แพทย์ใหญ่อเมริกัน ระบุอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเพราะมาตรการระยะห่างทางสังคมได้ผล

          นพ.แอนโทนี ฟาวชี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อของสหรัฐฯ ยืนยันว่ายังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าอากาศที่อบอุ่นขึ้นจะทำให้โควิด-19 ลดการแพร่ระบาดลง โดยชี้ว่าออสเตรเลีย และอิหร่าน ที่อยู่ในช่วงฤดูร้อนมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ซึ่งเป็นการคัดค้านแนวคิดที่ว่า ไวรัสโคโรนาจะลดลงเมื่ออากาศอบอุ่นขึ้น

          คำกล่าวของ นพ.ฟาวชี่ ยังสอดคล้องกับผลการศึกษาของสถาบันวิทยาศาสตร์วิศวกรรมและการแพทย์แห่งชาติ (National Academy of Science, Engineering and Medicine) ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (7 เม.ย.) ที่ว่าไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักมากพอที่จะระบุได้ว่าอากาศที่อบอุ่นจะชะลอการระบาดของไวรัสโคโรนา

          ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เป็นคนหนึ่งที่เคยกล่าวถึงแนวคิดที่ว่าอากาศที่อบอุ่นจะทำให้โรคระบาดลดลงและมีแผนที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในทันทีที่มาตรการรักษาระยะห่างสังคม (Social Distancing) สิ้นสุดลงในสิ้นเดือนเมษายนนี้ แต่ นพ.ฟาวชี่ ระบุ ย้ำว่าการคงมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม เป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการชะลอการระบาด และอ้างถึงการที่นิวยอร์ก และรัฐคอนเนกติกัต มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็เพราะมาตรการนี้ได้ผล โดยเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) นายแอนดรูว์ คูโอโม่ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เปิดเผยว่าเมื่อวันพุธ (8 เม.ย.) นิวยอร์กมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 200 คน เป็นจำนวนที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรก แต่เขาก็เตือนว่า จากจำนวนผู้ป่วยสะสมของรัฐที่มีมากกว่า 161,000 คน ทุกคนยังต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมและมาตรการอื่น ๆ ต่อไป เพราะในเวลาเดียวกัน เมื่อวันพุธ ยังเป็นวันที่นิวยอร์กสูญเสียมากที่สุด คือมีผู้เสียชีวิตมากถึง 799 ราย ซึ่งทั้งหมดคือผู้ป่วยอาการหนักที่เข้ารับการรักษามาแล้วระยะหนึ่ง

...