+++นายมาร์ติน โดแลน ประธานคณะกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการขนส่งของออสเตรเลีย กล่าวว่า การค้นหาเครื่องบินที่สูญหายของมาเลเซียแอร์ไลน์ ทางภาคตะวันตกของออสเตรเลีย ทีมค้นหาได้พบวัตถุที่น่าสนใจอยู่ชิ้นหนึ่ง แต่ทางการมาเลเซีย กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเป็นเบาะแสที่แท้จริงหรือไม่ นายโดแลนกล่าวถึงวัตถุชิ้นนั้นว่ามีลักษณะเป็นแผ่นโลหะยึดด้วยหมุด ระบุว่าทีมค้นหาเก็บกู้ขึ้นได้ในแถบชายฝั่งของเมืองออกัสตา ห่างจากเมืองเพิร์ธไปทางทิศใต้ราว 300 กิโลเมตร ด้านนาย ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รักษาการรัฐมนตรีขนส่งของมาเลเซีย กล่าวว่ามาเลเซียยังไม่ได้รับภาพถ่ายใดๆจากออสเตรเลีย
ขณะนี้วัตถุชิ้นนั้นอยู่ในความอารักขาของตำรวจทางภาคตะวันตกของประเทศ หน่วยงานท้องถิ่นปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้เนื่องจากอยู่ในอำนาจของรัฐบาลกลาง ส่วนการค้นหาใต้ทะเลในช่วงที่ผ่านมา บลูฟิน-21 ยานสำรวจใต้ทะเลของกองทัพเรือสหรัฐได้ทำการค้นหาครอบคลุมบริเวณที่กำหนดไว้ถึงร้อยละ 80 แต่ไม่พบซากเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ ส่วนพื้นที่อีกร้อยละ 20 นายฮิชามมุดดิน กล่าวว่า จะใช้วิธีการเดียวกันนี้สำรวจใต้ทะเลต่อไป
+++ทางการเกาหลีใต้ จับกุมลูกเรืออีก 4 คนหลังเรือเฟอร์รี่เซวอลอัปปางที่นอกชายฝั่งทางภาคใต้ของประเทศเมื่อวันพุธก่อน ทำให้จนถึงขณะนี้มีผู้ถูกจับกุมแล้วรวม 11 คน ตำรวจยังได้บุกเข้าตรวจค้นบริษัทหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับบริษัทชอง แฮจิน มารีน จำกัด ผู้เดินเรือในเมืองอินชอน เพื่อทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมกันนี้ ตำรวจยังห้ามผู้บริหารกว่า 70 คนบริษัทชองแฮจิน และบริษัทในเครือไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศในช่วงนี้ เพื่อรอการสอบปากคำ ขณะเดียวกันในวันนี้ ทีมกู้ภัยยังคงเก็บกู้ศพได้อีกหลายศพจากใต้ท้องเรือที่อัปปาง สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตขณะนี้เพิ่มเป็น 156 ศพในวันนี้ มีคนที่สูญหายอีก 150 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเดียวกันในเมืองอันซาน ทางตอนใต้ของกรุงโซล นอกจากนี้ มีการจัดพิธีศพใกล้ๆกับโรงเรียนแห่งนั้นในวันนี้ มีเพื่อนๆและสมาชิกในครอบครัวร่วมไว้อาลัยด้วยการวางดอกไม้ต่อหน้าภาพถ่ายของผู้ตายจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกัน รัฐบาลเกาหลีใต้ถูกกดดันอย่างหนักจากสาธารณะชนเพื่อให้สอบสวนสาเหตุที่ทำให้เรืออัปปางในครั้งนี้ ในจำนวนคนบนเรือทั้่ง 476 คน มีเพียง 174 คน รวมถึงกัปตัน และลูกเรือส่วนใหญ่เท่านั้นที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย โดยลูกเรือทั้ง 29 คน มีผู้รอดชีวิต 22 คน พนักงานอัยการระบุว่า ลูกเรือ 11 คนอยู่ที่บริเวณสะพานเรือขณะเกิดเหตุ ก่อนที่เรือจะจมลงทะเลในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา
+++ด้านเกาหลีเหนือได้ส่งสารแสดงความเสียใจผ่านทางองค์การกาชาดซึ่งมีการติดต่อข้ามพรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้โดยข้อความระบุว่าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อทราบว่า มีผู้โดยสารจำนวนมากเสียชีวิตและยังสูญหายส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมจากเหตุเรือเฟอร์รี “เซวอล”อับปางนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาหลีใต้เมื่อเช้าวันที่ 16เม.ย.ที่ผ่านมา
+++นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะตอบโต้ ถ้าหากว่าผลประโยชน์ของรัสเซียในยูเครนถูกโจมตี พร้อมทั้งเปรียบเทียบเหตุการณ์นี้ว่าคล้ายๆกับการทำสงครามกับจอร์เจียเมื่อปี 2551 ระหว่างการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์อาร์ทีของทางการรัสเซีย นายลาฟรอฟ ได้กล่าวหาสหรัฐว่าต้องการแสดงบทบาทในการแก้ไขวิกฤตในยูเครน
+++ทหารอเมริกันชุดแรกเดินทางถึงโปแลนด์แล้ว หลังจากรัฐบาลสหรัฐ ประกาศจะส่งทหารจำนวน 600 นายไปที่นั่นและประเทศอื่นๆในแถบทะเลบอลติก ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นของสถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซีย ทหารจำนวน 130 นาย จากกองทหารอากาศที่ 173 หรือ หน่วยทหารฟ้า (Sky soldiers) ซึ่งประจำการอยู่ที่เมืองวิเซนซา ประเทศอิตาลี เดินทางถึงเมืองชฟิดวิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศโปแลนด์ด้วยเครื่องบินขนส่ง 'เฮอร์คิวลิส' 2 ลำ และได้รับการต้อนรับจาก โทมาสซ์ ซีโมเนียค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งโปแลนด์ ส่วนทหารอีก 450 นายจะเดินทางถึงประเทศเอสโตเนีย, ลัตเวีย และลิทัวเนียภายใน 2-3 วันข้างหน้า และคาดว่ากองทัพเหล่านี้จะทำการฝึกซ้อมทางทหารในภูมิภาคนี้ไปจนถึงสิ้นปี
+++สตีเฟน มัล เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศโปแลนด์ กล่าวว่า โปแลนด์กำลังเผชิญกับการรุกรานที่ไม่อาจยอมรับได้ของรัสเซีย ที่กระทำต่อยูเครน ซึ้งเป็นรัฐเอกราชและอธิปไตย เรามีข้อสัญญาอย่างจริงจังในกรอบแผนงานของนาโต เพื่อรับประกันความมั่นคงของ และขณะนี้รัสเซียยังคงทหารจำนวน 40,000 นายไว้บริเวณชายแดนทางตะวันออกของยูเครน โดยนาโตเตือนว่า ทหารเหล่านี้สามารถโจมตีทันทีที่ได้รับคำสั่ง
+++แรงเทขายกลุ่มเทคโนโลยีฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(23) ขยับลงเล็กน้อย ส่งผลทำให้ ดัชนีอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ ลดลง 12.72 จุด ปิดที่ 16,501.65 จุด ส่วนราคาน้ำมันลดลงวานนี้(23) หลังคลังสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากกำลังผลิตภายในประเทศที่แข็งแกร่ง สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 31 เซนต์ ปิดที่ 101.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 109.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลความกังวลต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯประกอบกับความตึงเครียดในยูเครนและข้อมูลทางเศรษฐกิจบางอย่างที่ไม่สดใส กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เป็นผลให้ทองคำวานนี้(23) เพิ่มขึ้น 3.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,284.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐเริ่มต้นภารกิจการเยือนประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียโดยมาที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นลำดับแรกเมื่อเดินทางมาถึงกรุงโตเกียวก็ได้รับการต้อนรับจากนายชินโซอาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพามารับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังในกรุงโตเกียวเป็นร้านซูชิ ข้าวหน้าปลาดิบชื่อร้าน “ซูกิยาบาชิ จิโร”ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่ารสชาติอร่อย คนแน่นถึงขนาดต้องจองที่นั่งล่วงหน้าเพราะมีเพียง 10ที่นั่งเท่านั้นในร้านและให้บริการโดยนายจิโรโอโนะ วัย 87ปีเจ้าของสารคดีเมื่อปี 2554ในเรื่อง“จิโร ความฝันแห่งซูชิ” แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับบุคคลสำคัญระดับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่สามารถจองที่นั่งเพื่อเลี้ยงรับรองอาหารค่ำให้กับประธานาธิบดีสหรัฐผู้มาเยือน
+++ประธานาธิบดีโอบามาและนายกรัฐมนตรีอาเบะได้จับมือทักทายกันหน้าร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ในชั้นใต้ดินก่อนที่จะลงไปรับประทานอาหารค่ำร่วมกันเป็นการส่วนตัวซึ่งค่าอาหารนั้นอยู่ที่ประมาณ300ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 9,600บาท มีนางแคโรไลน์ เคนเนดี้เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่นและนางซูซาน ไรซ์ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาวร่วมรับประทานอาหารด้วย
+++ปิดท้าย สื่อออนไลน์ “ออนโบอาและมุนฮวา”ของเกาหลีใต้เผย ปัจจุบันนี้โรงพยาบาลหลายแห่งในเกาหลีใต้ต้องออกเอกสารยืนยันใบหน้าให้กับผู้ที่มาทำศัลยกรรมที่เดินทางมาจากต่างแดน เนื่องจากใบหน้าก่อนและหลังทำศัลยกรรมของคนไข้มีความแตกต่างกันมากจนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ยอมให้ออกนอกเกาหลีใต้เพื่อเดินทางกลับประเทศ ในปี25 52 มีหญิงชาวจีนจำนวน 23 รายที่ไม่สามารถเดินทางออกนอกเกาหลีได้ เนื่องจากประสบปัญหาดังกล่าว
โดยเกาหลีใต้กำลังกลายเป็นเมืองหลวงแห่งการทำศัลยกรรมใบหน้าที่มีผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมาศัลยกรรมมากถึง 25,176 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน จากสถิติของปี 2554 โดยในเกาหลีเองก็พบว่า ในผู้หญิงทุก ๆ 77 ราย จะมีหนึ่งรายที่เคยทำศัลยกรรมมา และผู้หญิงอายุ 19-49 ปี ในกรุงโซลร้อยละ 20 เคยผ่านมีดหมอมาแล้ว