สาธารณสุขของมลรัฐแอละบามา สหรัฐฯ รายงานว่ารัฐมีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 3 วันต่อเนื่องกันโดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ป่วยมากถึง 1,162 คน และยังมีอีกหลายร้อยคนที่รอรับทราบผลการตรวจ โดยในการสอบสวนโรคพบว่า มีกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยแอละบามาที่เมืองทัสคาลูซา จัดงานปาร์ตี้โดยเชิญผู้ป่วยโควิด-19 มาร่วมงานแล้วพนันกันว่า ใครจะติดเชื้อเป็นคนแรก
นางซอนยา แมคคินส์ทรี สมาชิกสภาเมืองทัสคาลูซา เปิดเผยว่า ในครั้งแรกที่ได้รับทราบรายงานเรื่องนี้ทุกคนต่างคิดว่าเป็นแค่ข่าวลือ แต่ต่อมา ทั้งแพทย์และเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินต่างยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง โดยในเดือนมีนาคมมหาวิทยาลัยยกเลิกการเรียนการสอนภายในชั้นเรียนเพื่อสกัดการแพร่ระบาด แต่กลับมีรายงานเกี่ยวกับการจัดงานเลี้ยงของกลุ่มนักศึกษา ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องพยายามยับยั้งการจัดงานหลายครั้ง นางแมคคินส์ทรี กล่าวด้วยว่า ในขณะที่ทุกคนพยายามทำทุกทางเพื่อหยุดการแพร่ระบาด เหตุใดพวกเขาจึงจัดงานปาร์ตี้ด้วยความตั้งใจที่จะแพร่กระจายเชื้อโรค และทำให้เกิดคำถามว่าเราจะต่อสู้กับสถานการณ์นี้ได้อย่างไร
โดยทางการรัฐแอละบามา มีคำสั่งให้ผู้ที่มีผลการตรวจเป็นบวกต้องแยกกักกันตนเองเป็นเวลา 14 วันหากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับเป็นเงิน 500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 15,560 บาท) จนถึงในวันพฤหัสบดี (2 ก.ค.) รัฐมีผู้ป่วยยืนยันมากกว่า 38,000 คนโดยอยู่ในทัสคาลูซา 2,049 คน เป็นผู้ป่วยที่แสดงอาการและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 2,800 คนเสียชีวิต 947 ราย และสาธารณสุขของรัฐมีความกังวลว่าอาจเตียงผู้ป่วยหนักไม่เพียงพอ
...