*ศอ.รส.เห็นตรงกับแนวทาง คอ.นธ.ที่ศาลรธน.ไม่มีอำนาจรับวินิจฉัยสถานภาพนายกฯ*

พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล คณะทำงานเลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.)แถลง ผลการประชุม กรณีแถลงการณ์ ศอ.รส.ฉบับที่ 1สอดคล้องกับจดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับของ ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.)ที่มีเนื้อหาเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องวินิจฉัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)และแม้ศาลรัฐธรรมนูญ รับเรื่องไว้พิจารณา ก็ไม่มีผลทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงและไม่มีผลให้รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความกังวลของ ศอ.รส.ว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยเกินกว่ารัฐธรรมนูญ มิได้เป็นการคาดการณ์ที่ไร้มูลความจริง ยืนยัน ศอ.รส.ไม่ได้ก้าวก่ายทำลายความเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศอ.รส.ยังมีความห่วงใยการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญอาจนำไปสู่ความรุนแรงระหว่างกลุ่มต่างๆ พร้อมยกกรณีการวินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช แต่ด้วยเป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ทำให้รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยคำวินิจฉัยนี้ ได้พิจารณาโดยตุลาการ 8 ใน 9 ที่ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน ​นอกจากนี้ ศอ.รส.ได้มีหนังสือถึงปลัดกระทรวง เลขาธิการ  รวมทั้งสิ้น 37 หน่วยงาน เพื่อแจ้งข้อสั่งการของ ศอ.รส.ให้หัวหน้าส่วนราชการ ดำเนินคดีอาญาและดำเนินคดีแพ่งโดยเร่งด่วนในกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมายังสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐ แล้วทำการปิดล้อม บุกรุก หรือข่มขู่ หรือทำให้เสียทรัพย์ รวมถึงให้หลีกเลี่ยงการต้อนรับหรือกระทำการใดๆ ที่เข้าข่ายเป็นการสนับสนุน หรือเห็นด้วยกับการกระทำของแกนนำกลุ่มกปปส. หรือกลุ่มอื่นใด ซึ่งอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีด้วย  เชื่อว่า จะช่วยป้องกันปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรได้ เนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย และลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ​ศอ.รส. มีข้อห่วงใยต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจ สำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เดือนมีนาคม2557 เสียหายกว่า3แสนล้านบาทเกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง การชุมนุม กปปส.ยืดเยื้อ จึงขอเรียกร้องให้ประชาชน ผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ตระหนักถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ

ไลลา