ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2562

26 พฤศจิกายน 2562, 06:02น.


ฝ่ายค้านฮ่องกง คว้าชัยเลือกตั้งสภาเขต



          ผลการเลือกตั้งสภาเขตในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงปรากฏว่ากลุ่มนักการเมืองฝ่ายค้านที่สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยได้รับชัยชนะมากถึงร้อยละ 90 ของ 452 ที่นั่งในสภา โดยเป็นการครองเสียงข้างมากใน 17 เขตจาก 18 เขต มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์สูงถึงร้อยละ 71 โดยในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อนกลุ่มนักการเมืองฝ่ายค้านมี 100 ที่นั่งในสภาเขต และไม่ได้เป็นเสียงข้างมากในเขตใดเลย



          โดยสภาเขตของฮ่องกง มีหน้าที่รับคำร้องของประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภคต่าง ๆ ไม่มีอำนาจในการออกกฎหมาย แต่จะเป็นผู้ที่เลือกกลุ่มผู้แทนจำนวนหนึ่งร่วมเป็นคณะกรรมการเลือกตั้งจำนวน 1,200 คนซึ่งทำหน้าที่คัดเลือกหัวหน้าผู้บริหารของฮ่องกง



          นางแคร์รี่ แลม หัวหน้าผู้บริหารฮ่องกง กล่าวว่า รัฐบาลฮ่องกงเคารพผลการเลือกตั้งและหวังว่าสถานการณ์จะอยู่ในความสงบ ปลอดภัยและเป็นระเบียบเรียบร้อยต่อไป



          ซึ่งในขณะที่ฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยกำลังฉลองชัยชนะ ยังมีนักการเมืองที่สนับสนุนทางการจีนหลายคนที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งกล่าวโทษคณะผู้บริหารฮ่องกงว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องพ่ายแพ้ แต่ประธานพรรคการเมืองที่สนับสนุนทางการจีน ซึ่งออกแถลงการณ์ขอโทษที่พรรคมีผลงานที่ไม่ดีนัก แต่ก็ไม่เห็นด้วยหากนางแลมจะลาออก



          โดยเมื่อวานนี้มีกลุ่มผู้ชนะการเลือกตั้ง ร่วมด้วยผู้สนับสนุนร่วมการเดินขบวนเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลจำนวนไม่ถึง 100 คนที่ยังอยู่ในมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค หรือโพลียู โดยบุคคลเหล่านี้อยู่ในโพลียูมาตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน ซึ่งตำรวจฮ่องกงระบุว่า ตำรวจมีประกาศเป็นระยะให้ผู้ที่อยู่ในโพลียูออกมา แต่ผู้ประท้วงปฏิเสธที่จะออกมา



อิหร่านกล่าวหาสหรัฐฯอยู่เบื้องหลังการประท้วงน้ำมันแพง



          กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวหาว่าสหรัฐฯให้การชุมนุมประท้วงราคาน้ำมันแพงที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน โดยในแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐฯต้องการให้เกิดสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น อิหร่านจึงประณามสหรัฐฯและต่างชาติที่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน



          นอกจากนี้อิหร่านยังปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งของศาลสหรัฐฯ ที่ระบุให้จ่ายเงินชดเชย 180 ล้านดอลลาร์ให้แก่ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งของวอชิงตันโพสต์ ที่ถูกจำคุกในอิหร่าน 544 วัน ในข้อหาจารกรรม และได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือนมกราคม 2559 แลกกับชาวอิหร่าน 7 คน ที่ถูกคุมขังในสหรัฐฯ



ปธน.สหรัฐฯปลดรัฐมนตรีทบวงทหารเรือฐานขัดคำสั่ง



          นายมาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกคำสั่งปลดนายริชาร์ด สเปนเซอร์ พ้นตำแหน่งรัฐมนตรีทบวงทหารเรือ ซึ่งเป็นตำแหน่งข้าราชการพลเรือนระดับสูงสุดของกองทัพเรือ เนื่องจากมีความขัดแย้งกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กรณีลดขั้นและเปิดสอบวินัย เจ้าหน้าที่เอ็ดเวอร์ด กัลลาเกอร์ ทหารหน่วยซีลที่ฆ่านักโทษไอเอสตายที่อิรักเมื่อ 2 ปีก่อน จึงถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งนอกจากนี้แล้วเจ้าหน้าที่กัลลาเกอร์ยังพยายามฆ่าพลเรือนอีกหลายคนและขัดขวางกระบวนการยุติธรรม โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมคณะลูกขุนศาลทหารตัดสินให้ยกฟ้องข้อหาอาชญากรสงคราม แต่ให้ลงโทษข้อหาที่เบากว่า กรณีการถ่ายรูปหมู่คู่กับศพ โดยให้ปรับลดยศ 1 ขั้น อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีทรัมป์ ใช้อำนาจของผู้บังคับบัญชาสูงสุด ให้คืนยศเดิมแก่เจ้าหน้าที่กัลลาเกอร์ทั้งวิจารณ์กองทัพเรือเรื่องการปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่กัลลาเกอร์ และเห็นว่านายสเปนเซอร์ควรลาออกเพราะมีปัญหาเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ แต่นายสเปนเซอร์มีหนังสือชี้แจงว่า การรักษาระเบียบวินัยของกองทัพเรือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยังเข้าแทรกแซงการพิจารณาคดีเจ้าหน้าที่คลินต์ ลอแรนซ์ ในสังกัดกองทัพบกในความผิดฐานเจตนาฆ่า ในเหตุการณ์ฆ่าชาวอัฟกันที่ไร้อาวุธเมื่อปี 2555 ซึ่งเจ้าหน้าที่ลอแรนซ์ถูกจำคุกมาแล้ว 6 ปีจากโทษจำคุก 19 ปี



เศรษฐกิจเม็กซิโกดิ่งสู่ภาวะถดถอย



          เม็กซิโกซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มละตินอเมริกาคือรองจากบราซิล เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 2 ไตรมาสของปีและมีอัตราการเติบโตเป็นศูนย์ในช่วงไตรมาส 3 ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ แม้ว่าประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ จะพยายามออกมาตรการหลายด้านเพื่อรักษาคำมั่นที่ให้ไว้ในระหว่างการหาเสียงว่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นตั้งแต่ในปีแรกที่เข้ารับตำแหน่ง แต่ในทางปฏิบัติเขามีความขัดแย้งกับประชาคมนักธุรกิจในหลายโครงการ โดยเฉพาะการยกเลิกโครงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ของกรุงเม็กซิโก มูลค่า 13,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่การก่อสร้างใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ขณะที่พีเม็กซ์ รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานก็มีปัญหาหนี้สินมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์



น้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น คาดสหรัฐฯ-จีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้า



          ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับเพิ่มขึ้นเมื่อมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐฯและจีนใกล้ทำข้อตกลงการค้า



          ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 190.85 จุด ปิดที่ 28,066.47 จุด



          เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.35 จุด ปิดที่ 3,133.64 จุด



          แนสแดค เพิ่มขึ้น 112.60 จุด ปิดที่ 8,632.49 จุด



          ขณะที่การคาดหมายว่าโอเปกและพันธมิตรจะขยายกรอบเวลามาตรการลดกำลังผลิตออกไปก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น



          สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 24 เซ็นต์ ปิดที่ 58.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



          เบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 26 เซ็นต์ ปิดที่ 63.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



 ....

ข่าวทั้งหมด

X