ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างนางซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐและนายเบน โรดส์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ เริ่มต้นการเยือนภูมิภาคเอเชีย 4 ประเทศคือ ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้, มาเลเซียและฟิลิปปินส์ในวันนี้ เพื่อตอกย้ำให้พันธมิตรในแถบเอเชียแปซิฟิคเชื่อมั่นว่า สหรัฐยังคงให้ความสำคัญกับพวกเขา แต่การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ยังมีประเด็นปัญหาอื่นๆที่เบี่ยงเบนความสนใจของผู้นำสหรัฐคือ เหตุความไม่สงบในยูเครน เรือเฟอร์รี่ล่มนอกชายฝั่งทางภาคใต้ของเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ก่อนและกรณีการสูญหายของเที่ยวบิน 370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์เมื่อเดือนก่อน และความหวั่นวิตกว่า สมาชิกนิติบัญญัติในสภาคองเกรสของสหรัฐเองจะคัดค้านแผนการของผู้นำสหรัฐในการขยายการค้ากับภูมิภาคนี้ เดิมทีผู้นำสหรัฐมีกำหนดจะเยือนภูมิภาคนี้เมื่อเดือนตุลาคม ปีก่อน แต่รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจเลื่อนกำหนดการเยือนนั้นในนาทีสุดท้าย หลังการประกาศปิดสถานที่ราชการบางส่วนของสหรัฐ ทำให้เกิดคำถามเรื่องความสามารถในการปรับทิศทางนโยบายต่างประเทศของสหรัฐที่้ต้องการจะคานอำนาจกับประเทศจีน ซึ่งแผ่อิทธิพลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเอเชีย การปรับเปลี่ยนนโยบายนั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงการบริหารประเทศสมัยแรกของนายโอบามา หลังจากนายโอบามาและนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในขณะนั้น ประกาศนโยบายเรื่องการหันกลับมาให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จากเดิมที่เคยมุ่งเน้นพื้นที่ที่เกิดเหตุความไม่สงบในตะวันออกกลางและยุโรป แต่ในปีหลังๆมานี้ การเพิ่มความสัมพันธ์ด้านการทูตกับอิหร่านและเหตุความไม่สงบในยูเครนในขณะนี้ อยู่ในกระแสความสนใจของสื่อต่างๆมากกว่าเรื่องการเพิ่มบทบาทของสหรัฐในภูมิภาคเอเชีย
ทีมต่างประเทศ