จากเหตุเครนก่อสร้างต่อเติมโรงแรมในซอยเจริญกรุง 42/1 ถนนเจริญกรุง แขวงและเขตบางรัก ตกใส่โรงเรียนอัสสัมชัญ คอนแวนต์ทำให้มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ 10 คนโดยมีอาการสาหัส 1 คน
พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางรัก กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ตัวแทนบริษัท พุทธเตชะ จำกัด ไม่ได้มาพบพนักงานสอบสวนตามที่นัดไว้ แต่พบว่ามีตัวแทนบริษัทไปขอเจรจากับทางโรงเรียน ยอมรับว่า คดีนี้ไม่ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มบริษัทผู้รับเหมา ทั้งในตอนแรกยังมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า ผู้ขับเครนเป็นพนักงานชาวไทยคนหนึ่ง แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า พนักงานที่ถูกอ้างถึงลากลับบ้านที่จังหวัดปัตตานีตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ภายหลังจึงยอมรับว่าผู้ขับเครนเป็นคนงานชาวกัมพูชา ซึ่งไม่มีความรู้เรื่องการขับเครน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้การเจรจายังไม่สามารถตกลงกันได้ และตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำตัวแทนของบริษัทได้ เพราะตัวแทนที่มาเป็นเพียงที่ปรึกษาของบริษัทและไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ
ส่วนการออกหมายเรียก จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานและพิจารณาออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน จะแบ่งการสอบเป็น 2 ส่วน คือ เครนหักโค่นทำให้นักเรียนได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจะเร่งสอบสวนประเด็นนี้ก่อน ส่วนเรื่องฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานและต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามที่สำนักงานเขตบางรักมาแจ้งความไว้ ต้องใช้เวลาสอบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากมีรายละเอียดค่อนข้างมาก
ด้าน พ.ต.ท.ศุภชัย หาญคำหล้า รองผู้กำกับการสอบสวน สน.บางรัก ระบุว่า หลังเจ้าหน้าที่กรมโยธา กรุงเทพมหานครเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างอาคาร บ่ายวันนี้พนักงานสอบสวนจึงได้เชิญเจ้าหน้าที่กรมโยธาเข้ามาสอบปากคำ ว่ามีการดัดแปลงอาคารหรือไม่ ดัดแปลงเพื่อประโยชน์อะไร เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานก่อนพิจารณาออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยก่อนหน้านี้ได้สอบปากคำเจ้าของบริษัทเครน วิศวกรควบคุมงานและวิทยุขณะเกิดเหตุไปแล้ว หากมีพยานหลักฐานไปถึงนิติบุคคลรายใด ก็จะออกหมายเรียก คาดว่าอย่างช้าสุดวันจันทร์นี้จะสามารถออกหมายเรียกได้
ส่วนคดีที่ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ จะต้องติดตามตัวคนขับเครนมาสอบก่อนและรอผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานว่าเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากความผิดพลาดของอุปกรณ์หรือตัวผู้คนเครน ซึ่งขณะนี้คนขับเครนยังหลบหนีอยู่ ส่วนจะมีใบอนุญาตหรือไม่ ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบ
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ
แฟ้มภาพ