รอยเตอร์ รายงานว่า นายโรเบอร์โต เพอร์ลี นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทคอร์เนอร์สโตน แม็คโคร บริษัทวิจัยตลาดของสหรัฐฯ และนายวาร์ด แม็คคาร์ธี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทเจฟเฟอร์รีส์ ผู้ให้บริการด้านการเงินของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางหรือเฟดของสหรัฐฯจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมร้อยละ 0.25 ในวันพุธนี้ หลังการประชุมนโยบาย 2 วัน คือวันที่ 30-31 กรกฎาคม สำหรับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯในปัจจุบันอยู่ระหว่างร้อยละ 2.25-2.50
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า เฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯให้เติบโตต่อเนื่อง นักวิเคราะห์ทั้งสองคน ตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับเฟดในระยะนี้คือ เรื่องการลงทุนทางภาคธุรกิจที่อ่อนแอและปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ และความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการถอนตัวของสหราชอาณาจักรออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ เบร็กซิต ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ยอดขายบ้าน การผลิตสินค้าอุตสาหกรรม และภาคการส่งออก อ่อนแอลง แม้ว่ารายงานล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ชี้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคเติบโตต่อเนื่อง ช่วยทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 2.1 ในช่วงไตรมาส 2 หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยจริงจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์ทั่วโลกเมื่อ 10 ปีก่อนและจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 5 นับตั้งแต่ปลายปี 2523
แฟ้มภาพ รอยเตอร์