ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน 2563

17 พฤศจิกายน 2563, 18:58น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน 2563



ครม.อนุมัติงบฯ กว่า 6,000 ล้านจัดซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ให้คนไทย 26 ล้านโดส



          นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) และการจัดซื้อวัคซีนกับบริษัท AstraZeneca (Thailand) จำกัด และบริษัท AstraZeneca UK จำกัด วงเงิน 6,049,723,117 บาท โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติจะจัดทำสัญญาการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า (Advance Market Commitment; AMC) ภายใต้เงื่อนไขว่า มีโอกาสที่จะได้หรือไม่ได้รับวัคซีนดังกล่าว ขึ้นอยู่กับผลการวิจัยพัฒนาหรือเหตุผลอื่นๆ ในวงเงิน 2,379,430,600 บาท และให้กรมควบคุมโรคจัดทำสัญญาในการจัดซื้อและบริหารจัดการวัคซีนที่ได้จากการจองล่วงหน้านั้น เมื่อคู่สัญญาสามารถจัดหาวัคซีนได้สำเร็จ (Purchase Agree For Supply of AZD1222 in Thailand; PA)) ในวงเงิน 3,670,292,517 บาท โดยดำเนินการจัดทำสัญญาทั้ง 2 ฉบับ ในคราวเดียวกัน โดยสัญญาจัดซื้อวัคซีนมีผลผูกพันเมื่อได้รับงบประมาณเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคจะจัดทำคำของบประมาณสำหรับการจัดซื้อวัคซีนตามสัญญาดังกล่าวต่อไป



          โดยจะเป็นการจัดหาวัคซีนร้อยละ 20 ของประชากร หรือประมาณ 13 ล้านคน จำนวน 26 ล้านโดส กับบริษัท AstraZeneca (Thailand) จำกัด และบริษัท AstraZeneca UK จำกัด ทั้งนี้ เพราะรัฐบาลเห็นความจำเป็นในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึงเป็นธรรม ในเวลาที่ใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ในโลก



เกาหลีใต้เพิ่มมาตรการระยะห่างทางสังคม หลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19เป็นกลุ่มก้อนอีกครั้ง

          นายกรัฐมนตรีช็อง เซ-กยุนของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า รัฐบาลท้องถิ่นกรุงโซลจะยกระดับการเว้นระยะห่างทางสังคมในกรุงโซลสู่ระดับ 1.5 จากที่มีอยู่ 5 ระดับ เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ หลังเกาหลีใต้พบผู้ป่วยใหม่กว่า 200 คนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ระบุว่ารัฐบาลเกาหลีใต้ประเมินว่าความพยายามในการควบคุมโรคเริ่มประสบปัญหา

          ด้านนายพัก นึงฮู รัฐมนตรีสาธารณสุขของเกาหลีใต้ กล่าวในงานแถลงข่าวเดียวกันว่า ต่างจากการแพร่ระบาดครั้งก่อนคือ แนวโน้มการแพร่ระบาดระลอกหลังๆนี้ เป็นกลุ่มก้อนเล็กๆแพร่ระบาดจากร้านอาหารและการชุมนุมต่างๆ



          สำหรับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับ 1.5 มีผลคือ อนุญาตให้ร้อยละ 66 ของนักเรียนสามารถเข้าชั้นเรียนตามปกติ ที่เหลือจะเรียนผ่านระบบออนไลน์ ห้ามโบสถ์ต่างๆจัดให้มีการรวมกลุ่มคนในกรณีอื่นๆนอกจากการจัดพิธีกรรมทางศาสนาที่ทำอยู่ตามปกติ แต่ศาสนสถาน เช่นโบสถ์แต่ละแห่งต้องจำกัดจำนวนประชาชนที่เข้ามายังศาสนสถานเพียงร้อยละ 30 ของความจุของศาสนสถานแต่ละแห่ง ขณะเดียวกัน ร้านอาหารจะต้องตั้งที่กั้นระหว่างโต๊ะนั่ง,บาร์และสถานจัดพิธีแต่งงานจะต้องจัดให้คนอยู่ห่างกันในระยะ 4 ตารางเมตร

          ด้านประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ กล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ยอมรับว่ามาตรการนี้อาจจะกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็ก แต่ขอให้สาธารณชนให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการควบคุมโรคอย่างเต็มที่ ระบุว่า เป็นมาตรการที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ เพื่อสกัดการแพร่ระบาด

         ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พบผู้ป่วยรายใหม่ 230 คนในวันนี้ ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมของเกาหลีใต้อยู่ที่ 28,998 คน เสียชีวิต 494 ราย



ไข้หวัดนกระบาดในเดนมาร์กเร่งฆ่าสัตว์ปีกติดเชื้อ



          สถาบันวัคซีนแห่งเดนมาร์กเผยวานนี้ว่า พบไก่ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N8 ในเขตทรัสทรุป ใกล้กับเมืองแรนเดอร์ส ขณะนี้ต้องกำจัดสัตว์ปีกที่ติดเชื้อทั้งหมด และกำหนดเขตควบคุมสองแห่งเพื่อเฝ้าระวังนกและสัตว์ปีกที่อยู่ใกล้กับฟาร์ม ก่อนหน้านี้ต้นเดือนพ.ย. ได้เกิดไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N8 ระบาดในฝูงนกป่าบริเวณคาบสมุทรจัตแลนด์ของเดนมาร์ก โดยเชื้อดังกล่าวยังได้แพร่ระบาดไปยังหลายพื้นที่ในยุโรป ซึ่งรวมถึงเยอรมนีและฝรั่งเศสด้วย



          ขณะที่กระทรวงเกษตรและอาหารของฝรั่งเศสประกาศวานนี้ว่า มีการยืนยันพบการติดเชื้อไข้หวัดนกที่มีการแพร่กระจายสูงบนเกาะคอร์ซิกาด้วย อย่างไรก็ดี เชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N8 ไม่มีประวัติรายงานการแพร่สู่คน



รอลุ้นพรุ่งนี้ คนละครึ่งเฟส 2 เสนอเข้าศบศ.กระตุ้นเศรษฐกิจ

          นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง เตรียมนำเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (ศบศ.) วันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) เพื่อให้พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในระยะที่ 2 โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ ได้หารือถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของการกระตุ้นกำลังซื้อ และการจับจ่ายของประชาชน ในโครงการ "คนละครึ่ง" ซึ่งพบว่ามาตรการนี้ช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งประชาชนและร้านค้ารายย่อยได้จริงและแม้จะผ่านความเห็นชอบจาก ศบศ.แล้ว ก็จะต้องรอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ 



ประธานรัฐสภา ย้ำใครทำอะไรเกินกว่าเหตุต้องรับผิดชอบ



          เหตุการณ์การชุมนุมของม็อบราษฎร บริเวณหน้ารัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่แล้ว และมีการติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน พบว่า ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติอย่างที่มีสมาชิกบางท่านได้บอก แต่เรื่องการใช้ความรุนแรงนั้น ได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่า หากมีการชุมนุม เรายินดีต้อนรับ เพราะเป็นตัวแทนจากประชาชน ที่นี่ (รัฐสภา) มีคนมาอยู่เป็นปกติ จึงกำชับเจ้าหน้าที่ว่าอย่าประมาท และอย่าวิตกเกินไป



         หากชุมนุมโดยสงบอย่างนี้ไม่มีปัญหา ย้ำอย่างนี้มาตลอด แม้แต่ตอนนี้ แม้แต่ตอนที่ท่านพรเพชร (วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา) มาปฏิบัติหน้าที่แทน ผมไปติดตามดูสถานการณ์ และกำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแล ตามที่ได้สั่งการไป ถ้าเขามาชุมนุมโดยสงบ อย่าไปทำอะไรเกินเหตุ เขามีสิทธิชุมนุมได้ เพราะเราเคารพหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราทำอย่างนี้มาตลอด แต่ขอร้องผู้ชุมนุมดำเนินการโดยสงบ อย่าคุกคาม ไม่ว่าด้วยวาจา หรืออะไรก็ตาม



          ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ขอให้สมาชิกรัฐสภาปฏิบัติหน้าที่ได้ดี หากอะไรไม่ถูกต้อง ต้องมีการรับผิดชอบ ไม่มีใครสามารถปกปิดได้ เพราะมีการบันทึกไว้ตลอดขอย้ำว่าถ้าเขา (ม็อบ) ชุมนุมโดยสงบ ใครทำอะไรเกินเหตุ คนนั้นต้องรับผิดชอบ



หุ้นไทยเผชิญการเมือง ลดลง1.25 จุด



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,349.81 จุด ลดลง 1.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 90,085.63 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลง รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นหลัก โดยภาพรวมปัจจัยการเมืองเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ถ้าไม่เกิดความรุนแรงขึ้นตลาดฯก็น่าจะรีบาวด์ขึ้นได้ เพราะรัฐบาลก็ประนีประนอมอยู่แล้วในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ทั้งนี้ ตลาดฯได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วกว่า 100 จุด ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เป็นโอกาสที่จะพักตัวได้เช่นกัน ในช่วงรอดูสถานการณ์การเมืองในประเทศ และรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง.ในวันพรุ่งนี้



          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยแตะระดับ 26,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 29 ปี ขานรับความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากบริษัทโมเดอร์นาของสหรัฐฯ  รายงานถึงประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 26,014.62 จุด เพิ่มขึ้น 107.69 จุด



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา ซึ่งเพิ่มความหวังว่าจะสามารถสกัดกั้นการแพร่ระบาด และจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวในอัตราที่เร็วขึ้น ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 26,415.09 จุด เพิ่มขึ้น 33.42 จุด



มท.เข้มเดินทางวันหยุดยาวให้ปลอดภัย วางแผนรับมือเดินทางปีใหม่2564



          การเดินทางช่วงวันหยุดยาวอย่างไรให้ปลอดภัย ผลการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เตรียมความพร้อมแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยใช้กรอบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุอย่างเข้มข้น พร้อมทั้งการดำเนินมาตรการเชิงรุก “เคาะประตูบ้าน” ป้องปราม และตักเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนภายในชุมชน ใช้กลไก “ด่านครอบครัว” โดยให้สมาชิกในครอบครัวคอยเฝ้าระวัง ตักเตือนสมาชิกในครอบครัวให้ร่วมสร้างความปลอดภัยทางถนน ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนในช่วงวันหยุดยาว 19 - 22 พ.ย.นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัดในแต่ละพื้นที่จำนวน 2,110 ด่านทั่วประเทศเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ และยังอยู่ภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อีกด้วย สำหรับตัวเลขสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากศูนย์รับแจ้งเหตุบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจำกัดและเครือข่ายรับแจ้ง ขณะนี้การเกิดอุบัติเหตุตลอดช่วงปี 2563 จนถึงปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 13,121 ราย และมีผู้บาดเจ็บรวม 864,101 คน 



ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ รับวันหยุดราชการ-เลื่อนวันหยุดชดเชยเดือนพ.ย.และ ธ.ค.นี้



          น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม กำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษในวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษและเลื่อนวันหยุดชดเชยในช่วงเดือนพ.ย. และ ธ.ค. 63 บนทางหลวงพิเศษบูรพาวิถีและทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 63 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 23 พ.ย. 63 เวลา 24.00 น. และตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 63 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 14 ธ.ค. 63 เวลา 24.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ซึ่งจะทำให้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ไม่ได้รับรายได้ประมาณ 197.14 ล้านบาท แต่จะได้ผลประโยชน์ตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจประเมินเป็นมูลค่าเงินจำนวน 228.72 ล้านบาท



เลื่อนเปิดซองรถไฟฟ้าสายสีส้ม! รฟม.รอคำตัดสินศาลปกครองสูงสุด



          นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังศาลปกครองสูงสุดนัดไต่สวน คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง กรณีมีคำสั่งทุเลาการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การประเมินโครงการของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 จากเดิมมีเกณฑ์กำหนดพิจารณาซองที่ 3 ด้านการเงิน 100 คะแนน ปรับเป็นข้อเสนอที่ 2 ด้านเทคนิค 30 คะแนน และด้านการเงิน 70 คะแนน



          ดังนั้นจากการยื่นอุทธรณ์คำสั่งทุเลาในครั้งนี้  รฟม.พิจารณาแล้ว จะยังไม่ดำเนินการเปิดซองข้อเสนอของเอกชน ที่ได้ยื่นข้อเสนอมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย.63 เนื่องจากต้องการรอฟังคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดเพื่อกำหนดขั้นตอนดำเนินการต่อไป จากเดิมมีกำหนดจะเปิดพิจารณาซองที่ 1 ข้อเสนอด้านคุณสมบัติ ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ ก่อนจะเปิดซอง 2 และซอง 3 ที่คาดว่าจะใช้เวลาประเมินผลราว 1-2 เดือน และเข้าสู่ขั้นตอนการเจรจาต่อรองผู้ผ่านการประเมินสูงสุดโดยคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการรฟม. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นปี 64 และลงนามสัญญาในต้นเดือน มี.ค. 64



ครม.แก้กฎหมายให้หญิงทำแท้งได้



          คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 และมาตรา 305 ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ซึ่งเป็นความผิดฐานทำให้แท้งลูก มีสาระสำคัญ คือ แก้ไขเพิ่มเติมให้หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถทำแท้งได้ จากเดิมที่ห้ามหญิงตั้งครรภ์ทำแท้งโดยเด็ดขาด และแก้ไขลดอัตราโทษหญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูก ขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ จากเดิมที่กำหนดให้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ เป็นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ  นอกจากนี้ ยังเพิ่มเหตุยกเว้นความผิดฐานทำให้แท้งลูก ให้ครอบคลุมกรณีที่จำเป็นและสมควรต้องทำแท้งหรือยุติการตั้งครรภ์ให้กับหญิง



          การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 กำหนดให้หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูก หรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูก มีความผิดอาญา เป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของหญิงเกินจำเป็น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 28 บุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย



          จากนี้จะส่งร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาดังกล่าว ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา  แล้วเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยด่วน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ก่อนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลบังคับใช้ 1 ปี หากแก้ไขไม่แล้วเสร็จ มาตรา 301 จะไม่มีผลบังคับใช้โดยปริยาย เพราะกฎหมายจะขัดต่อรัฐธรรมนูญไม่ได้

ข่าวทั้งหมด

X