พบผู้ใกล้ชิดหญิงเจ้าของแพปลา สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 3 คน

18 ธันวาคม 2563, 12:30น.


          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้ากรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นหญิงวัย 67 ปี เจ้าของแพปลาที่ตลาดกุ้ง  จังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนโรค ติดตามไทม์ไลน์ของหญิงวัย 67 ปีรายนี้แล้ว พบว่า


- วันที่ 1-12 ธ.ค.63 ผู้ป่วยขายของที่แพปลา ในตลาดกุ้ง ตั้งแต่เวลา 06.00-11.00 น.ทุกวัน ใกล้ชิดกับลูกชายคนที่ 1 อายุ 39 ปี และลูกจ้างชาวเมียนมา 2 คน 


- วันที่ 13 ธ.ค.63  เริ่มป่วยด้วยอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น 


- วันที่ 16 ธ.ค. 63 เวลา 18.00 น.ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชน เพื่อตรวจหาเชื้อ โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสผู้ป่วย 8 คน หลังจากเก็บตัวอย่างหาเชื้อแล้ว ได้ให้ผู้ป่วยกลับไปรอผลที่บ้าน หลังจากนั้นเวลา 22.00 น.ทราบผลว่าติดเชื้อ จึงติดตามตัวผู้ป่วยมากักตัวที่โรงพยาบาลเอกชน 


- วันที่ 17 ธ.ค.63 เวลา 02.30 น. แยกผู้ป่วยส่งไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ส่งตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ในเวลา 08.00 น. ยืนยันว่าพบเชื้อ กักตัวเพื่อเข้ารับการรักษา 


 




 


           เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนและติดตามหาผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายนี้ รวมทั้งหมด 165 คน แบ่งเป็นกลุ่มความเสี่ยงสูง 26 คน และความเสี่ยงต่ำ 139 คน   


 




 


ในกลุ่มความเสี่ยงสูง แยกเป็น


1.กลุ่มครอบครัวที่บ้าน 7 คน ประกอบด้วย


-ลูกชายคนรอง อายุ 31 ปี


-เพื่อนลูกชาย


-พี่สาว อายุ 73 ปี 


-แม่ อายุ 95 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง


-น้องสะใภ้ อายุ 57 ปี


-แม่บ้านที่ทำงานไป-กลับ อายุ 56 ปี


ทั้งหมดส่งตรวจหาเชื้อและกักตัวในโรงพยาบาลสมุทรสาครแล้ว พบว่ามี 3 คน ที่ติดเชื้อ คือ พี่สาว,แม่ และน้องสะใภ้ 


2.กลุ่มที่ทำงานด้วยกันที่แพปลาของผู้ป่วย 3 คน ประกอบด้วย


-ลูกชายคนโต อายุ 39 ปี


-ลูกจ้างชาวเมียนมา 2 คน อายุ 48 ปี และ 40ปี


ทั้งหมดส่งตรวจหาเชื้อและกักตัวในโรงพยาบาลสมุทรสาครแล้ว ผลของลูกชายไม่พบเชื้อ ส่วนของลูกจ้างเมียนมา กำลังรอผลตรวจ คาดว่า ทราบผลในวันนี้ 


3.กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน 8 คน ที่ผู้ป่วยไปตรวจครั้งแรก ทั้งหมดส่งตรวจหาเชื้อแล้ว ผลไม่พบเชื้อ แต่กักตัวเพื่อเฝ้าระวังและจะเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อซ้ำ


4.กลุ่มแรงงานในตลาดกุ้ง 8 คน ส่งตรวจหาเชื้อและกักตัวแล้ว อยู่ระหว่างรอผล 


ส่วนในกลุ่มความเสี่ยงต่ำทั้ง 139 คน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหาเชื้อแล้ว อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 


 




 


          สำหรับพื้นที่ภายในตลาดกุ้งที่ผู้ป่วยขายของอยู่ แบ่งเป็น


-ตลาดโซนเอ ที่ผู้ป่วยขายของอยู่ เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนและส่งผู้สัมผัสเสี่ยงตรวจหาเชื้อแล้ว ยืนยันพบผู้ป่วย 4 คน คือหญิงผู้ป่วยวัย 67 ปี พี่สาว แม่ และน้องสะใภ้ของผู้ป่วย


-ตลาดโซนบี เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ คาดว่า จะเสร็จสิ้นในวันนี้ 


-หอพักซึ่งมีแรงงานชาวเมียนมาพักอาศัย เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม คาดว่าจะต้องสอบสวนโรคผู้ที่เกี่ยวข้องกว่าร้อยคน  ขณะนี้ปิดตลาดกุ้งเป็นเวลา 3 วัน เพื่อสอบสวนโรคและทำความสะอาด 


 




 


          ส่วนกระแสข่าวว่ากินอาหารทะเลหรือซูชิปลาดิบแล้วจะเสี่ยงติดเชื้อ เพราะมีรายงานในต่างประเทศว่าพบเชื้อโควิด-19 จากอาหารแช่แข็ง นพ.โสภณ  ระบุว่า โอกาสที่ไทยจะมีเชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนในอาหารทะเล มีน้อยมาก เนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อในประเทศไม่มาก ต่างจากกรณีในต่างประเทศที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากและรุนแรง แต่แนะนำให้ทานอาหารปรุงสุก เพื่อป้องกันไว้ก่อน


 




 


           ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ตลาดทะเลไทย ที่อยู่ห่างจากตลาดกุ้งไปประมาณ 2 กิโลเมตร ไม่มีผู้ติดเชื้อและไม่เกี่ยวข้องกับตลาดกุ้ง ดังนั้นจึงเปิดดำเนินการตามปกติ สามารถไปจับจ่ายซื้อของได้ เพียงแต่ต้องทำตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด 


          ส่วนข่าวลือว่ามีผู้ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาครนับร้อยคน ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน ขณะนี้พบเพียง 4 คนเท่านั้น โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำลังเร่งสอบสวนโรคว่าหญิงวัย 67 ปี เจ้าของแพปลา ที่เป็นผู้ป่วยรายแรก ไปติดเชื้อมาจากที่ไหน เมื่อทราบแล้วจะรายงานให้สาธารณชนรับทราบ  รวมทั้งกำลังเร่งประเมินและตรวจสอบว่า จะมีการติดเชื้อไปยังบุคคลอื่นอย่างไร และจะเร่งสอบสวนโรคตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งหมดให้เร็วที่สุด


          ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา หลังจากผ่านไป 2 อาทิตย์ไม่พบตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม และที่จังหวัดเชียงราย ผู้ติดเชื้อได้เข้ากักตัวในสถานกักกันของรัฐแล้ว ดังนั้นจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย สถานการณ์ควบคุมได้แล้ว ปลอดภัย สามารถเดินทางท่องเที่ยวและใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ต้องรักษามาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มข้น เช่นเดียวกับกรณีบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานในสถานกักโรคและติดเชื้อ 7 คน ขณะนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงก็เข้ากักตัวเฝ้าระวังและรอผลการตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม  


 
ข่าวทั้งหมด

X