นายมาร์ติน โดลาน ประธานสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งของออสเตรเลีย กล่าวว่า การสำรวจใต้ทะเลเพื่อค้นหาเครื่องบินที่สูญหายของมาเลเซียอาจจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายราว 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาย้ำว่าตัวเลขนั้นเป็นเพียงการประเมินคร่าวๆของปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยที่ยืดเยื้อมาถึงขณะนี้และดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเตรียมจะยอมรับความจริงที่ว่า การใช้โดรนสำรวจไต้ทะเลลึกในมหาสมุทรอินเดียอาจจะไม่ประสบความสำเร็จในการค้นหาซากเครื่องบินของมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินเอ็มเอช 370
ด้านนายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รักษาการรัฐมนตรีขนส่งของมาเลเซียกล่าวว่า หากยังไม่พบซากของเครื่องบิน เจ้าหน้าที่อาจจะต้องทบทวนปฏิบัติการและค้นหาวิธีการใหม่ๆที่จะค้นหาเครื่องบินต่อไป ด้านนายมาร์ติน กล่าวว่า การค้นหาในระยะต่อไปจะเป็นบริเวณน่านน้ำที่กว้างขึ้น ในจุดที่มีการส่งข้อมูลผ่านระบบดิจิตอลระหว่างเครื่องบินกับดาวเทียม พร้อมเพิ่มเติมว่าน่านน้ำในบริเวณน้้ืนยาว 370 ไมล์และกว้าง 30 ไมล์ ในขณะนี้ ทีมกู้ภัยอยู่ระหว่างรอการวิเคราะห์ข้อมูลการสำรวจของบลูฟิน-21 โดรนสำรวจใต้สมุทร หลังการสำรวจใต้ทะเลรวมพื้นที่ 90 ตารางกิโลเมตรหรือราว 34.7 ไมล์ในการลงสำรวจ 3 ครั้งแรก
เจ้าหน้าที่เชื่อว่า สัญญาณพิงที่ดักจับได้ระหว่างการสำรวจครั้งล่าสุดมีคลื่นความถี่เดียวกับสัญญาณฉุกเฉินจากกล่องบันทึกข้อมูลการบิน ทำให้ทีมค้นหาเน้นการสำรวจใต้ทะเลในบริเวณดังกล่าว แม้ว่าจะยังทำการสำรวจใต้ทะเลต่อไป แต่ทีมกู้ภัยจะรอผลการตรวจสอบอื่นๆประกอบด้วย โดยเฉพาะตัวอย่างตัวอย่างคราบน้ำมันที่ผิวน้ำทะเล ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ในห้องแล็บเพื่อดูว่าเป็นเชื้อเพลิงชองเครื่องบิน หรือเรือเดินสมุทร สำหรับเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ สูญหายเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พร้อมคนบนเครื่อง 239 คน หลังบินขึ้นจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่งของจีน