*สรุปข่าว18.00น. ทหารคนสนิทพล.อ.เปรม รับมีคนยื่นเรื่องให้แก้วิกฤตหลายกลุ่ม/จตุพรเตือนไม่ใช่อำนาจ/สุรยะใสชี้

15 เมษายน 2557, 17:31น.


สรุปข่าว 18.00 น.



+++พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ และในฐานะนายทหารคนสนิท  กล่าวถึง กรณีคณะรัฐบุคคล นำโดย พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยื่นหนังสือขอให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ทูลเกล้าฯ สนองพระบรมราชโองการ แก้วิกฤติประเทศทันที ไม่ต้องรอให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองว่า พล.อ.เปรม รับหนังสือหรือไม่ ไม่ทราบ แต่คาดว่า พล.อ.เปรม รับรู้เรื่องนี้แล้ว และคณะรัฐบุคคลนี้ ไม่ใช่คณะแรกที่เสนอทางออกประเทศมาให้มีหลายกลุ่ม หลายคณะ ที่เป็นห่วงเป็นใยประเทศชาติก็ต่างเสนอมาให้ พล.อ.เปรม ก่อนหน้านี้  และขอให้รอดูผลจะออกมาเป็นอย่างไร อดใจกันสักนิดและสุดท้ายต้องจบ เพราะบ้านเมืองเกิดปัญหาความขัดแย้งมาหลายปี เมื่อบ้านเมืองถึงทางตัน แนวทางต่างๆ ต้องเชื่อมโยงกันเพื่อแก้ไขสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายลงไปกว่าปัจจุบัน เพราะทุกคนในประเทศนี้อยากให้จบ



+++นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวฝากไปยังพล.อ.เปรม ว่าได้ไปพูดคุยตกลงอะไรกันกับคณะรัฐบุคคล แต่ขอบอกว่าไม่ใช่เพราะไม่มีอำนาจใดๆที่จะเรียกศาล เรียกทหาร และผู้นำทางสังคมมาพูดคุย และเสนอแต่งตั้งนายกฯมาตรา7 เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่หลายฝ่ายต้องมาพูดคุยกัน ส่วนการชุมนุมใหญ่ในวันที่18 เม.ย.นี้  จะชุมนุมโดยใช้ถนนอักษะที่เชื่อมระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย3และพุทธมณฑลสาย4ที่จังหวัดนครปฐม มีความยาวประมาณ4กิโลเมตรให้เต็มสาย เพื่อเป็นศูนย์กลางการชุมนุมนัดหมายครั้งนี้  จุดหมายปลายทางจะต้องพบกับชัยชนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล ขอฝากนปช.ต่างจังหวัดทุกจังหวัด ออกมาต่อสู้ครั้งนี้ให้มากที่สุด เพราะเป็นปลายทางแล้ว



+++ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว “สุริยะใส กตะศิลา” ว่า เห็นข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สไกป์มาหาญาติพี่น้องที่เชียงใหม่ แล้วบอกว่าพร้อมเจรจาและแนะนำให้ทุกคนเลิกอาฆาตมาดร้ายต่อกัน  ทำให้คิดทันที ว่า จะเจรจากับใครจะเจรจากับศาลรัฐธรรมนูญ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเจรจาได้ เพราะเป็นระบบไต่สวนความผิด เหมือนคนถูกข้อหาขึ้นศาลแล้วจะไปขอเจรจากับศาล มันเป็นไปไม่ได้ เพราะถูกผิดก็ว่ากันไปตามคำตัดสินหรือว่าเพราะล่วงรู้ชะตากรรมน้องสาวที่อาจจะเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองเลยส่งสัญญาณเจรจา ส่วนที่ให้เลิกอาฆาตมาดร้ายต่อกันนั้น ก็ไม่รู้ว่าหมายถึงใครอาฆาตใคร เพราะเห็นแต่บรรดาผู้สนับสนุน”ทักษิณ”ที่ คุกคามข่มขู่คนเห็นต่างทางการเมือง ดังนั้นคำอวยพรวันปีใหม่ไทยจากคนชื่อทักษิณจึงเป็นคำอวยพรที่เป็นแผ่นเสียงตกร่อง ไปแล้ว เพราะปากอย่างใจอย่างทำนองนั้น



+++นโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้นำระบบอีซี่พาสส์ หรือเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ.ใช้อยู่ในปัจจุบัน ขยายไปใช้ร่วมกับระบบทางด่วนมอเตอร์เวย์  ของกรมทางหลวง  นายชัชวาลย์  บุญเจริญกิจ  อธิบดีกรมทางหลวง ยอมรับว่าเบื้องต้นกรมทางหลวงวางแผนจะนำระบบอีซี่พาสส์มาจัดเก็บค่าผ่านทางวงแหวนด้านใต้ แต่ยังติดขัดข้อกฎหมายเรื่องการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่ง กทพ.จัดเก็บรวมอยู่ในค่าผ่านทาง  ขณะที่กรมทางหลวงเป็นหน่วยงานราชการไม่มีการเก็บภาษีดังกล่าว แต่นำส่งรายได้เข้ากองทุนมอเตอร์เวย์  ทำให้ต้องสอบถามข้อกฎหมายดังกล่าวไปยังสำนักงานกฤษฎีกาแล้ว หากได้ข้อสรุปจะเสนอเรื่องกลับไปที่กระทรวงคมนาคม ออกประกาศใช้เป็นกฎกระทรวงต่อไป  แต่ประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าว คงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะอาจกระทบการจัดเก็บเงินกองทุนมอเตอร์เวย์  ซึ่งจะเป็นแนวปฎิบัติกับอีกหลายกองทุนของหน่วยงานรัฐ รวมทั้งจะกระทบต่ออัตราค่าผ่านทางที่เก็บอยู่ในปัจจุบันด้วย



ต่างประเทศ



+++บรรดาคนข้ามเพศ (Transgender) ในอินเดียแสดงความดีใจ เมื่อศาลสูงได้พิพากษายอมรับให้บรรดาคนข้ามเพศมีฐานะเป็นเพศที่สามแล้ว ถือเป็นคำตัดสินที่เป็นสุด ของการมีสิทธิเสรีภาพเรื่องเพศในอินเดีย ซึ่งมีประชากรกว่า 1พัน2 ร้อยล้านคน และจะทำให้รัฐบาลสามารถจัดหางานและให้การศึกษาแก่คนข้ามเพศ ซึ่งถือเป็นคนกลุ่มน้อยในประเทศ เช่นเดียวกับคนเพศหญิงหรือชาย ศาลสูงกรุงนิวเดลี  ชี้ว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะเลือกเพศของตนเอง และยังกำชับไปยังรัฐบาลด้วยว่าควรตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับสิทธิของคนเพศที่สามว่า พวกเขาสามารถเข้าถึงการได้รับการรักษาพยาบาล และความสะดวกในการใช้สาธารณูปโภคอื่นๆ อย่างเช่น ห้องสุขา ในอินเดียอาจจะมีคนข้ามเพศถึงประมาณ 2 ล้านคน



+++ซี เอ็นเอ็นและบีบีซี รายงานอ้างนายเซดิก เซดิกี โฆษกกระทรวงความมั่นคงภายในของอัฟกานิสถาน ว่า มือปืนกลุ่มหนึ่งได้บุกลักพาตัวนายอาหมัด ชาห์ วาฮิด รัฐมนตรีช่วยกระทรวงโยธาธิการ ในอำเภอแคร์ คานา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงคาบูลเมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ มือปืน 4 คนในรถยนต์คันหนึ่งได้เปิดฉากยิงใส่รถยนต์ของรัฐมนตรี พร้อมกับลักพาตัวนายวาฮิดไป ระหว่างการเดินทางไปยังที่ทำงาน ตำรวจตั้งประเด็นการสอบสวนคดีนี้เป็นคดีอาญา มากกว่าก่อนการร้ายจากฝีมือของกลุ่มตอลีบัน



หุ้นต่างประเทศ



+++ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้น 86.65 จุด ปิดที่ 13,996.81 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 367.54 จุด หรือ 1.60% ปิดที่ 22,671.26 จุด

ข่าวทั้งหมด

X