบทวนพยาน 3ปาก ที่เคยปฎิเสธการเพิ่มพยานก่อนหน้านี้ได้แก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่ากากรระทรวงแรงงาน นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสภาวิชาชีพบัญชีแห่งประเทศไทย ที่ ป.ป.ช.อนุญาตให้เพิ่มพยาน ได้เพียง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและให้เดินทางมาให้ถ้อยคำวันที่17 เมษายน เวลา 13.30 น.นั้น โดยเรียกร้องให้ป.ป.ช.แถลงข่าว ว่าพยานที่ยื่นก่อนหน้านี้ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอย่างไร เเละยังเคลือบแคลงสังสัยเพราะบุคคลเหล่านี้ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงการรับจำนำข้าว ทั้งนี้ ทีมทนายความ กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน มติต่างๆของป.ป.ช. เตรียมฟ้อง ศาลอาญา ฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ประกอบ ข้อ29 ตามประมวลจริยธรรม ป.ป.ช. ว่าด้วยการแสวงหาและรวบรวมพยานหลักฐาน ที่ ป.ป.ช.ต้องรวบรวมพยานหลักฐานที่อาจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา เมื่อนายกรัฐมนตรียื่นเอกสาร แล้ว โดยย้ำว่าการเพิ่มพยานไม่ได้ต้องการประวิงเวลาการไต่สวนหรือ ข่มขู่ ป.ป.ช.แต่อยากให้ทบทวนการเพิ่มพยานเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและใช้ดุลยพินิจโดยสุจริต
โกวิทย์