* ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.*
+++เปิดตัวองค์กร “เก็บขยะแผ่นดิน” เพื่อดำเนินการกับกลุ่มหมิ่นเบื้องสูงแนวคิด ของ นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะวันเดียวมียอดคนเข้าไปติดตามในเฟซบุค กว่า 5 หมื่นคน มีทั้งพวกแสดงแนวคิดหมิ่นเบื้องสูงใช้ถ้อยคำรุนแรงมากมาย เข้าไปแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะทำให้เป็นช่องทางในการติดตามตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป
+++ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ นายสุรพงศ์ อมรพัฒน์ อายุ 67 ปี และ นางสมจินตนา อมรพัฒน์ อายุ 59 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ “โรส” อายุ 34 ปี บุตรสาวคนเล็กของ นายสุรพงศ์ และนางสมจินตนา เอง ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนำแผ่นดีวีดีบันทึกภาพและเสียงของ น.ส.ฉัตรวดี ที่มีการกล่าวพาดพิงสถาบันเบื้องสูง รวม 7 คลิป มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน พร้อมบอกถึงเหตุที่ต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีบุตรสาวตนเอง เป็นเพราะช่วงเวลาตั้งแต่เดือนมีนาคม ได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ถูกตอว่า ถูกโทรศัพท์มาคุกคามต่างๆ นานา หลังจากบุตรสาวซึ่งไปทำงานเป็นช่างผม หรือแฮร์สไตลิสต์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ถ่ายคลิปวิดีโอคำพูดซึ่งมีการพาดพิงสถาบันเบื้องสูงอันเป็นที่เคารพรักของประชาชนชาวไทย แล้วถูกเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์
+++พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวต่อว่า วันนี้ เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รอง ผบช.ก. รักษาราชการแทน ผบก.ป. จะเรียกประชุมคณะทำงานติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งจะเสนอที่ประชุมให้นำกรณีการแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ฉัตรวดี มาพิจารณาเพื่อรวมเป็นคดีเดียวกัน ก่อนนำเรื่องเสนอต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต่อไป
+++เมื่อวาน นายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสศาลรัฐธรรมนูญครบรอบ 16 ปี โดยมีคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เข้าร่วมพิธีพร้อมเพรียง โดยมีการจัดบรรยายธรรมเรื่อง “ธรรมะกับการปฏิบัติหน้าที่” โดยพระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร บรรยายธรรมว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีความสำคัญต่อประเทศชาติ ต้องทำหน้าที่เป็นกลาง ขณะนี้ประเทศไทยกำลังป่วยไข้หนัก เพราะแตกความสามัคคี ขาดคนเสียสละ คนไทยไม่ยอมแก้นิสัยตนเอง รวมถึงภาระหนี้สินภาครัฐและเอกชนที่งอกเงยขึ้น จนไม่รู้จะแก้ไขได้อย่างไรเพราะไม่มีสภาฯ จึงเป็นหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน และองค์กรอิสระที่อย่าคิดแบบศาล แต่ให้คิดเป็นแบบศาลา คือมาพูดคุยกันเพื่อหาทางออก และต้องมียารักษาประเทศ
+++ส่วนการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในคดีแทรกแซง การโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ของนายกรัฐมนตรี ได้ครบกำหนดวันที่ 18 เม.ย. นี้ ล่าสุด นายกฯได้ขอขยายเวลาการเข้าชี้แจงออกไปอีก 15 วัน ด้าน นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงศ์ หัวหน้าโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า นายกฯให้เหตุผลว่าเนื่องจากติดวันหยุดเทศกาลสงกรานต์หลายวัน ทำให้ เตรียมเอกสารไม่ทัน สำนักงานฯจึงได้แจ้งหนังสือดังกล่าวให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญรับทราบแล้วนัดพิจารณาในวันที่ 23 เม.ย.
+++นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า กรณีพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลตั้งข้อสังเกตว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับวินิจฉัยสถานะนายกฯ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ต้องถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังปฏิบัติหน้าที่นายกฯอยู่ต่อไปจนมีรัฐบาลใหม่เข้ามาใช่หรือไม่ ยังรับเงินเดือน ใช้รถประจำตำแหน่งอยู่ ยังคงทูลเกล้าฯการออก พ.ร.ฎ.ต่างๆได้อยู่ รวมทั้งยังมีอำนาจสั่งการข้าราชการได้อยู่ เพียงแต่อำนาจถูกจำกัดลงโดยรัฐธรรมนูญมาตรา 181 เท่านั้นเอง จึงถือว่าอยู่ในอำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัย
++++กรณีนี้แตกต่างกับการวินิจฉัยสมาชิกภาพ การเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีกระทรวงกลาโหมมีคำสั่ง ปลดออกจากราชการทหาร เพราะมีการยุบสภาแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องสั่งจำหน่ายคดี และหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กระทำขัดรัฐธรรมนูญจริง ความเป็นนายกฯก็ต้องสิ้นสุดลงทันที เป็นการ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวรัฐมนตรี ส่วน ครม.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ยังต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ ส่วนตัวเห็นว่าบ้านเมืองไม่ควรเกิดสูญญากาศ คือไม่มีฝ่ายบริหาร แต่อาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคน
++++นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมพรรคการเมืองในวันที่ 22 เม.ย. ว่า มีพรรคการเมืองตอบรับเข้าร่วมประชุมแล้ว 42 พรรค ยังขาดพรรคการเมืองใหญ่คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนเวลาเหมาะสมสำหรับการเลือกตั้งใหม่ คิดว่าไม่น่าจะเกิน 60 วัน ตามที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกิจการเลือกตั้ง ได้ประเมินก่อนหน้านี้ การเลือกตั้งจะพร้อมหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายการเมืองว่าจะตกลงกันได้มากน้อยแค่ไหน การเลือกตั้งเป็นทางออกทางหนึ่ง เพราะเราต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อถามถึงกรณีที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ออกแถลงการณ์สั่งให้ กกต.เร่งรัดจัดการเลือกตั้ง ส.ส.โดยเร็ว และระบุว่า มี กกต.บางคนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเข้าข่ายสามารถดำเนินคดีได้ นายศุภชัยย้อนถามว่า “เขามาสั่งไม่ได้หรอก เพราะอำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ และไม่ได้หวั่นไหวหากจะดำเนินคดีอาญาก็ทำไป”
+++ด้าน พรรคเพื่อไทยมีมติส่งนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายโภคิน พลกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 22 เมษายนนี้ โดยจะนำข้อเสนอที่ 53 พรรคการเมือง ที่ได้ประชุมกันเมื่อวันที่ 28 มีนาคม มีมติให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน ส่วนการจะจัดการเลือกตั้งอย่างน้อย 90 วัน ที่ประชุมมองว่า ช้าเกินไปจะทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส กกต.ควรเร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว
+++ปฎิกิริยา หลัง ศอ.รส. ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 พาดพิงถึงการทำงานขององค์กรอิสระ ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงสั่งการให้คณะรัฐมนตรีรักษาการปฏิเสธคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ และมีคำแนะนำให้ทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย
+++นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า คำแถลงดังกล่าวถือว่า ศอ.รส.ปฏิบัติงานเกินขอบเขตและอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ยังตั้งตนเป็นองค์กรอิสระเสียเอง โดยระบุว่า จะต้องตัดสินอย่างไรจึงจะถูกใจประชาชน นอกจากนั้น แถลงการณ์ของ ศอ.รส.อาจเข้าข่ายตั้งตัวเป็นกบฏ เพราะโจมตีการใช้อำนาจประชาธิปไตย โดยทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์จะตรวจสอบและดำเนินคดีกับนักการเมือง และข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการออกแถลงการณ์ดังกล่าวด้วย
++++ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา ได้เรียกประชุมฝ่ายกฎหมายสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อหารือประเด็นการขอตรา พ.ร.ฎ. เปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ หลังเมื่อวันที่ 11 เม.ย. รัฐบาลทำหนังสือยืนยันความเห็นว่า การเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญไม่สามารถทำได้ โดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะทำหนังสือยืนยันขอเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญไปยังนายกฯอีกครั้ง โดยกำหนดกรอบเวลาคือ วันที่ 24 เม.ย. หรือหาก ครม.เห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่กระชั้นชิด ยังมีช่วงเวลาให้พิจารณาคือวันที่ 30 เม.ย. โดยมี 3 วาระ เกี่ยวกับการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และแต่งตั้งบุคคลในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หากรัฐบาลยืนยันไม่สามารถเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญได้ ก็ไม่มีทางเลือกอื่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่เชื่อว่ารัฐบาลและวุฒิสภาจะทำความตกลงกันได้ โดยไม่ต้องรบกวนศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าจะคุยกันได้
+++วันนี้ต้องติดตตาม ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องขอให้เพิกถอนประกันตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.จากกรณีที่ทั้งสองคนได้ปราศรัยที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่23 ก.พ. มีรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ขอเลื่อนไต่ส่วนออกไป โดยบอกว่า ไม่ได้เป็นเพราะเกรงกลัวการไปให้ปากคำต่อศาล แต่ใช้สิทธิตามกฎหมาย โดยให้ทนายเดินทางไปยื่นเอกสารอย่างถูกต้อง
+++ส่วนการรับรอง สว. ในวันนี้ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ว่าที่ สว.กทม. เตรียมเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กทม.หลังจากถูกกล่าวหาได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จากกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหา ได้ขึ้นเวทีปราศรัยของ กปปส.ประกาศให้ประชาชนสนับสนุนคุณหญิงจารุวรรณ เป็น สว.กทม.