+++สำนักข่าวเทเลกราฟของอังกฤษ อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดทีมสืบสวน ระบุว่าทีมสืบสวนเกี่ยวกับการสูญหายของโบอิ้ง777 ลำดังกล่าว ไม่เชื่อว่าแค่เหตุขัดข้องหรือไฟไหม้จะเป็นต้นตอการบินอย่างผิดปกติของเครื่องบินหรือตัดขาดระบบสื่อสารทั้งหมด ก่อนที่มันจะเบี่ยงเส้นทางและบินอย่างเงียบเชียบนานกว่า 7 ชั่วโมงแล้วจึงดิ่งลงสู่ทะเล ขณะที่ผลวิเคราะห์เส้นทางการบิน สัญญาณและระบบสื่อสารต่างๆ แสดงให้เห็นว่าการบินของเครื่องบินลำนี้ มีเหตุผลบางอย่าง ซึ่ง ทีมสืบสวนเชื่อว่ามันเป็นการกระทำโดยเจตนาของใครบางคนบนเครื่องบินซึ่งจำเป็นต้องคุ้นเคยรายละเอียดที่ต้องทำเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามยังไม่ปรากฏข้อมูลที่สามารถชี้ชัดถึงแรงจูงใจได้ ขณะที่ญาติๆของเหล่าผู้โดยสารของเครื่องบินที่สูญหาย ต่างโกรธกริ้วที่ อินมาร์แซตและทางการมาเลเซีย ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง สรุปว่าเที่ยวบิน MH 370 น่าจะตกลงสู่ทะเลทั้งที่ยังไม่มีการตรวจพบซากเครื่องบินแม้แต้ชิ้นเดียว
+++สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เปิดเผยเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์(24) ว่า เที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศครั้งแรกของนายฟาริก อับดุล ฮามิด ผู้ช่วยนักบินวัย 27 ปี กับโบอิ้ง 777 ในฐานะนักบินที่ได้รับอนุญาตอย่างเต็มขั้น โดยนายฟาริก เข้ามาทำงานกับสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ เมื่อ 7 ปีก่อนและมีประสบการณ์การบิน 2,763 ชั่วโมง แต่เขาเคยขึ้นบินด้วยโบอิ้ง 777 แค่ 6 ครั้ง อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บอกว่าการไร้ประสบการณ์ของผู้ช่วยนักบินในห้องควบคุมของโบอิ้ง 777 ไม่น่าจะก่อความเสี่ยงใดๆ
+++ทั้งนี้เว็บไซต์ของเทเลกราฟ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับถ้อยแถลงที่น่าประหลาดใจของมาเลเซียแอร์ไลน์สเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากสายการบินแห่งนี้บอกว่าขอสวดมนต์ภาวนาแด่บุคคลอันเป็นที่รักของผู้โดยสาร 226 คน เพื่อนๆและสหายผู้ร่วมงาน 13 คน ซึ่งในเอกสารข้อมูลผู้โดยสารพบว่า เครื่องบินลำนี้บรรทุกผู้โดยสาร 227 รายและลูกเรือ 12 คน โดยเวลานี้ทางสายการบินยังไม่ได้ออกมาชี้แจงถึงตัวเลขที่ไม่ตรงกัน
+++ที่สหรัฐ พวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามตรวจพิสูจน์เศษซากหักพังต่างๆ ในวันอังคาร (25) ท่ามกลางความหวังที่ลบเลือนลงไปทุกทีว่าจะพบผู้รอดชีวิต ขณะที่จำนวนผู้สูญหายจากเหตุโคลนถล่มครั้งใหญ่ที่ชุมนุมชนบทเล็กๆ ใกล้ๆ เมืองซีแอตเติล ในมลรัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์พุ่งสูงขึ้นเป็น 176 คน ส่วนผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 14 คน ล่าสุดหัวหน้าศูนย์ฉุกเฉินตัดสินใจปรับแผนปฏิบัติการช่วยเหลือสู่ภารกิจเก็บกู้แล้ว พวกเขาต้องทำงานกันอย่างเร่งรีบด้วยความกังวลว่าอาจเจอปัญหาน้ำท่วมซ้ำเติม เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำสติลลากิมิช ใกล้ชุมชนโฮโซ ห่างจากเมืองซีแอตเติล ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 90 ไมล์ สูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่แม่น้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยซากปรักหักพังและโคลนที่ถล่มลงมาจากเขา
++++นายโอเลกซานเดอร์ มูซีชโกหรือที่รู้จักกันในชื่อซาชโกบีลี ผู้นำชาตินิยมสุดโต่งของยูเครนถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นปฏิบัติการของกำลังปฏิบัติการพิเศษโดยนายมูซีชโกเสียชีวิตในการยิงปะทะกับตำรวจในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองรีฟเนทางตะวันตกของยูเครน นายมูซีชโก เป็นผู้นำของกลุ่มไรท์เซคเตอร์ กลุ่มขวาจัดซึ่งเป็นแกนนำสำคัญในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลขณะเดียวกัน รัฐสภายูเครนก็ลงมติยอมรับการลาออกของนายอิฮอร์เตนยูค รัฐมนตรีกิจการภายในหลังเขาถูกกล่าวหาว่าตัดสินใจไม่เด็ดขาดในการเผชิญหน้ากับกองทัพรัสเซียที่บุกยึดเขตไครเมีย เหตุการณ์ยิงนายมูซีชโกเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนายเซอร์เก ลาฟรอฟรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเปิดการเจรจากับนายอันดรีเดชชีตเซีย รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนซึ่งเป็นการพบหารือกันครั้งแรกตั้งแต่รัสเซียยึดไครเมียซึ่งจุดชนวนให้เกิดวิกฤติทางการทูต
+++นางลี เจียเฟย โฆษกของประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว แห่งไต้หวัน กล่าวว่า ผู้นำไต้หวันเสนอที่จะเชิญแกนนำผู้ประท้วงให้ไปพบปะและหารือกันในทำเนียบประธานาธิบดี นับเป็นการแสดงท่าทีผ่อนปรนต่อกลุ่มผู้ประท้วง หลังการบุกยึดอาคารรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อขัดขวางรัฐบาลไม่ให้ลงสัตยาบันในข้อตกลงการค้ากับประเทศจีน คำเชิญดังกล่าวมุ่งจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงอีก หลังมีคนบาดเจ็บกว่า 100 คนเมื่อวานนี้ เมื่อตำรวจฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายการประท้วงของนักศึกษาหลายร้อยคนซึ่งบุกเข้ายังทำเนียบรัฐบาลที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบชัดเจนว่า ผู้ประท้วงจะตอบรับคำเชิญนั้นหรือไม่ ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเจียงยีฮัวห์ ได้พบปะกับผู้ประท้วงที่ด้านนอกอาคารรัฐสภาเมื่อวันเสาร์ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้
+++สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 41 เซนต์ ปิดที่ 99.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 106.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวน โดยได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคภายในประเทศ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 94.60 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,371.29 จุด
+++ราคาทองคำวานนี้(25) แทบไม่ขยับ นักลงทุนพักหายใจหายคอ หลังผ่านพ้นสัปดาห์แห่งการร่วงลงอย่างหนัก อันมีต้นตอจากการที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 0.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,311.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++ชาวบ้านหลายสิบครัวเรือนใน 2 เมืองของญี่ปุ่น รู้สึกแปลกประหลาดใจอย่างยิ่ง เมื่อจู่ๆพบเงินสดและบัตรกำนัลอยู่ในตู้รับจดหมายหน้าบ้าน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่ามาจากไหน โดยที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบหาที่มาที่ไป หนังสือพิมพ์ไมนิชิ รายงานในวันอังคาร(25) ว่า เมื่อวันที่ 20-21 มีนาคมที่ผ่านมา เงินสดและบัตรกำนัลมูลค่ารวม 760,000 เยน(ราว 240,000บาท) ถูกนำไปใส่ในตู้รับจดหมายของชาวบ้านกว่า 30 ครัวเรือนในอาคารอพาร์ทเมนต์หลังหนึ่งที่เมืองอิโคมะ ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 380 กิโลเมตร โดยห่อที่มีจำนวนมากที่สุด คิดเป็นเงินกว่า 137,000 เยน(ราว 43,000 บาท) ตำรวจได้ลงบันทึกให้เรื่องนี้เป็นคดีของหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและหมายเลขกำกับของบัตรกำนัล ในความพยายามค้นหาที่มาที่ไปของมัน
+++กระทรวงสาธารณสุขของเซียร์ราลีโอนแถลงเมื่อวันอังคารว่ากำลัง สอบสวนผู้ป่วย2คนที่ต้องสงสัยว่าได้รับเชื้อไวรัสอีโบลาขณะที่ กินี ประเทศเพื่อนบ้าน ที่พยายามดิ้นรนอย่างหนักที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะดังกล่าว บรีมา คาร์โบ หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์กล่าวว่า 1ใน 2กรณีที่สร้างความวิตกกังวลคือในกรณีของเด็กชายวัย 14ขวบ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อ2สัปดาห์ก่อนในกินีและนำศพกลับมาทำพิธีฝั่งในหมู่บ้านของเขาในพรมแดนเซียร์ราลีโอนเขตโคโน ทางตะวันออกของประเทศส่วนผู้ต้องสงสัยรายที่ 2อยู่เขตแกมเบียพรมแดนทางตอนเหนือซึ่งไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดมากกว่านี้นอกจากแค่บอกว่า ผู้ป่วยยังมีชีวิตอยู่
บุษบง/06.00น.